สรุปผลข้อมูลเบื้องต้น สำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555 : อุตสาหกรรมการผลิต ปริมณฑล (ข้อมูลรายละเอียดจากการแจงนับ)

ข่าวทั่วไป Friday November 8, 2013 09:59 —สำนักงานสถิติแห่งชาติ

ในปัจจุบันโครงสร้างอุตสาหกรรมการผลิตเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีอุตสาหกรรมการผลิตใหม่ๆ เกิดขึ้นรวมทั้งการประกอบอุตสาหกรรมขนาดเล็ก และอุตสาหกรรมในครัวเรือน ก็มีบทบาทสำคัญต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเพิ่มขึ้น ดังนั้นข้อมูลสถิติและสารสนเทศโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการประกอบอุตสาหกรรมดังกล่าว จึงมีความสำคัญและจำเป็นสำหรับภาครัฐ และเอกชนใช้ในการกำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมทั้งในระดับประเทศ และระดับจังหวัด เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในเวทีการค้าโลก สำนักงานสถิติแห่งชาติและหน่วยงานหลักด้านเศรษฐกิจของประเทศ ได้แก่ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงพาณิชย์ เห็นควรให้มีการจัดทำสำมะโนอุตสาหกรรมทุก 5 ปี เพื่อให้ประเทศมีข้อมูลสถิติพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งทุกภาคส่วนสามารถใช้ประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาประเทศร่วมกัน

สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้จัดทำสำมะโนธุรกิจทางการค้าและธุรกิจทางการบริการมาแล้ว 3 ครั้ง ในปี 2509 2531 และ 2545 และจัดทำ สำมะโนอุตสาหกรรมมาแล้ว 3 ครั้งเช่นกัน ในปี 2507 2540 และ 2550 สำหรับในปี 2555 ครบรอบ 10 ปี การทำสำมะโนธุรกิจทางการค้าและธุรกิจทางการบริการ และครบรอบ 5 ปี การทำสำมะโนอุตสาหกรรม สำนักงานสถิติแห่งชาติ จึงได้บูรณาการการจัดทำสำมะโนดังกล่าวไปพร้อมกันภายใต้ชื่อ "โครงการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555"

สำหรับข้อมูลที่นำเสนอในรายงานฉบับนี้ เป็นผลการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555 : อุตสาหกรรมการผลิต ที่ได้จากการแจงนับข้อมูลรายละเอียดของสถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิต โดยกำหนดระเบียบวิธีทางสถิติเฉพาะสถานประกอบการที่มีคนทำงาน 1 - 10 คนทำการสำรวจด้วยตัวอย่าง ส่วนสถานประกอบการที่มีคนทำงาน 11 คนขึ้นไป จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลทุกแห่ง ซึ่งเป็นการดำเนินกิจการในรอบปี 2554 (1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2554) ที่ตั้งอยู่ในปริมณฑล และประกอบอุตสาหกรรมตามการจัดประเภทมาตรฐานอุตสาหกรรมประเทศไทย ปี 2552 (Thailand Standard Industrial Classification: TSIC-2009) โดยได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลในระหว่างเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม พ.ศ. 2555 สรุปดังนี้

จำนวนสถานประกอบการ จำแนกตามหมวดย่อย อุตสาหกรรม

ผลจากการสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555 พบว่า มีจำนวนสถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิต ที่ตั้งอยู่ในปริมณฑลทั้งสิ้น มีประมาณ 24,997 แห่ง อุตสาหกรรมสำคัญในภาคนี้ คือ การผลิตผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์ (ยกเว้นเครื่องจักรและอุปกรณ์) และการผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายโดยมีสถานประกอบการด้านนี้ ร้อยละ 20.7 และ 17.1 ตามลำดับ อุตสาหกรรมในลำดับรองลงไป ได้แก่ การผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่มและยาสูบมีร้อยละ 13.0 สำหรับการผลิตสิ่งทอและการผลิตผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก มีสัดส่วนเท่ากันคือร้อยละ 5.7 ส่วนสถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตหมวดย่อยอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น มีจำนวนต่ำกว่าร้อยละ 4.0

ขนาดของสถานประกอบการ

สถานประกอบการ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.5 หรือ 17,116 แห่ง เป็นสถานประกอบการที่มีคนทำงาน 1 - 15 คน มีสถานประกอบการที่มีคนทำงานตั้งแต่ 16 คนขึ้นไป มีอยู่เพียงร้อยละ 31.5 หรือมีจำนวน 7,881 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นสถานประกอบการที่มีคนทำงาน 51 - 200 คน มีจำนวน 2,594 แห่ง และที่มีคนทำงาน 16 - 25 คน มีจำนวน 1,829 แห่ง ในขณะที่สถานประกอบการที่มีคนทำงาน 26 - 30 คน มีจำนวน 698 แห่ง เท่านั้น

รูปแบบการจัดตั้งตามกฏหมาย

สถานประกอบการส่วนใหญ่ (ร้อยละ 51.4) มีรูปแบบการจัดตั้งเป็นส่วนบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่เป็นนิติบุคคล ส่วนที่มีรูปแบบเป็นบริษัทจำกัด บริษัทจำกัด (มหาชน) มีประมาณร้อยละ 39.6 สำหรับที่มีรูปแบบเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล ห้างหุ้นส่วนจำกัด มีประมาณร้อยละ 8.6 และ ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สหกรณ์และอื่นๆ มีเพียงเล็กน้อยประมาณร้อยละ 0.4 เท่านั้น

รูปแบบการจัดตั้งทางเศรษฐกิจ

สถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิต ในปริมณฑล ร้อยละ 93.4 เป็นสำนักงานแห่งเดียว ไม่มีสำนักงานใหญ่หรือสำนักงานสาขาอยู่ที่ใดอีก ร้อยละ 3.7 เป็นสำนักงานสาขาและที่เป็นสำนักงานใหญ่มีร้อยละ 2.9

ระยะเวลาในการดำเนินกิจการ

สถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 32.9 เป็นสถานประกอบการที่ดำเนินกิจการ 10 - 19 ปี ดำเนินกิจการระหว่าง 5 - 9 ปี และน้อยกว่า 5 ปี มีประมาณร้อยละ 26.4 และ 21.4 ตามลำดับ ส่วนสถานประกอบการที่ดำเนินกิจการ 20 - 29 ปี มีประมาณ 13.6 ในขณะที่สถานประกอบการที่ดำเนินกิจการตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไปนั้น มีเพียงเล็กน้อย ประมาณร้อยละ 5.7 ของจำนวนสถานประกอบการทั้งสิ้น

ทุนจดทะเบียน

สถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตในปริมณฑลที่มีทุนจดทะเบียนมีประมาณร้อยละ 44.7 ของจำนวนสถานประกอบการทั้งสิ้น ในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่ (ประมาณร้อยละ 68.0) มีทุนจดทะเบียนน้อยกว่า 10 ล้านบาท ที่มีทุนจดทะเบียน 10 - 99 ล้านบาท มีประมาณร้อยละ 23.9 สำหรับสถานประกอบการที่มีทุนจดทะเบียนตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป มีเพียงประมาณร้อยละ 8.1

การมีต่างประเทศร่วมลงทุนหรือถือหุ้น

สถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตในปริมณฑล ที่มีรูปแบบการจัดตั้งตามกฎหมายเป็นบริษัทจำกัด หรือบริษัทจำกัด (มหาชน) ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 96.0) ไม่มีการลงทุนจากต่างประเทศ ส่วนที่มีการลงทุนหรือถือหุ้นจากต่างประเทศมีเพียงร้อยละ 4.0 ในจำนวนนี้ ประมาณร้อยละ 71.3 เป็นการลงทุนจากต่างประเทศ 10 - 50% ที่มีการลงทุนจากต่างประเทศมากกว่า 50% มีประมาณร้อยละ 24.0 และที่มีการลงทุนจากต่างประเทศน้อยกว่า 10% มีประมาณร้อยละ 4.7 เท่านั้น

การส่งออกสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศ

สถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตที่มี การส่งสินค้าออกไปต่างประเทศ ประมาณร้อยละ 6.7 ในจำนวนนี้ ประมาณร้อยละ 36.5 มีมูลค่าการส่งสินค้าออกไปจำหน่ายในต่างประเทศมากกว่าหรือเท่ากับ 50% ของมูลค่าขายผลผลิต ประมาณร้อยละ 32.2 มีมูลค่าส่งออกระหว่าง 20 - 49% ที่เหลืออีกประมาณร้อยละ 31.3 มี การส่งออกน้อยกว่า 20% ของมูลค่าขายผลผลิต

อัตราการใช้กำลังการผลิต

อัตราการใช้กำลังการผลิตต่อปี 2554 ของสถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิต พบว่า มีการใช้กำลังการผลิตโดยเฉลี่ยประมาณ 76.2% โดยร้อยละ 56.0 รายงานว่ามีการใช้กำลังการผลิตมากกว่าหรือเท่ากับ 80% ที่รายงานว่ามีกำลัง การผลิต 50 - 79% มีร้อยละ 37.7 ในขณะที่สถานประกอบการร้อยละ 6.3 รายงานว่ามีการใช้กำลังการผลิตน้อยกว่า 50%

จำนวนคนทำงานและลูกจ้าง

ในปี 2554 มีคนทำงานในสถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตที่ตั้งอยู่ในปริมณฑลรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.17 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เป็นลูกจ้าง ประมาณ 1.15 ล้านคน เมื่อจำแนกลูกจ้างตามหมวดย่อยอุตสาหกรรมต่างๆ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 21.0 ทำงานในอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่มและยาสูบ รองลงมาอยู่ในการผลิตผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก และการผลิตผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์ (ยกเว้นเครื่องจักรและอุปกรณ์) มีลูกจ้างใกล้เคียงกันคือประมาณร้อยละ 9.9 และ 9.2 ตามลำดับ ที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมหมวดย่อยอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น ต่ำกว่าร้อยละ 9.0

ค่าตอบแทนแรงงาน

ในปี 2554 ลูกจ้างในอุตสาหกรรมการผลิตที่ตั้งอยู่ในปริมณฑล ได้รับค่าตอบแทนแรงงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 156,967.2 ล้านบาท หรือเฉลี่ยต่อคนต่อปีประมาณ 136,567 บาท โดยลูกจ้างในอุตสาหกรรมการผลิตถ่านโค้กและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ได้รับค่าตอบแทนแรงงานเฉลี่ยต่อคนต่อปีสูงที่สุด ประมาณ 170,060 บาท ในขณะที่การเก็บรวบรวมของเสีย การบำบัดและการกำจัดของเสีย รวมถึงการนำของเสียกลับมาใช้ใหมและกิจกรรมการบำบัดและบริการจัดการของเสียอื่นๆได้รับค่าตอบแทนแรงงานเฉลี่ยต่อคนต่อปีต่ำที่สุด ประมาณ 99,861 บาท

มูลค่าผลผลิต ค่าใช้จ่ายขั้นกลาง และมูลค่าเพิ่ม

การประกอบอุตสาหกรรมการผลิตในปริมณฑลในปี 2554 มีมูลค่าผลผลิตรวมทั้งสิ้นประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายขั้นกลางประมาณ 2.1 ล้านล้านบาท และมูลค่าเพิ่มประมาณ 663,598.2 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนของมูลค่าเพิ่มต่อมูลค่าผลผลิตประมาณร้อยละ 24.1

สำหรับมูลค่าผลผลิตเฉลี่ยต่อสถานประกอบการมีมูลค่าประมาณ 110.2 ล้านบาท และมูลค่าผลผลิตเฉลี่ยต่อคนทำงาน มีประมาณ 2.4 ล้านบาท ในด้านมูลค่าเพิ่มเฉลี่ยต่อสถานประกอบการ มีประมาณ 26.5 ล้านบาท และมูลค่าเฉลี่ยต่อคนทำงาน มีประมาณ 567,254 บาท

หากพิจารณามูลค่าผลผลิตเฉลี่ยตามหมวดย่อยอุตสาหกรรม พบว่า อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ที่ใช้ในทางทัศนศาสตร์มีมูลค่าผลผลิตเฉลี่ยต่อสถานประกอบการ และต่อคนทำงานสูงที่สุด ประมาณ 1,217.9 ล้านบาทและ 4.8 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับมูลค่าเพิ่มเฉลี่ย มีลักษณะเช่นเดียวกับมูลค่าผลผลิตเฉลี่ย กล่าวคือ อุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ที่ใช้ในทางทัศนศาสตร์ มีมูลค่าเพิ่มเฉลี่ยต่อสถานประกอบการและต่อคนทำงานสูงที่สุดประมาณ 308.0 ล้านบาท และ 1.2 ล้านบาท ตามลำดับ รองลงมาเป็นอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า มีมูลค่าเพิ่มเฉลี่ยต่อสถานประกอบการและต่อคนทำงานมีประมาณ 98.2 ล้านบาท และ 814,864 บาท ตามลำดับ

การเปรียบเทียบการดำเนินกิจการอุตสาหกรรม การผลิตในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา

เมื่อเปรียบเทียบผลการทำสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555 กับสำมะโนอุตสาหกรรม พ.ศ. 2550 ซึ่งเป็นข้อมูลของการดำเนินกิจการในรอบปี 2554 เทียบกับปี 2549 พบว่า สถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตในปริมณฑล มีจำนวนสถานประกอบการลดลงร้อยละ 3.8 จำนวนคนทำงานลดลงร้อยละ 5.8 และจำนวนคนทำงานเฉลี่ยต่อสถานประกอบการลดลง ร้อยละ 1.9

ด้านการจ้างงาน พบว่า มีจำนวนลูกจ้างและลูกจ้างเฉลี่ยต่อสถานประกอบการลดลง ร้อยละ 5.2 และ 1.5 ตามลำดับ ส่วนค่าตอบแทนแรงงานที่ลูกจ้างได้รับมีมูลค่าเพิ่มขึ้น คือร้อยละ 9.4 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

ในด้านการดำเนินกิจการ พบว่า มูลค่าผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.0 ค่าใช้จ่ายขั้นกลาง และมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมการผลิตในเขตปริมณฑลในช่วง 5 ปีนี้ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.1 และ 10.7 ตามลำดับ

เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลระหว่างสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555 กับสำมะโนอุตสาหกรรม พ.ศ. 2550 ผลจากสำมะโนสะท้อนให้เห็นว่าในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมาการประกอบอุตสาหกรรมในเขตปริมณฑล มีการเจริญเติบโตไม่มากนัก เนื่องมาจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกและผลกระทบของอุทกภัย ส่งผลให้อุตสาหกรรม การผลิตหดตัวลง

สรุปและข้อเสนอแนะของสถานประกอบการ

ผลจากสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2555 พบว่า มีสถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตในภาพรวมที่ตั้งอยู่ในปริมณฑลทั้งสิ้น มี 24,997 แห่ง ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.5 เป็นสถานประกอบการขนาดเล็กที่มีคนทำงาน 1 - 15 คน และอุตสาหกรรมที่สำคัญในภาคนี้ ได้แก่การผลิตผลิตภัณฑ์โลหะประดิษฐ์ (ยกเว้นเครื่องจักรและอุปกรณ์) (ร้อยละ 20.7) คนทำงานในสถานประกอบการมีทั้งสิ้นประมาณ 1.17 ล้านคน และมีจ้างงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.15 ล้านคน ได้รับค่าตอบแทนเฉลี่ยต่อคนต่อปีประมาณ 136,567 บาท สำหรับมูลค่าผลผลิตมีมูลค่าทั้งสิ้น 2.8 ล้านล้านบาท ค่าใช้จ่ายขั้นกลางมีมูลค่า 2.1 ล้านล้านบาท และมูลค่าเพิ่มมีมูลค่าทั้งสิ้น 663,598.2 ล้านบาท

  • ความต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ

สำหรับความต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือนั้น มีสถานประกอบการร้อยละ 48.5 ต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ โดยความต้องการให้รัฐช่วยเหลือ 5 อันดับแรก คือ ลดต้นทุนการผลิต (ร้อยละ 59.7) ลดภาษีหรือยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ เครื่องมือ เครื่องจักรฯ (ร้อยละ 45.6) จัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ร้อยละ 43.8) ส่งเสริมการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการ (ร้อยละ 38.2) และเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ (ร้อยละ 30.7)

ตาราง ก ข้อมูลที่สำคัญของสถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตปี 2549 และ 2554

ร้อยละของ

รายการข้อมูลที่สำคัญ                    ปี 2549             ปี 2554          การเปลี่ยนแปลง
จำนวนสถานประกอบการ (แห่ง)           25,995             24,997                  -3.8
จำนวนคนทำงาน (คน)               1,241,219          1,169,843                  -5.8
เฉลี่ยต่อสถานประกอบการ (คน)             47.7               46.8                  -1.9
จำนวนลูกจ้าง (คน)                 1,212,904          1,149,377                  -5.2
เฉลี่ยต่อสถานประกอบการ (คน)             46.7               46.0                  -1.5
ค่าตอบแทนแรงงาน (ล้านบาท)         143,462.2          156,967.2                   9.4
เฉลี่ยต่อคนต่อปี (บาท)               118,279.9            136,567                  15.5
มูลค่าผลผลิต (ล้านบาท)            2,415,822.9        2,755,009.2                  14.0
เฉลี่ยต่อสถานประกอบการ (พันบาท)      92,934.1          110,213.6                  18.6
เฉลี่ยต่อคนทำงาน (พันบาท)             1,946.3            2,355.0                  21.0
ค่าใช้จ่ายขั้นกลาง (ล้านบาท)        1,816,616.4        2,091,411.0                  15.1
เฉลี่ยต่อสถานประกอบการ (พันบาท)      69,883.3           83,666.5                  19.7
เฉลี่ยต่อคนทำงาน (พันบาท)             1,463.6            1,787.8                  22.2
มูลค่าเพิ่ม (ล้านบาท)                599,206.5          663,598.2                  10.7
เฉลี่ยต่อสถานประกอบการ (พันบาท)      23,050.8           26,547.1                  15.2
เฉลี่ยต่อคนทำงาน (พันบาท)               482.8              567.3                  17.5
  • ปัญหาในการดำเนินกิจการ

สถานประกอบการอุตสาหกรรมการผลิตประมาณร้อยละ 42.8 มีปัญหาในการดำเนินกิจการ โดยปัญหาในการดำเนินกิจการ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 48.5 มีปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนแรงงาน รองลงมามีปัญหาเกี่ยวกับเงินทุนไม่เพียงพอ (ร้อยละ 44.9) ตลาดการผลิต (ร้อยละ 32.9) และการขาดแคลนวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต (ร้อยละ 30.7) ในขณะที่ สถานประกอบการที่รายงานว่ามีปัญหาเกี่ยวกับนโยบายด้านการค้าของรัฐบาลไม่แน่นอนมีเพียง ร้อยละ 22.5

ที่มา: สำนักงานสถิติแห่งชาติ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ