เรื่องเล่าจากน้องแป้ง

ข่าวทั่วไป Wednesday December 17, 2014 17:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 ธ.ค.--My Brand Agency เรื่องเล่าจากน้องแป้ง น.ส.นฤวรรณ พิเคราะห์ นักศึกษาชั้นปีที่ 3วิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยสำรวจเส้นทางความสำเร็จธุรกิจไม่ขุดล้อม บ้านชะอม จ.สระบุรี ได้รับโอกาสดีๆ อีกครั้งสำหรับดิฉันและเพื่อนๆ นักศึกษา ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยผู้ประกอบการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ รศ.ทองทิพภา วิริยะพันธุ์ ประธาน CSR-พอเพียง คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดห้องเรียนธรรมชาติ ในหมู่บ้านชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ให้นักศึกษาได้ใช้พื้นที่ศึกษาเรียนรู้ และค้นหาคำตอบ สูตรความสำเร็จของธุรกิจการทำไม้ขุดล้อม ก่อนลงพื้นที่ดิฉันได้ศึกษางานวิจัยของ อ.ทองทิพภา มาก่อนแล้วทำให้รู้ข้อมูลเบื้องต้นว่าชุมชนแห่งนี้เมื่อก่อนผู้คนมีฐานะยากจน ทำไร่ ปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่นข้าวโพด มันสำปะหลัง แต่หลังจากอาจารย์ มีชัย วีระไวทยะ ได้เข้ามาแนะแนวทางในการปรับเปลี่ยนอาชีพ สู่การปลูกต้นไม้ประดับอาหาคารสถานที่ ชาวบ้านที่เชื่อมั่นในตัวท่าน ก็รับโอกาสครั้งสำคัญนี้ และเพียรสู้ เพียรทำ เพียรสร้าง จนปัจจุบันกลายเป็นผู้ประกอบการไม้ขุดล้อม มีฐานะความเป็นอยู่ดี ชีวิตสุขสบาย ดิฉันจึงอยากหาคำตอบ เส้นทางแห่งความเพียร หลักคิด ที่ช่วยพลิกชีวิตชุมชน และวิธีการทำอาชีพไม้ขุดล้อมที่นำกลยุทธ์การตลาดแบบ 7P"s ของ ฟิลลิป คอตเลอร์ มาใช้ในการบริหารจัดการ เป็นเวลา 1 วันเต็มๆ ที่พวกเราได้ลงพื้นที่ แม้แดดจะร้อน แต่น้ำใจการต้อนรับของชุมชนที่มีให้กับพวกเรายิ่งใหญ่จริงๆ ทุกสวนที่แวะไป นอกจากจะมีน้ำเย็นๆ รอต้อนรับ และรอยยิ้มที่แสนอบอุ่น ยังได้รับความรู้มากมาย พวกเราได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ประกอบการหลายราย ได้หลักคิดว่า ไม่ว่าอาชีพอะไร เราก็ต้องทำด้วยความขยันอดทน และทำอาชีพที่เราเลือกนั้นให้ดีที่สุด อย่างชาวบ้านที่นี่ เมื่อก่อนมีอาชีพที่แตกต่างกันไป เช่นทำนา ทำไร่ข้าวโพด ปลูกผัก หรือค้าขาย ได้เงินไม่มากนัก แต่เมื่อพวกเขาหันมาทำอาชีพไม้ขุดล้อมขาย กลับมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีชีวิตสุขสบายขึ้น อย่างป้าติ๋มกับผู้ใหญ่เสริม หรือพี่ก้อย เจ้าจองสวนสายยู ที่ทำส่งออก ต้นปาล์ม และลุงสายบัว ผู้มีกิจการไม้ล้อมถึง สามสาขา ได้รางวัลเกษตรกรดีเด่นหลายปีซ้อน ต่างพูดตรงกันว่า ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า และมีความจริงใจ เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ กิจการรุ่งเรืองยั่งยืนมาจนทุกวันนี้ ส่วนตัวคนทำเองนั้น จะเข้มแข็ง และยืนหยัดได้ ก็ต้องมีความขยัน อดทน มีความมุ่งมั่น จากการพูดคุยกับลุงสายบัว พาศักดิ์ ได้รู้ว่า เมื่อก่อนลุงเป็นหนี้เต็มไปหมด ทำอะไรก็เจ๊ง แต่ด้วยความขยันอดทน ใฝ่เรียนรู้ ทำให้ประสบความสำเร็จกับธุรกิจไม้ขุดล้อม หลักคิดดีๆ ที่ได้จากลุงคือเมื่อมีฐานะดีขึ้นแล้ว ก็ต้องรู้จักแบ่งปัน ช่วยคนอื่นให้แข็งแรง โดยทุกวันนี้ลุงสายบัว ทำหน้าที่เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้กับคนที่ไปศึกษาดูงานโดยไม่หวงแม้แต่น้อย ขณะที่คนรุ่นใหม่ อยากทำอาชีพ คุณลุงก็สอนให้ วันที่พวกเราลงพื้นที่ลุงสายบัว ก็เป็นไกด์พาชมสวนต่างๆ แถมยังสาธิตวิธีการทำไม้ขุดล้อมให้นักศึกษาดูทุกขั้นตอน พร้อมบอกว่าใครอยากมาทำอาชีพนี้ ลุงจะสอนให้ ด้านพี่ก้อย หรือคุณสุทธิรัตน์ ภักดีสูงเนิน เจ้าของสวนสายยู นั้นถูกใจพวกเรามาก เพราะอายุยังน้อย แต่ประสบความสำเร็จแล้ว โดย พี่ก้อยเล่าว่า การทำอาชีพนี้ให้ประสบความสำเร็จและยั่งยืน ต้องซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา ใจเขา ใจเรา ปัจจุบันพี่ก้อยเน้นส่งขายต่างประเทศ โดยเฉพาะสิงคโปร์ ขายไม้ขุดล้อมประเภทปาล์มเสียมากกว่า มีรายได้ต่อเดือนกว่า 2 แสนบาท การดูงานครั้งนี้ ทำให้พวกเรา เริ่มเข้าใจ สิ่งที่อาจารย์ ทองทิพภา ได้ เล่าให้พวกเรา ก่อนเดินทางมา ที่ว่า ปัจจัยความสำเร็จของหมู่บ้านชะอมแห่งนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการมีรูปแบบการประกอบธุรกิจที่ดี มีผู้นำชุมชนที่เข้มแข็ง ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล สามารถมองการตลาดในอนาคตได้โดยใช้ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ที่มีมาอย่างยาวนานของตัวเอง มีศรัทธา มีใจรัก มีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา มีจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ จนทำให้แสวงหากระบวนการในการประกอบธุรกิจที่สร้างความพึงพอใจ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ด้วยการลองผิด ลองถูก จนสามารถเติบโตเป็นผู้ประกอบการรายย่อยได้จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งการที่หมู่บ้านชะอม มีองค์ประกอบครบถ้วน ทำให้คนในหมู่บ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สรุปได้ว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ สร้างความประทับใจให้กับดิฉันเป็นอย่างมาก ได้เรียนรู้หลักการง่ายๆ ในการประกอบธุรกิจ ที่แม้ไม่มีใบปริญญา แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ หากมีความจริงใจ ตรงต่อเวลา ซื่อสัตย์กับลูกค้า มีความอดทน ขยัน มุ่งมั่นทำจริง และเรียนรู้ที่จะพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ