สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนก.ค.ของจีนลดลงสู่ระดับ 47.7 จากดัชนี PMI ขั้นสุดท้ายของเดือนมิ.ย.ที่ 48.2
ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า
นายฉู หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอชเอสบีซีกล่าวในแถลงการณ์ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ค.ที่ลดลง บ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวของภาคการผลิต อันเนื่องมาจากคำสั่งซื้อใหม่ที่อ่อนแรงลง และตอกย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านการขยายตัว
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบร่วงลง 2.83 ล้านบาร์เรล แตะ 364.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 2.4 ล้านบาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.23 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 126.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลง 1.39 ล้านบาร์เรล แตะ 222.7 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.ของสหรัฐทะยานขึ้น 8.3% แตะที่ 497,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2551 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 485,000 ยูนิต