In Focusวิกฤตสภาพอากาศจู่โจมทั่วโลกรับปีม้าพยศ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 12, 2014 11:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

“ม้า" เป็นสัตว์มงคล เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง และปี 2557 ก็ถือเป็นปี “ม้าทอง" สำหรับผู้คนในหลายประเทศ เป็นฤกษ์งามยามดีสำหรับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ในขณะเดียวกันก็คงพูดได้ว่าปีนี้เป็นปี “ม้าพยศ" ด้วย เพราะเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงกันตั้งแต่ต้นปีในแทบทุกทวีปทั่วโลก ดังนี้

เอเชีย

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับภัยหิมะตกหนักในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยในกรุงโตเกียวที่มีหิมะตกสะสมหนาถึง 27 เซนติเมตร นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 45 ปี ขณะที่เมืองเซนไดมีหิมะหนา 35 เซนติเมตร หนักที่สุดในรอบ 78 ปี เมืองคูมากายะหิมะหนาถึง 43 เซนติเมตร หนักที่สุดในรอบ 60 ปี และเมืองชิบะ มีหิมะหนา 32 เซนติเมตร

วิกฤตสภาพอากาศครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบคมนาคมในกรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ โดยรถไฟหลายเที่ยวถูกยกเลิก ซึ่งรวมถึงรถไฟชินคังเซ็นสายโทโฮคุ ขณะเดียวกันเที่ยวบินในประเทศหลายร้อยเที่ยวบินต้องถูกยกเลิก นอกจากนั้นยังเกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับหิมะซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์เพราะถนนลื่น จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 1,200 คนทั่วประเทศ ขณะที่บ้านเรือนกว่า 20,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้

อย่างไรก็ดี แม้จะเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้าย แต่ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากก็ยังออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าการกรุงโตเกียวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนบางส่วนไม่สามารถออกไปใช้สิทธิ์ได้

ออสเตรเลีย

สภาพอากาศที่ร้อนจัด แห้งแล้ง และลมพัดแรง ส่งผลให้รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ต้องเผชิญกับเหตุไฟป่าที่รุนแรงที่สุดในรอบ 5 ปี โดยมีไฟไหม้กว่า 100 จุดทั่วพื้นที่ของรัฐ ส่งผลให้บ้านเรือนจำนวนหนึ่งได้รับความเสียหาย ขณะที่นักผจญเพลิงได้ต่อสู้กับไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จนทางการต้องประกาศเตือนภัยฉุกเฉิน

เหตุไฟป่าครั้งนี้มีความรุนแรงมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐวิกตอเรียเมื่อวันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2552 หรือที่เรียกกันว่า “Black Saturday" ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปถึง 173 คน และสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนกว่า 2,000 หลัง

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าเกิดไฟป่ากว่า 50 จุดในรัฐนิวเซาท์เวลส์และเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ติดกับรัฐวิกตอเรีย จนต้องมีการปิดทางหลวงที่เชื่อมระหว่างนครเมลเบิร์น เมืองหลวงของรัฐวิกตอเรีย กับนครซิดนีย์ เมืองหลวงของรัฐนิวเซาท์เวลส์

ยุโรป

อังกฤษเผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่หลังเกิดเหตุฝนตกลงมาอย่างหนักอย่างต่อเนื่อง โดยทำสถิติฝนตกช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม หนักที่สุดในรอบ 137 ปี โดยเฉพาะทางใต้ของอังกฤษนั้น ถือเป็นฤดูหนาวที่มีฝนตกหนักที่สุดในรอบ 248 ปี

ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากภัยพิบัติครั้งนี้ มณฑลต่างๆได้รับความเสียหายอย่างมาก โดยต้องหยุดเดินรถไฟในมณฑลเดวอนและคอร์นวอลล์ เนื่องจากรางรถไฟเลียบชายฝั่งทะเลถูกกระแสน้ำพัดได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันบางพื้นที่ในมณฑลซัมเมอร์เซตก็จมอยู่ใต้น้ำมานานกว่า 1 เดือนแล้ว

นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ได้อนุมัติงบฉุกเฉิน 30 ล้านปอนด์ เพื่อนำมาใช้บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนั้นยังลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในมณฑลซัมเมอร์เซต อย่างไรก็ดี ประชาชนได้ตำหนิการทำงานของรัฐบาลว่าเป็นไปอย่างล่าช้า ส่งผลให้พื้นที่เพาะปลูกถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน และชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

อเมริกา

สหรัฐอเมริกาเผชิญกับพายุหิมะและอากาศหนาวเย็นจัดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ หิมะได้ปกคลุมถนนหนทางจนทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ย่ำแย่ ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์มากมาย เช่นในเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส เมืองโอคลาโฮมาซิตี รัฐโอคลาโฮมา และรัฐคอนเนคทิคัต ซึ่งมีรายงานอุบัติเหตุบนท้องถนนรวมกันนับพันครั้ง

นอกจากนี้ พายุหิมะที่พัดถล่มยังทำให้หลายพื้นที่ในหลายรัฐไม่มีไฟฟ้าใช้ เช่นในรัฐเพนซิลเวเนีย แมริแลนด์ นิวเจอร์ซีย์ อาร์คันซอ เคนทักกี นิวยอร์ก เดลาแวร์ อินดีแอนา และคอนเนตทิคัต เป็นต้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนนับล้านชีวิต โรงเรียนและหน่วยงานรัฐต่างๆ ต้องประกาศปิดทำการ และทั่วประเทศได้มีการยกเลิกเที่ยวบินหลายพันเที่ยว

ด้านรัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ประสบกับภาวะขาดแคลนเกลือที่ใช้โรยเพื่อละลายหิมะและน้ำแข็งที่เกาะถนน และนับตั้งแต่ต้นปีนี้ นิวยอร์กใช้งบประมาณในการกำจัดหิมะไปแล้วถึง 57.3 ล้านดอลลาร์ ส่วนนิวเจอร์ซีย์ใช้ไปกว่า 60 ล้านดอลลาร์

ตะวันออกกลาง

อิหร่านเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นจัดและหิมะตก โดยทางภาคเหนือของประเทศถูกพายุหิมะถล่มหนักที่สุดในรอบ 50 ปี อุณหภูมิดิ่งลงต่ำสุด -18 องศาเซลเซียส บางพื้นที่มีหิมะทับถมสูงถึง 2 เมตร หลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้า แก๊ส และน้ำประปาใช้ ทำให้ประชาชนกว่าครึ่งล้านได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก

ขณะที่เมืองหลวงอย่างกรุงเตหะรานก็มีหิมะปกคลุมทั่วพื้นที่ อุณหภูมิลดลงต่ำสุด -8 องศาเซลเซียส โรงเรียนหลายแห่งต้องปิดการเรียนการสอน รถยนต์หลายพันคันถูกจอดทิ้งไว้ตามถนนเพราะไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้ และบ้านเรือนบางส่วนไฟฟ้าดับ อย่างไรก็ดี ประชาชนบางส่วนรู้สึกตื่นเต้นและสนุกสนานกับการเล่นหิมะ เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกประเทศที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ มีกำลังกายและกำลังใจที่จะฝ่าฟันวิกฤตไปให้ได้ และเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างเข้มแข็งและมีพลังดุจม้าอาชาไนย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ