หุ้น BGRIM ราคาร่วงแรง 9.26% มาอยู่ที่ 24.50 บาท ลดลง 2.50 บาท มูลค่าซื้อขาย ล้านบาท เมื่อเวลา 10.01 น. โดยเปิดตลาดที่ 24.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 24.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 24.40 บาท
เช้านี้หนังสือพิมพ์ระบุว่า แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า บมจ.บี.กริม พาวเวอร์ หรือ BGRIM ได้ยื่นหนังสือต่อ กกพ. เพื่อขอย้ายพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าความร้อนร่วม จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บี.กริม เพาเวอร์ ราชบุรี หรือ BGPR1 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บี.กริม เพาเวอร์ ราชบุรี 2 หรือ BGPR2 กำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์ (MW) ไปยังบริเวณนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย สุวรรณภูมิ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จากเดิมที่มีการก่อสร้างในนิคมอุตสาหกรรม วี.อาร์.เอ็ม. ต.รางบัว จ.ราชบุรี
สำหรับเหตุผลที่ทำให้ BGRIM จำเป็นต้องขอย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการ เนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ได้ประกาศยกเลิกเขตอุตสาหกรรม วี.อาร์.เอ็ม. ราชบุรี หลังเกิดปัญหาพื้นที่โครงการทับซ้อนกับเขตดำเนินการของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ส่งผลให้ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่โครงการเป็นนิคมอุตสาหกรรมได้ โดย กนอ.ได้ออกประกาศยุบเขตอุตสาหกรรม วี.อาร์.เอ็ม. ตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. 2559
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า BGRIM เพิ่งจะดำเนินการยื่นเรื่องไปยัง กกพ.ว่าการย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการ เป็นความผิดของ กนอ. ที่ทำให้ไม่สามารถพัฒนาโครงการต่อไปได้ จึงต้องขอย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้า ทางด้านนางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGRIM แจ้งเช้านี้ว่า บริษัทอยู่ในระหว่างดำเนินการขอย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าโครงการ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (ราชบุรี) 1 จำกัด (BGPR 1) และ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ (ราชบุรี) 2 จำกัด (BGPR 2) ซึ่งลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2554 ต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานซึ่งเป็นการดำเนินการตามระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก ประเภทสัญญา Firm ระบบ Cogeneration พ.ศ. 2553 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2554) (ระเบียบการรับซื้อไฟฟ้า SPP) เนื่องจากประกาศคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เรื่อง ยุบเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรม วี.อาร์.เอ็ม. ราชบุรี เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2558
โดยกระบวนการอนุมัติการย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้า บริษัทได้ติดต่อประสานงานไปที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อพิจารณาความพร้อมของจุดเชื่อมโยงไฟฟ้าและสายส่งไฟฟ้าของที่ตั้งโรงไฟฟ้าใหม่ภายในนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย (สุวรรณภูมิ) จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มุ่งประโยชน์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนจากทั้งในและต่างประเทศ และเป็นการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับพื้นที่ EEC เนื่องจากนิคมอยู่ใกล้ บริเวณส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ในสถานีไฟฟ้าแรงสูงบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลตามที่กาหนดไว้ในระเบียบการรับซื้อไฟฟ้า SPP ซึ่งหากบริษัทได้รับคำวินิจฉัยจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเรื่องการย้ายที่ตั้งดังกล่าวแล้ว
บริษัทยังคงวางแผนกำหนดการก่อสร้างโรงไฟฟ้าประมาณ 24- 26 เดือนก่อนกำหนดวันเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้า (SCOD) เพื่อให้โรงไฟฟ้าเปิดดำเนินการซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 ตามที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า โดยหากมีความคืบหน้าจากกระบวนการพิจารณาอนุมัติดังกล่าว บริษัทจะแจ้งความคืบหน้าให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบในคราวต่อไป