สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) หลังประเทศผู้ผลิตน้ำมันให้ความร่วมมือมากขึ้นในการลดกำลังการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. บวก 11 เซนต์ หรือ 0.22% ปิดที่ 50.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 56.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำหรับตลอดสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. บวก 0.4% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ทะยาน 2.2%
เมื่อวานนี้ รัฐมนตรีน้ำมันจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก เช่น รัสเซีย และอีกหลายประเทศ ได้จัดการประชุมที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อพิจารณาเรื่องการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน
คณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) เปิดเผยว่า ประเทศที่ร่วมในข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน ให้ความร่วมมือลดกำลังการผลิตที่ระดับ 116% ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 94% ในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีน้ำมันจากกลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่มโอเปก ยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน โดยมีแนวโน้มว่าจะทำการพิจารณาอีกครั้งในเดือนม.ค.ปีหน้า ว่าจะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตหรือไม่ จากกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดเมื่อจบไตรมาสแรกของปีหน้า
นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานรัสเซีย กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเดือนม.ค.จะเป็นช่วงเวลาเร็วที่สุดที่เราจะสามารถกล่าวถึงภาวะตลาดน้ำมันได้" ขณะที่รัฐมนตรีน้ำมันของชาติอื่นคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันอาจทำการตัดสินใจอีกครั้งภายในปีนี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนหลังจากที่ เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนลดลง 5 แท่น สู่ระดับ 744 แท่นในสัปดาห์นี้