ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (22 พ.ย.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและกลุ่มธุรกิจสร้างบ้าน อย่าไงรก็ตาม การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาโลหะในตลาดโลก
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.3% ปิด 387.06 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,352.76 จุด ลดลง 13.39 จุด หรือ -0.25% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,015.04 จุด ลดลง 152.50 จุด หรือ -1.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,419.02 จุด เพิ่มขึ้น 7.68 จุด หรือ +0.10%
หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านร่วงลง นำโดยหุ้นบาร์ราตต์ เดเวลลอปเมนต์ส ดิ่งลง 3.7% หุ้นเบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิงส์ ร่วง 2.6% หุ้นเพอร์ซิมมอน ลดลง 1.9% และหุ้นเทย์เลอร์ วิมปีย์ ลดลง 1.8%
หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านของอังกฤษได้รับปัจจัยกดดันหลังจากนายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษได้เปิดเผยรายละเอียดของร่างงบประมาณฉบับใหม่ ซึ่งมีการบรรจุแผนส่งเสริมให้เพิ่มจำนวนที่อยู่อาศัยที่ประชาชนจะหาซื้อได้
หุ้นกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวร่วงลงเช่นกัน นำโดยหุ้นโธมัน คุ๊ก ดิ่งลง 8.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในปีงบการเงิน 2560 เนื่องจากการแข่งขันอันดุเดือดในตลาดสเปน
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นตามทิศทางราคาโลหะในตลาดโลก โดยโดยหุ้นเฟรสนิลโล พุ่งขึ้น 4.3% หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส เพิ่มขึ้น 1.4% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ขยับขึ้น 0.7%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันเช่นกัน โดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 4.6% หุ้นโททาล ปรับขึ้น 0.7% และหุ้นเรพซอล ขยับขึ้น 0.7% เช่นกัน
สำหรับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่มีผลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปนั้น สำนักงานเพื่อความรับผิดชอบด้านงบประมาณ (OBR) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะขยายตัว 1.5% ในปีนี้ โดยลดลงจากระดับ 2.0% ที่มีการคาดการณ์ในเดือนมี.ค.