(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 91.06 จุด รับกระแสกระตุ้นศก.จีน,ยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 24, 2014 06:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (21 พ.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ยังคงเดินหน้าทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ธนาคารกลางทั่วโลกต่างเคลื่อนไหวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 91.06 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 17,810.06 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 10.75 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 2,063.50 ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 11.10 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 4,712.97 จุด

สำหรับทั้งสัปดาห์ ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 โดยดาวโจนส์บวก 1.0% S&P 500 ปรับตัวขึ้น 1.2% และ Nasdaq บวก 0.5%

ทั้งดาวโจนส์ และ S&P 500 ต่างแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 17,894.83 จุด และ 2,071.46 จุดตามลำดับ หลังจากที่ทั้งสองดัชนีเพิ่งปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี จากการเปิดเผยข้อมูลยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค.ของสหรัฐซึ่งปรับตัวขึ้นผิดไปจากที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนหลังจากที่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ธนาคารกลางจีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.4% สู่ระดับ 5.6% โดยมีผลตั้งแต่วันเสาร์นี้

การประกาศลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนก.ค. 2555 ซึ่งถือเป็นความพยายามล่าสุดของทางการจีนในการเดินหน้าสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ ภายหลังจากที่ได้มีการอัดฉีดสภาพคล่อง และลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์แบบกำหนดเป้าหมาย

ขณะเดียวกันนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวในการประชุม European Banking Congress ในแฟรงค์เฟิร์ตว่า อีซีบีพร้อม "ทำในสิ่งที่เราต้องทำ เพื่อผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อและอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ปรับตัวสูงขึ้นโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" และจะขยายโครงการซื้อสินทรัพย์หากจำเป็น ซึ่งนายดรากิไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้เรื่องการซื้อพันธบัตรรัฐบาล

นายดรากิได้กล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นของตนเองว่าจะใช้มาตรการเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาในยูโรโซน

ก่อนหน้านี้ เขาได้เคยเผยว่า เจ้าหน้าที่ของอีซีบีกำลังศึกษาวิธีการต่างๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนที่ขยายตัวเพียง 0.2% ในไตรมาสที่ผ่านมา และเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับต่ำเพียง 0.4% ซึ่งต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับเป้าหมายเงินเฟ้อของอีซีบีที่ 2%

ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางจีนและธนาคารกลางยุโรปมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดี มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทผู้ให้บริการข้อมูลทางการเงิน ได้เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของยูโรโซนปรับตัวลดลงแตะ 51.4 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ขณะที่เอชเอสบีซีเผยดัชนี PMI เบื้องต้นเดือนพ.ย.ของจีน ปรับตัวลดลงแตะที่ 50 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กขยับลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนขายหุ้นเพื่อทำกำไร หลังจากที่หุ้นพุ่งสูงในช่วงเปิดตลาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ