การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่ง ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย

ข่าวทั่วไป Tuesday March 3, 2015 15:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กกร. ได้มีการประชุมสรุปภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนมกราคม พบว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเป็นไปอย่างช้าๆ โดยมีปัจจัยบวกต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยว โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ 2.6 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 ขณะที่การใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนอยู่ในระดับทรงตัว จากเดือนธันวาคม เนื่องจากข้อจำกัดของรายได้ครัวเรือนภาคเกษตรที่ถูกบั่นทอนจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ กอปรกับภาระหนี้อยู่ในระดับสูง ทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงรอความชัดเจนของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและโครงการลงทุนพื้นฐานภาครัฐ ทั้งนี้ การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ยังได้ต่ำกว่าเป้า และแผนการลงทุนส่วนใหญ่ในปีนี้อยู่ในช่วงเริ่มต้นในขั้นตอนการประกวดราคา การว่าจ้างที่ปรึกษา และการเวนคืน ทำให้ยังเห็นเม็ดเงินลงทุนจริงเข้าสู่ระบบได้ไม่มาก ทั้งนี้ กกร. ยังได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์การฟื้นตัวของภาคส่งออกที่พลิกกลับมาติดลบอีกครั้งในเดือนมกราคม โดยตัวเลขส่งออกเดือนมกราคมหดตัวที่ร้อยละ 3.5 จากที่ขยายตัวร้อยละ 1.9 ในเดือนธันวาคม 2557 สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับลดลง มาอยู่ที่ระดับ 91.1 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำ รวมทั้งการแข็งค่าของเงินบาทซึ่งบั่นทอนความสามารถทางการแข่งขันของผู้ส่งออกในภาวะที่เศรษฐกิจคู่ค้ายังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป ญี่ปุ่นและจีน ที่อาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาคส่งออกของไทยทั้งปีอย่างมีนัยสำคัญ ในเบื้องต้น กกร. ยังคงคาดการณ์เดิมว่าเศรษฐกิจปี 2558 มีแนวโน้มขยายตัวที่ร้อยละ 3.5 ตามประมาณการเดิมในเดือนพฤศจิกายน 2557 ได้ อย่างไรก็ดี ปัจจัยเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก มีมากขึ้นจากเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนและญี่ปุ่นฟื้นตัวอย่างเปราะบาง และเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มชะลอลง อีกทั้ง แนวโน้มการอ่อนค่าของสกุลเงินในประเทศคู่ค้าและคู่แข่ง อาจส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกให้เติบโตได้ประมาณร้อยละ 2.00-2.50 จากเดิมที่คาดการณ์ร้อยละ 3.5 กกร. หารือเรื่องการพัฒนาคลัสเตอร์ (Cluster) เพื่อพิจารณาคัดเลือก Cluster ที่มีศักยภาพ เช่น อุตสาหกรรมการเกษตรและอาหาร, Medical Tourism & Wellness, อุตสาหกรรมยานยต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยาง เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการ กำหนดเป้าหมายของแต่ละกิจกรรม ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.) ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2558 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้มอบหมาย กกร. รับผิดชอบเรื่องการพัฒนาคลัสเตอร์ กกร. และกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Thailand-Canada Business Meeting ครั้งที่ 1 ในวันศุกร์ที่ 20 มีนาคม 2558 ณ โรงแรมดุสิตธานี โดยได้รับเกียรติจาก รัฐนตรีการค้าระหว่างประเทศของแคนาดา (ฯพณฯ Ed Fast) กล่าวสุนทรพจน์ ช่วงอาหารกลางวัน ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 150 คน ซึ่งเป็นนักธุรกิจแคนาดา จากประเทศแคนาดา และนักธุรกิจแคนาดาในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค ประมาณ 50 คน เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ การจัดประชุม Thailand-Canada Business Meeting ครั้งที่ 1 เป็นการประชุมระดับทวิภาคีของทั้งสองประเทศ ครั้งแรก เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการเป็นหุ้นส่วนระหว่าง ภาคเอกชนไทยและแคนาดา ตลอดจนเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจของประเทศไทย สำหรับสาขาธุรกิจท ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจที่จะศึกษาลู่ทางและขยายความร่วมมือระหว่างกันได้แก่ อุตสากรรมการเกษตร อุตสาหกรรมประเภท Green Technology อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน อุตสาหกรรมกระดาษและเยื่อกระดาษ เป็นต้น สินค้าสำคัญๆ ที่ไทยส่งออกไปแคนาดา ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรู ยางพาราและผลตภัณฑ์ยางพารา อุปกรณ์และส่วนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ ผลไม้กระป๋อง ส่วนสินค้าที่ไทยนำเข้าจากแคนาดา ได้แก่ ปุ๋ยและยากำจัดวัพืช ผลิตภัณฑ์เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องจักรกล โดยประเทศไทยเป็นฝ่ายเกินดุลย์การค้า 559.35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2557 ซึ่งมีมูลค่าการค้ารวม จำนวน 2,398.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สนง. กกร./3 มีนาคม 2558

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ