In Focus“โดนัลด์ ทรัมป์" เตรียมเปิดทำเนียบขาวรับ "เทเรซา เมย์"

ข่าวต่างประเทศ Wednesday January 25, 2017 15:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ท่ามกลางจุดยืนที่เปลี่ยนแปลงไปของสหรัฐและสหราชอาณาจักรบนเวทีโลก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 45 ของสหรัฐอเมริกา เดินเกมรุกอย่างรวดเร็วหลังเข้าพิธีสาบานตนอย่างเป็นทางการ ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐจะพบปะอย่างเป็นทางการกับนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งถือเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่จะได้หารือและประชุมร่วมกับ “ทรัมป์" ในระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐวันที่ 26-27 มกราคมนี้

ผู้นำที่ถูกสื่อตีตราว่าเป็นผู้นำเจ้าลัทธิชาตินิยมและคุ้มครองการค้าจาก 2 ทวีป จะหารือกันในประเด็นข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและอังกฤษ กิจการด้านธนาคาร และประเด็นแรงงานของทั้ง 2 ประเทศ โดยฝ่ายสหรัฐอยากให้อังกฤษสนับสนุนจุดยืนในการบีบให้ประเทศสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) รับผิดชอบในส่วนของค่าใช้จ่ายในการคุ้มกันประเทศมากยิ่งขึ้น สื่อต่างประเทศมองว่า หากอังกฤษสามารถจัดเตรียมข้อตกลงเรื่องภาษีกับสหรัฐได้สำเร็จ จะทำให้นายกฯอังกฤษมีอำนาจในการเจรจาต่อรองกับกลุ่มอียูมากขึ้น

ประเด็นเรื่องข้อตกลงพาสปอร์ติง ดีล (Passporting Deal) เป็นแนวคิดที่ทีมงานทรัมป์เตรียมนำเสนอให้มีการเจรจาร่วมกันระหว่างทรัมป์กับเมย์ เนื้อหาใจความหลักคือการเปิดทางให้บริษัทสัญชาติอังกฤษและสหรัฐได้ทำการค้าในเขตแดนของทั้ง 2 ประเทศ โดยมีอุปสรรคด้านกฎระเบียบที่น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ปัจจุบัน ธนาคารของอังกฤษมีข้อตกลงพาสปอร์ติง ดีล กับสหภาพยุโรป (อียู) อยู่แล้ว ซึ่งหมายความว่า ธนาคารสัญชาติอังกฤษสามารถให้บริการด้านการเงินในประเทศใดก็ได้ในกลุ่ม 28 ประเทศสมาชิกอียู ภายใต้กฎเกณฑ์เพียงกฎเกณฑ์เดียว ในขณะที่อียูขู่ว่าจะยกเลิกสิทธิพิเศษเหล่านี้ เมื่ออังกฤษถอนตัวออกจากกลุ่มไปแล้ว ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนมองว่า หากอังกฤษสูญเสียสิทธิดังกล่าวไป จะทำให้เม็ดเงินไหลไปสู่ฝรั่งเศสหรือเยอรมนีแทน

ด้วยเหตุนี้ ข้อตกลงเรื่องกฎเกณฑ์ในการทำธุรกิจของภาคธนาคารระหว่างสหรัฐและอังกฤษจึงเป็นหนึ่งในข้อตกลงด้านการค้าดีลใหม่ที่ถูกจับตามองว่า ทรัมป์และเมย์จะสรุปประเด็นนี้ว่าอย่างไร

สำหรับประเด็นเรื่องกลาโหมนั้น สหรัฐต้องการให้กลุ่มอียูรับผิดชอบค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมในสัดส่วน 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ รวมทั้งให้คำมั่นสัญญาเรื่องการให้ความร่วมมือในการจัดการกับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) และเทงบในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอสมากกว่านี้ ซึ่งสื่ออังกฤษก็รายงานในทำนองที่ว่า เมย์คงจะแสดงจุดยืนสนับสนุนสหรัฐในเรื่องนี้เช่นกัน

สื่ออังกฤษรายงานด้วยเช่นกันว่า นายกฯอังกฤษอาจจะสอบถามถึงจุดยืนของทรัมป์ที่มีต่อรัสเซีย รวมทั้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน

นอกเหนือไปจากประเด็นที่จะมีการหารือกันแล้ว ทีมงานทรัมป์ก็ไม่พลาดที่จะจัดเตรียมกิมมิคสำหรับการเยือนสหรัฐของเทเรซา เมย์ เพื่อที่จะสร้างโมเมนต์แบบที่เคยเกิดขึ้นในสมัยของโรนัลด์ เรแกน และนางมาร์กาเร็ต แทธเชอร์ ช่วงทศวรรษที่ 80 โดยทรัมป์เองก็ชื่นชมในตัวเรแกนว่าเป็นฮีโร่การเมืองของตนเอง แถมยังยืมสโลแกนที่ว่า “make America great again" มาใช้ในช่วงหาเสียงจนถึงปัจจุบัน

อย่างก็ดี ทีมงานทรัมป์เองต้องการสร้างความแตกต่างให้กับการเดินทางเยือนสำหรับแขกผู้นำจากต่างประเทศคนแรก โดยจะไม่มีการพาเทเรซา เมย์ ไปยังแคมป์ เดวิด ซึ่งเป็นสถานที่ตากอากาศรัฐแมรี่แลนด์ของประธานาธิบดีสหรัฐ รวมทั้งพิธีการต่างๆนานาที่เคยจัดในสมัยบารัค โอบามา ทีมงานทรัมป์อยากให้การพบปะกันครั้งนี้ออกมาในรูปแบบของการเจรจาแบบนักธุรกิจซะมากกว่า

หลังจากที่เมย์มาเยือนสหรัฐแล้ว ทรัมป์และทีมงานก็วางแผนที่จะเดินทางเยือนอังกฤษไว้แล้วเช่นกันในช่วงฤดูร้อนของอังกฤษ คล้ายๆกับเกมเหย้าและเกมเยือนเพื่อไม่ให้น้อยหน้ากันยังไงยังงั้น โดยหนึ่งในกิจกรรมที่อยู่ในระหว่างการหารือและวางแผนของทีมงาน คือ การออกรอบหวดวงสวิงของผู้นำจอมขวานผ่าซากที่สนามกอล์ฟบริเวณปราสาทบัลเมอรัล ด้วยความหวังว่า จะได้ "ภาพเป็นข่าว" เหมือนกับที่อดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน เคยทำมาแล้วเมื่อคราวที่เรแกนขี่ม้าที่ปราสาทวินด์เซอร์ขณะเยือนอังกฤษเมื่อปี 2525 นอกจากนี้อังกฤษยังวางแผนเชิญให้ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมที่จัดไว้เพื่อเตรียมต้อนรับผู้นำจากสหรัฐด้วย

แต่แผนการทั้งหลายเหล่านี้ ยังต้องรอทางการอังกฤษอนุมัติกันอีกที เพราะหลายฝ่ายต่างรอดูว่า ทรัมป์มีจุดยืนที่เป็นมิตรกับเมย์ ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า ทรัมป์เรียกเมย์อย่างเป็นกันเองว่า "แมกกี้" ซึ่งคล้ายๆกับที่โรนัลด์ เรแกน เรียกขานนางแทธเชอร์ แต่การเยือนสหรัฐครั้งนี้ ไม่รู้ว่า "เมย์" จะมีท่าทีในทำนองเดียวกับที่แทธเชอร์มีให้กับเรแกนหรือไม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ