สคร. 12 สงขลา ชี้ ผักสดในข้าวกล่อง เสี่ยงอาหารเป็นพิษ เตือนพ่อค้าแยกออก อย่าใส่รวม

ข่าวทั่วไป Friday March 28, 2014 16:08 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา เตือนพ่อค้า แม่ค้าขายอาหารกล่อง อย่าใส่ผักสดลงในกล่องรวมกับข้าว เผยอาหารมีโอกาสปนเปื้อนเชื้อโรคสูง เสี่ยงทำผู้บริโภคอาหารเป็นพิษ แนะนำผักสดใส่ถุงพลาสติก แยกออกจากกล่อง ลดการถ่ายเทเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุสำคัญของการเกิดโรคอาหารเป็นพิษ ดร.นพ.สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลาเปิดเผยว่า ในผักสดประกอบด้วยน้ำปริมาณสูงมาก และเป็นแหล่งที่มีธาตุอาหารต่างๆ อุดมสมบูรณ์ รวมทั้งมีระดับพีเอชเฉลี่ย 5-7 ซึ่งเหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ชนิดแบคทีเรีย ผักสดจึงเกิดการเน่าเสียเนื่องจากเชื้อแบคทีเรียมากที่สุด ซึ่งเชื้อดังกล่าวนี้จะสามารถปนเปื้อนเข้าสู่ผักสดได้ในหลายกรณี เช่น มาจากดินที่ปลูกพืช จากภาชนะที่ใส่ตอนเก็บเกี่ยว กระบวนการขนส่ง แม้กระทั้งการล้าง ก็มีส่วนทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ในส่วนเน่าเสียของผักแผ่กระจายออกไปได้ นอกจากนี้เชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนในผักอาจมาจากมือของผู้ประกอบอาหารหรือผู้ที่สัมผัสกับผักสดนั้นๆ ด้วย หากนำผักสดซึ่งส่วนใหญ่จะมีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย มาวางบนอาหารที่ปรุงสุกแล้วภายในกล่อง ซึ่งมีอุณหภูมิสูงประมาณ 35-50 องศา เป็นเวลานาน ผักสดจะได้รับความร้อนจากอาหารนั้น ทำให้ผนังเซลล์ของผักถูกทำลาย เกิดการอ่อนนิ่มลง และอยู่ในสภาวะเร่งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่ายขึ้น เกิดการเน่าอย่างรวดเร็ว และสร้างสารพิษออกมาปนเปื้อนลงสู่อาหารที่ปรุงสุกแล้ว เมื่อผู้บริโภครับประทานอาหารดังกล่าวเข้าไป จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาหารเป็นพิษได้ จึงฝากเตือนพ่อค้า แม่ค้าที่จำหน่ายอาหารกล่อง อย่าใส่ผักสดลงไปในกล่องรวมกับอาหารที่ปรุงสุกแล้ว ควรบรรจุผักสดไว้ในถุงพลาสติก หรือห่อด้วยกระดาษไข และแยกออกจากกล่อง เพื่อป้องกันการถ่ายเทเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ในผักสดสู่อาหารที่ปรุงสุกแล้ว อีกทั้งผู้ประกอบอาหารควรคำนึงถึงสุขลักษณะและสุขอนามัยที่ดี ดูแลเรื่องความสะอาดของเล็บมือ ผม ผิวหนัง ใส่ผ้ากันเปื้อนและหมวกคลุมผมขณะประกอบอาหาร ดูแลห้องครัวให้สะอาด มีสถานที่เก็บอาหารสดและอาหารแห้งที่ปราศจากแมลง หนู แมลงสาบ คำนึงถึงความสะอาดตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบไปจนถึงอุปกรณ์ที่ใช้ สำหรับผู้บริโภค ควรยึดหลักปฏิบัติ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ไม่เก็บอาหารที่ปรุงแล้วไว้นานเกิน 2-4 ชั่วโมง หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการป้องกันตนเองจากโรคอาหารเป็นพิษ สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ดร.นพ.สุวิช ธรรมปาโล ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการรายงานของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบว่าระหว่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2557 ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษจำนวน 22,279 ราย สำหรับในเขต 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ประกอบด้วย จังหวัดพัทลุง สงขลา สตูล ตรัง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -28 กุมภาพันธ์ 2557 พบว่ามีผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษจำนวน 335 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ซึ่งจังหวัดที่มีผู้ป่วยสูงสุดคือจังหวัดสงขลา พบผู้ป่วยจำนวน 193 ราย รองลงมาคือจังหวัดตรัง จำนวน 47 ราย และจังหวัดพัทลุง จำนวน 42 ราย ตามลำดับ ข่าวโดย : พรรณภัทร ประทุมศรี นักวิชาการเผยแพร่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา โทรศัพท์ 0-7433-6079-81 ต่อ 29 อีเมล phannaphat.p@gmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ