รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนในเดือนมิ.ย. หดตัวลง 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน สู่ระดับ 7.90 แสนล้านเยน (หรือประมาณ 7.19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากภาคการผลิตชะลอตัวลง
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคนั้น ถือเป็นตัวเลขที่สามารถบ่งชี้การใช้จ่ายในอนาคตของบริษัทเอกชน
สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้คงระดับการประเมินยอดสั่งซื้อเครื่องจักรว่า การฟื้นตัวของยอดสั่งซื้อเครื่องจักรได้เข้าสู่ภาวะชะงักงันในเดือนมิ.ย. ซึ่งเกิดขึ้นเพียงเดือนเดียวหลังจากที่รัฐบาลได้ปรับลดการประเมินยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน
รายงานระบุว่า ความต้องการเครื่องจักรญี่ปุ่นในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการส่งออกในอนาคตนั้น หดตัวลง 3.1% ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 9.124 แสนล้านเยน
ส่วนในช่วงไตรมาส 2 (เดือนเม.ย.-มิ.ย.) ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรร่วงลง 4.7% ซึ่งเป็นการหดตัวลงติดต่อกันสองไตรมาส โดยได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลงในอุตสาหกรรมนอกภาคการผลิต อย่างไรก็ตาม คาดว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรในไตรมาส 3 (เดือนก.ค.-ก.ย.) จะดีดตัวขึ้น 7% เนื่องจากความต้องการเครื่องจักรอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น