(เพิ่มเติม) AOT จ้างกลุ่ม PLE สร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 สุวรรณภูมิเฟส 2,ให้"คิง เพาเวอร์ฯ"บริหารพื้นที่พาณิชย์ดอนเมือง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 23, 2017 15:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ทอท.อนุมัติให้ว่าจ้าง PCS Joint Venture ซึ่งประกอบด้วย บมจ. เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) และบริษัท ไชน่า สเตท คอนสตรัคชั่น เอนยิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น 2-4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย) โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 54-60) เป็นเงิน 14,235,000,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

โดย PCS Joint Venture เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดเป็นเงิน 14,235,000,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคากลาง เป็นเงิน 1,941,903,875.06 บาท หรือคิดเป็น 12% มีกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 660 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งให้เริ่มงานก่อสร้าง (Notice to Proceed) จาก ทอท. ทั้งนี้ โครงการพัฒนา ทสภ. การก่อสร้างจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 62 และคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 63

ปัจจุบัน อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ตามโครงการพัฒนา ทสภ. อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ชั้น B 2 ชั้น B1 และชั้น G ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) โดย บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) เป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง โดยจะส่งมอบพื้นที่ที่แล้วเสร็จบางส่วนให้กับ PCS Joint Venture ดำเนินการก่อสร้างต่อไป

นอกจากนี้ คณะกรรมการ ทอท.ได้พิจารณาอนุมัติให้บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรรภูมิ จำกัด ได้รับสิทธิในการประกอบกิจการโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ อาคาร 1 ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง มีอายุสัญญา 10 ปี จากที่มีผู้ยื่นข้อเสนอการดำเนินงาน 4 ราย และมีผู้ผ่านหลักแกณฑ์คุณสมบัติที่กำหนด 3 ราย คือ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด และบริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด

โดยจากการพิจารณาข้อเสนอด้านเทคนิค ประกอบด้วย ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในเชิงธุรกิจ แผนการดำเนินงาน แผนธุรกิจ รวมทั้งข้อเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือน (Minimum) ปรากฏว่า บริษัท คิงเพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ได้คะแนนรวมสูงสุด โดยได้เสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเป็นเงินจำนวน 17,651,120 บาท

และจากการเจรจาต่อรอง บริษัท คิงเพาเวอร์ฯ ยินดีเพิ่มค่าผลประโยชน์ตอบแทนให้อีกเดือนละ 31,280 บาท รวมเป็นค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนปีแรก เดือนละ 17,682,400 บาท โดยมีอายุสัญญา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ ทอท.ส่งมอบพื้นที่ และ ทอท.จะเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือนจากการประกอบกิจการโครงการฯ ในอัตรา 15% ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ ก่อนหักค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น หรือตามจำนวนเงินค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือน แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า

ทั้งนี้ ทอท.จะปรับการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป ในอัตรา 10% ของปีก่อนหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ