World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 17, 2015 07:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 ก.ค.2558

-- -ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า รัฐสภากรีซมีมติอนุมัติร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่ ซึ่งจะช่วยให้กรีซได้รับเงินช่วยเหลือรอบใหม่และรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเพิ่มวงเงินฉุกเฉินให้แก่ภาคธนาคารของกรีซ และสหภาพยุโรป (ECB) เห็นพ้องในการปล่อยเงินกู้ระยะสั้นให้กับกรีซ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,120.25 จุด เพิ่มขึ้น 70.08 จุด หรือ +0.39% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,163.18 จุด เพิ่มขึ้น 64.24 จุด หรือ +1.26% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,124.29 จุด เพิ่มขึ้น 16.89 จุด หรือ +0.80%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเพิ่มวงเงินกู้ฉุกเฉินให้แก่ภาคธนาคารกรีซ เพื่อช่วยบรรเทาภาวะตึงตัวในระบบธนาคารของกรีซ รวมทั้งข่าวที่ว่าสหภาพยุโรป (EU) เห็นพ้องในหลักการที่จะปล่อยเงินกู้ระยะสั้นวงเงิน 7 พันล้านยูโรให้กับกรีซแล้ว ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนตลาดหุ้นยุโรปทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกัน 7 วันทำการ

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1.4% ปิดที่ 405.43 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,121.50 จุด เพิ่มขึ้น 74.26 จุด หรือ +1.47% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,716.76 จุด พุ่งขึ้น 177.10 จุด หรือ +1.53% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,796.45 จุด เพิ่มขึ้น 42.70 จุด หรือ +0.63%

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศเพิ่มวงเงินกู้ฉุกเฉินให้แก่ภาคธนาคารกรีซ เพื่อช่วยบรรเทาภาวะตึงตัวในระบบธนาคารของกรีซ ในขณะที่มีแนวโน้มว่าวิกฤตหนี้สินกรีซใกล้จะยุติลงแล้ว

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 42.70 หรือ 0.63% ปิดที่ 6,796.45 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันในการแถลงต่อสภาคองเกรสวันที่สองว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองคำด้วย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 1,143.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 6.4 เซนต์ ปิดที่ 14.984 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 10.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,011.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 10.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 631.95 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเป็นผลมาจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ปรับตัวสูงขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 50 เซนต์ ปิดที่ 50.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 57.51 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) เนื่องจากถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการลดลงของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐได้ช่วยหนุนการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0875 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0950 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5608 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5636 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.13 เยน จาก 123.70 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9578 ฟรังก์ จาก 0.9516 ฟรังก์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7406 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7374 ดอลลาร์

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,120.25 จุด                            เพิ่มขึ้น 70.08 จุด     +0.39%
          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,163.18 จุด                           เพิ่มขึ้น 64.24 จุด     +1.26%
          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,124.29 จุด                           เพิ่มขึ้น 16.89 จุด     +0.80%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,796.45 จุด                         เพิ่มขึ้น 42.70 จุด     +0.63%
          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,716.76 จุด                             เพิ่มขึ้น 177.10 จุด    +1.53%
          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,121.50 จุด                           เพิ่มขึ้น 74.26 จุด     +1.47%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,042.21 จุด                             ลดลง 11.99 จุด      -0.13%
          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,600.12 จุด                         เพิ่มขึ้น 136.79 จุด    +0.67%
          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,087.89 จุด                           เพิ่มขึ้น 14.98 จุด     +0.72%
          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,649.80 จุด                เพิ่มขึ้น 30.80 จุด     +0.55%
          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,669.60 จุด                   เพิ่มขึ้น 33.40 จุด     +0.59%
          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,823.18 จุด                        เพิ่มขึ้น 17.48 จุด     +0.46%
          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,617.13 จุด                    เพิ่มขึ้น 58.09 จุด     +0.77%
          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,162.78 จุด                              เพิ่มขึ้น 107.02 จุด    +0.43%
          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,353.45 จุด                         เพิ่มขึ้น 14.59 จุด     +0.44%
          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,446.12 จุด                           เพิ่มขึ้น 247.83 จุด    +0.88%
          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิด (ซื้อขายครึ่งวัน) ที่ 1,726.73 จุด           ลดลง 0.53 จุด       -0.03%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ