“รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์” ทุ่ม 50 ล้าน เสริมศักยภาพศูนย์รังสีวินิจฉัยครบวงจร เปิดตัว “MRI Advance Check up Program”

ข่าวทั่วไป Wednesday August 24, 2011 13:06 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--24 ส.ค.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์ “รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์” ทุ่ม 50 ล้าน เสริมศักยภาพศูนย์รังสีวินิจฉัยครบวงจรเปิดตัว “MRI Advance Check up Program”โปรแกรมตรวจสุขภาพด้วยเอ็มอาร์ไอเฉพาะส่วน เป็นครั้งแรก รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์” ผู้ให้บริการศูนย์ตรวจวินิจฉัยอวัยวะภายในร่างกายด้วยเครื่อง MRI และ CT Scan ที่ทันสมัยแห่งหนึ่งในประเทศไทย มั่นใจธุรกิจบริการเชคอัพสุขภาพมีโอกาสเติบโตอีกมาก ล่าสุดทุ่ม 50 ล้านบาทซื้อเครื่องตรวจ MRI เพิ่มอีก 1 เครื่องรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น พร้อมเปิดตัว “MRI Advance Check up Program” โปรแกรมตรวจสุขภาพด้วยเอ็มอาร์ไอเฉพาะส่วน หวังขยายช่องทางการเติบโต และรณรงค์คนไทยห่วงใยสุขภาพตรวจสุขภาพประจำปี แพทย์หญิงวิวรรณ นิติวรางกูร กรรมการบริษัท รัชวิภา เอ็มอาร์ไอ เซ็นเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า รัชวิภา เอ็ม อาร์ ไอ เซ็นเตอร์ เปิดให้บริการเป็นปีที่ 4 แล้ว นับเป็นศูนย์รังสีวินิจฉัยครบวงจรที่ได้รับการยอมรับอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากมีเครื่องมือที่ทันสมัย มีทีมรังสีแพทย์และนักรังสีเทคนิคที่ผ่านการอบรมจากสถาบันชั้นนำและมีความชำนาญเฉพาะทางสูง ประกอบกับการบริการที่ได้มาตรฐานสากลในราคาที่คุ้มค่าและแข่งขันได้ ทำให้ได้รับความไว้วางใจทั้งจากแพทย์ สถานพยาบาล และผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง “ล่าสุด เราขยายธุรกิจโดยเพิ่มเครื่อง MRI รุ่น AVANTO เป็นเครื่องที่ 2 มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นรุ่นที่มีเทคโนโลยีสูงในขณะนี้ มีเพียงโรงพยาบาลชั้นนำไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่มีเครื่องรุ่นดังกล่าว เพื่อรองรับจำนวนคนไข้ที่รับบริการเพิ่มขึ้น พร้อมมองเห็นโอกาสในการขยายบริการไปสู่ บริการตรวจสุขภาพ โดยเราได้ริเริ่มแนวคิด MRI Check Up ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเปิดตัว “MRI Advance Check up Program” โปรแกรมตรวจสุขภาพด้วยเอ็มอาร์ไอเฉพาะส่วน ที่เน้นแนวคิด รู้เร็ว รักษาได้ อุ่นใจ สบายกระเป๋า เพื่อรณรงค์ให้คนไทยห่วงใยสุขภาพมากขึ้น และนอกจากการตรวจสุขภาพประจำปีแล้ว ยังสนับสนุนให้มีการเข้ารับการตรวจ Check Up ด้วย MRI หากพบอาการผิดปกติ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่คนทั่วไปมักจะละเลย” แพทย์หญิงวิวรรณ กล่าวสรุปถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในตอนท้ายว่า “จากเดิมลูกค้าที่มารับบริการ MRI ส่วนใหญ่จะเน้นการตรวจเพื่อรับทราบผลวิเคราะห์ก่อนไปรักษาจริงกับแพทย์ แต่ต่อไปทางศูนย์ฯ จะเน้นทำตลาดการตรวจสุขภาพมากขึ้น โดยส่งเสริมให้การตรวจ MRI เป็นส่วนสำคัญในการตรวจสุขภาพ เพื่อให้ผู้ใช้บริการทราบถึงข้อบกพร่องของอวัยวะต่างๆ หรือสามารถประเมินปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคได้ เช่น การตรวจ MRI เพื่อดูสมอง อวัยวะในช่องท้อง ฯลฯ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้มีอาการก่อน โดยตั้งเป้าจะขยายฐานลูกค้ากลุ่มตรวจสุขภาพให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ของภาพรวมทั้งหมด กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตรวจสุขภาพดังกล่าว ได้แก่ ผู้บริหารและผู้ประกอบการที่มีภาวะความเครียดและความเสี่ยงสูง รวมถึงกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่มีรายได้สูงหรือมีสวัสดิการตรวจสุขภาพประจำปี อวัยวะที่แนะนำให้ตรวจด้วยเครื่อง MRI ได้แก่ สมอง ช่องท้อง กระดูกสันหลัง เป็นต้น เพื่อวิเคราะห์โรคที่กลุ่มลูกค้าส่วนมากมีความเสี่ยง ได้แก่ โรคของระบบสมองและระบบประสาท โรคของกระดูกสันหลัง โรคของช่องท้องด้านบน โรคของช่องท้องด้านล่างหรืออุ้งเชิงกราน โรคของระบบทางเดินปัสสาวะ โรคของกระดูกและข้อ ทั้งนี้ ศูนย์ฯ ตั้งเป้าการเติบโตในปี 2554 นี้ไว้ที่ 20% คาดว่าการลงทุนซื้อเครื่อง MRI เครื่องที่ 2 จะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 3-5 ปี” MRI เส้นเลือดสมอง เฝ้าระวังอาการ "อ่อนแรงเฉียบพลันจากสมองขาดเลือด ด้าน นพ.อนุสรณ์ โสฬสรุ่งเรือง รังสีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านประสาทวิทยา กล่าวถึงการตรวจ MRI เพื่อหาสาเหตุของโรคเกี่ยวกับความผิดปกติทางระบบประสาทว่า “ความผิดปกติทางระบบประสาทฉับพลัน ผู้ป่วยอาจจะมาด้วยอาการแขนขาอ่อนแรง อาจมีอาการชา พูดไม่ชัด ปากเบี้ยว เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ เห็นภาพซ้อน หรือหมดสติร่วมด้วย แบ่งเป็น 2 ภาวะคือ ภาวะสมองขาดเลือด และภาวะมีเลือดออกในสมอง สำหรับภาวะสมองขาดเลือด สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือดสมอง โดยอาจมีการตีบเนื่องจากมีไขมันพอก มีแคลเซียมเกาะที่หลอดเลือดสมอง หรือมีการอุดตันของหลอดเลือดสมอง เนื่องจากมีภาวะผิดปกติของหัวใจ หัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นโรคหัวใจรูมาติก หรือลิ้นหัวใจมีความผิดปกติ ส่วนภาวะเลือดออกในสมองเกิดจากหลอดเลือดในสมองแตก สาเหตุที่พบได้อาจเกิดจากความดันโลหิตสูง ความผิดปกติของหลอดเลือดสมองแต่กำเนิด ภาวะหลอดเลือดสมองโป่งพอง หรือเป็นโรคที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด” สมอง เป็นอวัยวะส่วนสำคัญเพราะเป็นศูนย์รวมควบคุมการทำงานของร่างกาย ผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือมีพฤติกรรมสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า ก็มีโอกาสเสี่ยงของการเกิดโรคความผิดปกติทางระบบประสาทฉับพลันได้ จึงควรพยายามลดปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและควบคุมอาหาร อย่างเคร่งครัด รวมถึงการตรวจเช็คสุขภาพ และตรวจความดันโลหิตเป็นประจำ “โดยทั่วไปในการประเมินเกี่ยวกับความผิดปกติทางระบบประสาท การตรวจโดยใช้เครื่องเอ็มอาร์ไอ (MRI) ได้เข้ามามีส่วนร่วมในด้านการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาในปัจจุบัน โดยจะสามารถตรวจหาตำแหน่งที่ผิดปกติและลักษณะความผิดปกติของสมองที่แม่นยำ และสามารถตรวจหาความผิดปกติของเนื้อสมองและหลอดเลือดสมองได้ในเวลาเดียวกัน จากเดิมการตรวจหลอดเลือดสมองต้องมีการเจาะหลอดเลือดและฉีดสารทีบรังสีเข้าไปแทนเลือดในหลอดเลือด ซึ่งถือเป็นการตรวจที่ค่อนข้างยุ่งยาก มีความเสี่ยง และคนไข้เจ็บตัว แต่การตรวจด้วยเครื่องเอ็มอาร์ไอ ขั้นตอนเพียงนอนเข้าไปในเครื่องตรวจที่คล้ายอุโมงค์ ผู้ป่วยไมได้รับความเจ็บปวด และใช้เวลาไม่นานมาก เพียงประมาณครึ่งชั่วโมง” นพ.อนุสรณ์ กล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณมรุต ทวีเพ็ชร / คุณศุภมาศ พูลสวัสดิ์ บริษัท ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด โทร.082-011-1168

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ