ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 152.90 จุด หรือ 0.97% ปิดที่ 15,593.98 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 23.34 จุดหรือ 1.32% ปิดที่ 1,747.15 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 74.62 จุด หรือ 1.90% ปิดที่ 3,857.33 จุด
ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขประมาณครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 ขยายตัว 2.8% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 2.0% และเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2555 หลังจากที่ขยายตัว 2.5% ในไตรมาส 2 เพราะได้แรงหนุนจากการที่ภาคธุรกิจปรับเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลัง โดยสต็อกสินค้าคงคลังในภาคเอกชนของสหรัฐคิดเป็นสัดส่วนราว 0.83% ของการขยายตัวของจีดีพี
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 พ.ย.ลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 336,000 ราย ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 335,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 340,000 ราย
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเทขายทำกำไรในเวลาต่อมา เพราะมองว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเหล่านี้อาจจะทำให้เฟดตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการ QE หรือโครงการซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
หุ้นทวิตเตอร์ปิดตลาดซื้อขายวันแรกที่ระดับ 44.90 ดอลลาร์ สูงกว่าราคา IPO ที่ระดับ 26 ดอลลาร์ โดยทวิตเตอร์ อิงค์ ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจโซเชียลมีเดีย ได้กำหนดราคาหุ้น IPO ที่ 26 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งมีเป้าหมายที่จะระดมทุน 1.82 หมื่นล้านดอลลาร์
หุ้น Qualcomm ร่วงลง 3.8% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้
ขณะที่หุ้น Whole Foods ซึ่งผู้จำหน่ายอาหารจากธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ ร่วงลง 11% หลังรายงานระบุว่า ผลกำไรของบริษัทในปีที่สิ้นสุดเดือนก.ย. 2557 จะอยู่ที่ 1.69 ดอลลาร์/หุ้น เมื่อเทียบการณ์ครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 1.72 ดอลลาร์/หุ้น และคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.73 ดอลลาร์/หุ้น
หุ้น J.C. Penney ทะยานขึ้น 5.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่เพิ่มขึ้น
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.ในวันนี้เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขจ้างงานเดือนต.ค.จะเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวอยู่ที่ 7.3%