ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลงเกือบ 0.1% ปิดที่ 323.23 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,081.03 จุด เพิ่มขึ้น 40.16 จุด หรือ +0.44% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,280.99 จุด ลดลง 5.94 จุด หรือ -0.14% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,697.22 จุด ลดลง 44.47 จุด หรือ -0.66%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังจากอีซีบีมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.25% จากระดับ 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ภายหลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เบื้องต้นเดือนต.ค.ของยูโรโซนลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.7% จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 1.1% ซึ่งดัชนี CPI เดือนต.ค.ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554
การประกาศลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นลบว่า เศรษฐกิจยูโรโซนอาจจะอยู่ในภาวะย่ำแย่ จึงทำให้อีซีบีตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยอย่างพลิกความคาดหมาย
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เฟดตัดสินใจปรับลดขนาดมาตรการ QE หรือโครงการซื้อพันธบัตร 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ในระยะเวลาที่รวดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2556 ของสหรัฐขยายตัว 2.8% ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัว 2.0% ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 336,000 ราย ใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 335,000 ราย
หุ้น HeidelbergCement ร่วงลง 3.8% ขณะที่หุ้น Bureau Veritas ดิ่งลง 3.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนหุ้น Siemens AG เพิ่มขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดและประกาศแผนซื้อคืนหุ้น ส่วนหุ้น Swiss Re ดีดตัวขึ้น หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน