กรุงเทพฯ--24 พ.ย.--พม.
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและรับทราบการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค พร้อมทั้งมอบนโยบายในการดำเนินงานให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ฯ ณ ห้องประชุมอาคารสันติสุข ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแคเป็นหน่วยงานในสังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุ ส่งเสริม สนับสนุน การดำเนินงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ และมีภารกิจในการให้บริการผู้สูงอายุดังนี้
๑. ศูนย์ข้อมูลและสารสนเทศงานสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ
๒. เป็นศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนา
๓. เป็นศูนย์การเรียนรู้
๔. เป็นศูนย์การจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุแบบสถาบัน
๕. เป็นศูนย์การจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุในชุมชน
๖. เป็นศูนย์บริการให้คำแนะนำปรึกษาและส่งต่อ ปัจจุบันมีผู้สูงอายุที่เข้ารับการสงเคราะห์ในศูนย์ดังกล่าว จำนวน ๒๖๒ คน โดยแบ่งเป็น ๑) กลุ่มช่วยเหลือตนเองได้ดี จำนวน ๑๓๖ คน ๒) กลุ่มสามารถช่วยเหลือตนเองได้ปานกลางจำนวน ๓๙ คน และ ๓) กลุ่มไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้จำนวน ๘๗ คน
พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีนโยบายการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพดังนี้
๑) มุ่งเน้นการสร้างสังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ ให้คนทุกกลุ่มวัยตระหนักในการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การสร้างเจตคติที่ดีต่อผู้สูงอายุ การให้ความรู้ด้านการใช้ชีวิตกับผู้สูงอายุในครอบครัว และการสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างกลุ่มวัย
๒) ส่งเสริมการจัดสวัสดิการทางสังคมแก่ผู้สูงอายุ ทั้งด้านสุขภาพกาย จิตใจ และสังคม การเข้าถึงหลักประกันทางสังคม สนับสนุนให้มีที่อยู่อาศัย ส่งเสริมการมีงานทำเพื่อสร้างรายได้ รวมทั้งผลักดันให้มีระบบการออมและระบบบำนาญ เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถพึ่งพาตนเองได้และดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี และ ๓)ดำเนินโครงการศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ เพื่อเป็นต้นแบบโดยส่งเสริมอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุและการบริหารจัดการโดยผู้แทนผู้สูงอายุ เพื่อจัดกิจกรรมและบริการด้านสุขภาพกาย จิตใจ และสังคม โดยสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน ครอบครัว เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุ ส่งเสริมอาชีพ และการถ่ายทอดภูมิปัญญาของผู้สูงอายุในชุมชน
“ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะส่งเสริมให้มีการจัดตั้งศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ที่ปัจจุบันได้จัดตั้งไปแล้วจำนวน ๘๗๘ แห่งในทุกอำเภอทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุที่จะเพิ่มขึ้นในปี ๒๕๗๐ จะมีจำนวนมากถึง ๑๖ ล้านคน กระทรวงฯจะส่งเสริมให้จัดตั้งศูนย์ฯ ในทุกตำบล จำนวน ๗,๘๕๓ แห่ง”
นอกจากนี้ ยังเตรียมแผนขับเคลื่อนงานให้ระดับท้องถิ่น โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานเอกชน จัดตั้งสถานที่เพื่อรองรับผู้สูงอายุทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมให้เป็นสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น”พลตำรวจเอกอดุลย์ กล่าวตอนท้าย