กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “การปฏิรูปองค์กรตำรวจ” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17 – 19 ธันวาคม 2557 จากประชาชนทั่วประเทศ กระจายทั่วทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา และอาชีพ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการปฏิรูปองค์กรตำรวจ อาศัยการสุ่มตัวอย่างจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” ด้วยความน่าจะเป็นด้วยวิธีแบบเป็นระบบ (Systematic Random Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่นที่ ร้อยละ 95.0 และมีค่าความคลาดเคลื่อนมาตรฐาน (Standard Error: S.E.) ไม่เกิน 1.4
จากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอให้ยกเลิกคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) และให้มี "สภากิจการตำรวจแห่งชาติ" เข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแล (ที่มีกรรมการประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวกับความมั่นคง และหัวหน้าส่วนราชการกระบวนการยุติธรรม กรรมการสิทธิมนุษยชน ผู้ทรงคุณวุฒิที่ผ่านการคัดเลือกจาก ส.ส. และ ส.ว.) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 55.28 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ เป็นการเพิ่มความโปร่งใสในการทำงาน และการบริหารงาน ที่ผ่านมาองค์กรตำรวจค่อนข้างมีภาพลักษณ์ที่เสียหาย หากมีการเปลี่ยนแปลงน่าจะมีส่วนช่วยให้ภาพลักษณ์องค์กรตำรวจดีขึ้น และมีความยุติธรรมมากกว่าเดิม ขณะที่ ร้อยละ 30.00 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำงานได้ดีอยู่แล้ว องค์กรใหม่ที่เข้ามาดูแลแทนอาจจะไม่มีคุณภาพ และ ร้อยละ 14.72 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอให้องค์กรตำรวจต้องได้รับการปฏิรูปให้เป็นองค์กรขนาดเล็ก พบว่า ประชาชนครึ่งหนึ่ง หรือ ร้อยละ 50.80 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ เป็นการกระจายอำนาจจากส่วนกลางออกไป หากเกิดการทุจริตทำให้สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ระบบการบริหารทำงานได้รวดเร็ว ขณะที่ ร้อยละ 41.52 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ ประสิทธิภาพในการทำงานอาจลดลง การดูแลของส่วนกลางอาจไม่ทั่วถึง ทำงานยุ่งยากมากขึ้นเนื่องจากเป็นองค์กรที่ต้องดูแลทั่วประเทศ และ ร้อยละ 7.68 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นอยู่กับการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น (เช่น ขึ้นอยู่กับเทศบาลหรือ อบจ.) หรือการบริหารราชการส่วนภูมิภาค (เช่น ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด) พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 48.00 ร้อยละ ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ อาจเกิดการทุจริตมากขึ้นกว่าเดิม หากอำนาจตกอยู่ในมือของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีอิทธิพล การทำงานอาจซับซ้อน ซึ่งแบบเดิมน่าจะดีอยู่แล้ว โดยให้ขึ้นตรงกับตำรวจเท่านั้น รองลงมา ร้อยละ 44.16 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ เป็นการกระจายอำนาจ ไม่ขึ้นอยู่กับคนใดคนหนึ่ง เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระจากส่วนกลาง ทำให้การบริหารและการทำงานเป็นไปอย่างทั่วถึง และ ร้อยละ 7.84 ไม่ระบุ/ ไม่แน่ใจ
เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ แต่งตั้ง โยกย้าย หรือถอดถอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 75.84 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ เป็นสิทธิของประชาชน ที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วม และทราบถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในบางครั้งตำรวจด้วยกันเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เป็นการช่วยป้องกันการทุจริตได้ไม่มากก็น้อย ขณะที่ ร้อยละ 21.36 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ เป็นเรื่องที่กว้างเกินไป ดูแลและเข้าถึงได้ยาก อาจทำให้ผู้ที่มีอิทธิพลเข้ามาแทรกแซง
และใช้อำนาจในทางที่มิชอบในด้านการบริหารจัดการหรือการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และประชาชนส่วนหนึ่งไม่มีความรู้เกี่ยวกับระบบ และระเบียบการทำงานของหน่วยงานราชการมากนัก และ ร้อยละ 2.80 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ด้านความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ควรมียศ มีตำแหน่ง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 81.12 ระบุว่า ไม่เห็นด้วย เพราะ การมียศ มีตำแหน่ง ถือเป็นแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ คนทำดีก็ควรได้รับสิ่งตอบแทน ทำให้การบริหารงานและระบบการปกครองมีความชัดเจน สามารถแยกแยะได้ ระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นการสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีเพียง ร้อยละ 15.92 ระบุว่า เห็นด้วย เพราะ ตำรวจบางคนชอบใช้อำนาจหรือตำแหน่งในทางมิชอบ เช่น การขู่ รีดไถ ประชาชน เป็นการลดอำนาจและปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันด้วย และ ร้อยละ 2.96 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ
ท้ายที่สุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อระดับความเร่งด่วนของการปฏิรูปองค์กรตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 42.32 ระบุว่า เป็นเรื่องเร่งด่วนในระดับสูงสุด รองลงมา ร้อยละ 26.24 ระบุว่า เป็นเรื่องค่อนข้างเร่งด่วน ร้อยละ 19.44 ระบุว่า เป็นเรื่องไม่ค่อยเร่งด่วน ร้อยละ 8.88 ระบุว่า เป็นเรื่องไม่เร่งด่วนเลย และ ร้อยละ 3.12 ระบุว่า ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ ซึ่งในจำนวนผู้ที่เห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนในระดับสูงสุด – ค่อนข้างเร่งด่วน ระบุเหตุผลว่า ต้องเร่งปฏิรูป เพราะ องค์กรตำรวจมีปัญหาที่เรื้อรังมานาน เช่น การทุจริตคอร์รัปชัน การซื้อขายตำแหน่ง การใช้อำนาจในทางที่ผิด เป็นการผูกขาดอำนาจฝ่ายเดียว เป็นการกระตุ้นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเพื่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะที่ผู้ที่ระบุว่า เป็นเรื่องไม่ค่อยเร่งด่วน – ไม่เร่งด่วนเลย ให้เหตุผลว่า องค์กรตำรวจเป็นองค์กรใหญ่และซับซ้อน จึงควรปฏิรูปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และยังมีเรื่องอื่นที่สำคัญมากกว่า เช่น เศรษฐกิจปากท้อง ความสมานฉันท์ของคนในชาติ ราคาผลผลิตทางการเกษตร เป็นต้น
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 20.24 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ร้อยละ 19.84 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 20.00 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 19.92 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และร้อยละ 20.00 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ ตัวอย่างร้อยละ 54.80 เป็นเพศชาย ร้อยละ 45.20 และ เป็นเพศหญิง
ตัวอย่างร้อยละ 7.00 มีอายุ 18 – 25 ปี ร้อยละ 30.65 มีอายุ 25 – 39 ปี ร้อยละ 49.07 มีอายุ 40 – 59 ปี และร้อยละ 13.27 มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 94.44 นับถือศาสนาพุทธ ตัวอย่างร้อยละ 4.51 นับถือศาสนาอิสลาม และตัวอย่างร้อยละ 1.05 นับถือศาสนาคริสต์ และอื่น ๆ ตัวอย่างร้อยละ 26.25 สถานภาพโสด ตัวอย่างร้อยละ 71.42 สมรสแล้ว และตัวอย่างร้อยละ 2.33 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ ตัวอย่างร้อยละ 27.12 จบการศึกษาประถมศึกษาหรือต่ำกว่า ตัวอย่างร้อยละ 29.06 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 7.75 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ตัวอย่างร้อยละ 30.67 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และตัวอย่างร้อยละ 5.41 จบการศึกษา สูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ตัวอย่างร้อยละ 14.38 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ตัวอย่างร้อยละ 14.05 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ตัวอย่างร้อยละ 23.83 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ตัวอย่าง ร้อยละ 13.65 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ตัวอย่างร้อยละ 16.07 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ตัวอย่างร้อยละ 13.89 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และ ตัวอย่างร้อยละ 4.12 เป็นนักเรียน/นักศึกษา ตัวอย่างร้อยละ 13.52 ไม่มีรายได้ ตัวอย่างร้อยละ 19.84 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 10,000 ตัวอย่างร้อยละ 34.72 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่อเดือน 10,001 – 20,000 ตัวอย่างร้อยละ 12.16 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001 – 30,000 บาท ตัวอย่างร้อยละ 5.36 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่อเดือน 30,001 – 40,000 ร้อยละ 7.60 มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน มากกว่า 40,001 บาท ขึ้นไป และร้อยละ 6.80 ไม่ระบุรายได้
1. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับข้อเสนอยกเลิกคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) และให้มี "สภากิจการตำรวจแห่งชาติ" เข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแล (ที่มีกรรมการประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวกับความมั่นคง และหัวหน้า
ส่วนราชการกระบวนการยุติธรรม กรรมการสิทธิมนุษยชน ผู้ทรงคุณวุฒิที่ผ่านการคัดเลือกจาก ส.ส.และ ส.ว.)
ความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอให้ยกเลิกคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และให้มี "สภากิจการตำรวจแห่งชาติ" เข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแล ร้อยละ
เห็นด้วยเพราะ เป็นการเพิ่มความโปร่งใสในการทำงาน และการบริหารงาน ที่ผ่านมาองค์กรตำรวจค่อนข้างมีภาพลักษณ์ 55.28
ที่เสียหาย หากมีการเปลี่ยนแปลงน่าจะมีส่วนช่วยให้ภาพลักษณ์องค์กรตำรวจดีขึ้น และมีความยุติธรรมมากกว่าเดิม
ไม่เห็นด้วยเพราะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำงานได้ดีอยู่แล้ว องค์กรใหม่ที่เข้ามาดูแลแทนอาจจะไม่มีคุณภาพ 30.00
ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ 14.72
รวม 100.00
2. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับข้อเสนอให้องค์กรตำรวจต้องได้รับการปฏิรูปให้เป็นองค์กรขนาดเล็ก
ความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอให้องค์กรตำรวจต้องได้รับการปฏิรูปให้เป็นองค์กรขนาดเล็ก ร้อยละ
เห็นด้วยเพราะ เป็นการกระจายอำนาจจากส่วนกลางออกไป หากเกิดการทุจริตทำให้สามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น 50.80
ระบบการบริหารทำงานได้รวดเร็ว
ไม่เห็นด้วยเพราะ ประสิทธิภาพในการทำงานอาจลดลง การดูแลของส่วนกลางอาจไม่ทั่วถึง ทำงานยุ่งยากมากขึ้นเนื่องจาก 41.52
เป็นองค์กรที่ต้องดูแลทั่วประเทศ
ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ 7.68
รวม 100.00
3. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับข้อเสนอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นอยู่กับการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น (เช่น ขึ้นอยู่กับเทศบาลหรือ อบจ.)
หรือการบริหารราชการส่วนภูมิภาค (เช่นขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด)
ความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นอยู่กับการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น (เช่น ขึ้นอยู่กับเทศบาลหรือ อบจ.) หรือการบริหารราชการส่วนภูมิภาค (เช่นขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัด) ร้อยละ
เห็นด้วยเพราะ เป็นการกระจายอำนาจ ไม่ขึ้นอยู่กับคนใดคนหนึ่ง เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระจากส่วนกลาง 44.16
ทำให้การบริหารและการทำงานเป็นไปอย่างทั่วถึง
ไม่เห็นด้วยเพราะ อาจเกิดการทุจริตมากขึ้นกว่าเดิม หากอำนาจตกอยู่ในมือของนักการเมืองท้องถิ่นที่มีอิทธิพล การทำงาน 48.00
อาจซับซ้อน ซึ่งแบบเดิมน่าจะดีอยู่แล้ว โดยให้ขึ้นตรงกับตำรวจเท่านั้น
ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ 7.84
รวม 100.00
4. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับข้อเสนอให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ แต่งตั้ง โยกย้าย หรือถอดถอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ร้อยละ
แต่งตั้ง โยกย้าย หรือถอดถอนเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เห็นด้วยเพราะ เป็นสิทธิของประชาชน ที่ต้องการเข้ามามีส่วนร่วม และทราบถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในบางครั้ง 75.84
ตำรวจด้วยกันเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เป็นการช่วยป้องกันการทุจริตได้ไม่มากก็น้อย
ไม่เห็นด้วยเพราะ เป็นเรื่องที่กว้างเกินไป ดูแลและเข้าถึงยาก อาจทำให้ผู้ที่มีอิทธิพลเข้ามาแทรกแซง และใช้อำนาจในทาง 21.36
ที่มิชอบในด้านการบริหารจัดการหรือการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ และประชาชนส่วนหนึ่งไม่มีความรู้
เกี่ยวกับระบบ และระเบียบการทำงานของหน่วยงานราชการมากนัก
ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ 2.80
รวม 100.00
5. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับข้อเสนอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ควรมียศ มีตำแหน่ง
ความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ควรมียศ มีตำแหน่ง ร้อยละ
เห็นด้วยเพราะ ตำรวจบางคนชอบใช้อำนาจหรือตำแหน่งในทางมิชอบ เช่น การขู่ รีดไถ ประชาชน เป็นการลดอำนาจ 15.92
และปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันด้วย
ไม่เห็นด้วยเพราะ ถือเป็นแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่ คนทำดีก็ควรได้รับสิ่งตอบแทน ทำให้การบริหารงานและระบบ 81.12
การปกครองมีความชัดเจน สามารถแยกแยะได้ ระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นการสร้าง
ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ 2.96
รวม 100.00
6. ท่านคิดว่าการปฏิรูปองค์กรตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเรื่องเร่งด่วนในระดับใด
ความคิดเห็นของประชาชนต่อระดับความเร่งด่วนของการปฏิรูปองค์กรตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร้อยละ
เป็นเรื่องเร่งด่วนในระดับสูงสุด 42.32
เป็นเรื่องค่อนข้างเร่งด่วน 26.24
เป็นเรื่องไม่ค่อยเร่งด่วน 19.44
เป็นเรื่องไม่เร่งด่วนเลย 8.88
ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ 3.12
รวม 100.00
ลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง
1. ตารางที่ 1 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามภูมิภาค
ภูมิภาค จำนวน ร้อยละ
กรุงเทพฯ และปริมณฑล 253 20.24
ภาคกลาง 248 19.84
ภาคเหนือ 250 20.00
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 249 19.92
ภาคใต้ 250 20.00
รวม 1,250 100.00
2. ตารางที่ 2 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามเพศ
เพศ จำนวน ร้อยละ
ชาย 685 54.80
หญิง 565 45.20
เพศทางเลือก - -
รวม 1,250 100.00
3. ตารางที่ 3 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามอายุ
อายุ จำนวน ร้อยละ
ต่ำกว่า 25 ปี 87 7.00
25 – 39 ปี 381 30.65
40 – 59 ปี 610 49.07
60 ปี ขึ้นไป 165 13.27
รวม 1,243 100.00
4. ตารางที่ 4 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามศาสนา
ศาสนา จำนวน ร้อยละ
พุทธ 1,173 94.44
อิสลาม 56 4.51
คริสต์ และอื่น ๆ 13 1.05
รวม 1,242 100.00
5. ตารางที่ 5 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามสถานภาพการสมรส
สถานภาพการสมรส จำนวน ร้อยละ
โสด 326 26.25
สมรส 887 71.42
หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ 29 2.33
รวม 1,242 100.00
ลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง (ต่อ)
6. ตารางที่ 6 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามระดับการศึกษา
ระดับการศึกษา จำนวน ร้อยละ
ประถมศึกษาหรือต่ำกว่า 336 27.12
มัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า 360 29.06
อนุปริญญาหรือเทียบเท่า 96 7.75
ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า 380 30.67
สูงกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า 67 5.41
รวม 1,239 100.00
7. ตารางที่ 7 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามอาชีพหลัก
อาชีพหลัก จำนวน ร้อยละ
ข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ 178 14.38
พนักงานเอกชน 174 14.05
เจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ 295 23.83
เกษตรกร/ประมง 169 13.65
รับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน 199 16.07
พ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน 172 13.89
นักเรียน/นักศึกษา 51 4.12
รวม 1,238 100.00
8. ตารางที่ 8 แสดงจำนวน และร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน
รายได้เฉลี่ยต่อเดือน จำนวน ร้อยละ
ไม่มีรายได้ 169 13.52
ไม่เกิน10,000 248 19.84
10,001 – 20,000 434 34.72
20,001 – 30,000 152 12.16
30,001 – 40,000 67 5.36
มากกว่า40,001 ขึ้นไป 95 7.60
ไม่ระบุ 85 6.80
รวม 1,250 100.00