คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ 7 ต่อ 3 เสียงในการประชุมวันนี้ ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้
กรรมการ FOMC จำนวน 3 รายไม่เห็นชอบต่อมติการคงอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี
แม้เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ แต่แถลงการณ์ของเฟดได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้
แถลงการณ์เฟดระบุว่า "ปัจจัยสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้มีน้ำหนักมากขึ้น"
นอกจากนี้ นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวหลังสิ้นสุดการประชุมในวันนี้ว่า ตนคาดหวังที่จะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้
เฟดยังเหลือการประชุมอีก 2 ครั้งในปีนี้ คือวันที่ 1-2 พ.ย. และ 13-14 ธ.ค.
นักวิเคราะห์มองว่าแถลงการณ์ของเฟดบ่งชี้การขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายในปีนี้ ขณะที่เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ย. เนื่องจากไม่ต้องการส่งผลกระทบก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.
เฟดระบุว่า คณะกรรมการ FOMC มีมติยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้ จนกว่าจะมีหลักฐานมากขึ้นที่บ่งชี้ถึงความคืบหน้าไปสู่เป้าหมายของเฟดด้านการจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ เฟดระบุว่า ตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง และกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้น
เฟดเปิดเผยว่า ความเสี่ยงในระยะใกล้ต่อแนวโน้มเศรษฐกิจอยู่ในระดับค่อนข้างสมดุล ซึ่งเป็นการใช้ประโยคดังกล่าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งในเดือนดังกล่าวเฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี
เฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 1.8% ในปีนี้ ลดลงจากระดับ 2% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ ขณะที่ขยายตัว 2% ในปี 2017 และ 2018 ส่วนในปี 2019 จะมีการขยายตัว 1.8% และการขยายตัวในระยะยาวอยู่ที่ 1.8% ลดลงจากเดิมที่ระดับ 2%
เฟดยังคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อจะแตะระดับ 1.3% ในปีนี้ ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 1.4% ขณะที่ปีหน้าอยู่ที่ 1.9% และอยู่ที่ 2% ในปี 2018-2019 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวอยู่ที่ 2.0%
ขณะเดียวกัน เฟดได้ปรับลดคาดการณ์จำนวนครั้งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เหลือ 1 ครั้ง จากเดิมที่คาดการณ์ 2 ครั้ง ขณะที่คาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2017 และ 2018 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 3 ครั้งในแต่ละปี
เฟดปรับลดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยสู่ 0.63% ในปีนี้ ลดลงจาก 0.88% ที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่ปี 2017 อยู่ที่ 1.13% ลดลงจากเดิมที่ 1.63% และในปี 2018 อยู่ที่ 1.88% ลดลงจาก 2.38% ส่วนในปี 2019 อยู่ที่ 2.63% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.88% ลดลงจาก 3.01% ก่อนหน้านี้
เฟดคาดการณ์อัตราว่างงานในปีนี้อยู่ที่ 4.8% ขณะที่ปี 2017,2018 และ 2019 อยู่ที่ระดับ 4.6%, 4.5% และ 4.6% ตามลำดับ ขณะที่อัตราว่างงานในระยะยาวอยู่ที่ 4.8%