(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวน์โจนส์ปิดบวก 23.89 จุด รับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนฯ,กลุ่มการเงิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 2, 2017 06:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (29 ก.ย.) โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้พบปะกับนายเควิน วอร์ช ซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหารือเกี่ยวกับการแต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งประธานเฟด สืบต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน โดยนายวอร์ชเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่เฟดที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 22,405.09 จุด เพิ่มขึ้น 23.89 จุด หรือ +0.11% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,519.36 จุด เพิ่มขึ้น 9.30 จุด หรือ +0.37% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,495.96 จุด เพิ่มขึ้น 42.51 จุด หรือ +0.66%

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.3% ขณะที่ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 1.1% และ ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.7%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนี Nasdaq และ S&P500 ปิดในแดนบวก โดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ปรับตัวขึ้น 0.75% ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.23%

ดัชนีหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น 0.34% โดยหุ้นกลุ่มการเงินเคลื่อนไหวในแดนบวกอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ได้ออกมาส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า เฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ทิศทางของเงินเฟ้อยังคงไม่แน่นอนก็ตาม นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มการเงินยังได้รับปัจจัยหนุนล่าสุดจากข่าวที่ว่า ปธน.ทรัมป์ ได้พบปะกับนายเควิน วอร์ช ซึ่งเป็นอดีตผู้ว่าการเฟด เพื่อหารือเกี่ยวกับการแต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งประธานเฟด สืบต่อจากนางเยลเลน โดยนายวอร์ชเป็นผู้ว่าการเฟดในปี 2006-2011 และได้ลาออกจากคณะกรรมการเฟด เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับโครงการซื้อพันธบัตรของเฟดตามมาตรการ QE

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ปธน.ทรัมป์เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนปฏิรูปภาษีต่อสมาคมผู้ผลิตแห่งชาติสหรัฐ (NAM) เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวที่ตลาดจับตาเป็นอย่างมาก หลังจากเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้เสนอให้มีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดลงสู่ระดับ 35% จากปัจจุบันที่ 39.6% โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดและมีผลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า รายได้ส่วนบุคคลของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ ขยับขึ้น 0.1% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หุ้นโซเจนิกซ์ ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มเภสัชกรรม ทะยานขึ้นแข็งแกร่งถึง 172% หลังจากบริษัทประกาศความสำเร็จในการทดลองยาใหม่เพื่อรักษาโรคลมชัก

หุ้นไทสัน ฟู้ดส์ พุ่งขึ้น 7.6% หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ประจำปีงบ 2560 และประกาศปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งรวมถึงลดจำนวนพนักงานบางส่วน

หุ้นโฮลฟู้ดส์ ขยับขึ้นเพียง 0.5% หลังมีกระแสข่าวว่าแฮกเกอร์พยายามขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าที่ใช้บริการผ่านเครื่องรูดบัตรของทางบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ