ต้อนรับน้องๆ รั้วอาชีวะ สู่ครอบครัวมูลนิธิเอสซีจี สร้างคนเก่งและดี กับโครงการ “ฝีมือชน คนสร้างชาติ”

ข่าวทั่วไป Monday September 26, 2016 16:45 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--Extravaganza PR ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่ยุค 4.0 โครงสร้างเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมจะเปลี่ยนไปจากการเพิ่มมูลค่าไปสู่การสร้างมูลค่า สร้างความมั่งคั่งผ่านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างสินค้าที่เป็นนวัตกรรม สร้างความได้เปรียบในเชิงแข่งขันใน 5 อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีใหม่ อย่างไรก็ตามแม้เทคโนโลยีจะก้าวล้ำเพียงไหน แต่องค์ประกอบที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนย่อมหนีไม่พ้นทรัพยากร 'คน' มูลนิธิเอสซีจีซึ่งมุ่งเน้นเรื่องการสร้างคนด้วยการศึกษา โดยเฉพาะสายอาชีวะเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ จึงให้ทุน 'ฝีมือชน คนสร้างชาติ' มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้มีนักเรียนทุนฝีมือชน คนสร้างชาติ เป็นรุ่นที่ 4 แล้ว จำนวน 400 คน ทั้งในสายช่างและสายบริการ สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า โครงการ "ฝีมือชน คนสร้างชาติ" มุ่งส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนไทยหันมาเรียนอาชีวศึกษา และพัฒนาสู่การเป็น 'ฝีมือชน' ที่เก่งและดี เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต ตลอดจนสร้างทัศนคติที่ดีในการเรียนอาชีวะทั้งต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง และสังคม โดยการมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียน ม.3 ที่สามารถเข้าศึกษาต่อหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในสาขาช่างอุตสาหกรรม สาขาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สาขาคหกรรมศาสตร์ และสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ จำนวน 400 ทุน ซึ่งทุนนี้ไม่มีภาระผูกพันต้องใช้คืน มีข้อแม้นิดเดียวว่าเมื่อเข้าเรียน ปวช. แล้ว น้องๆจะต้องรักษาเกรดให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 2.5 รวมถึงมีความประพฤติดี ช่วยเหลือสังคม โดยนอกจากทุนที่ได้รับ น้อง ๆ ยังมีโอกาสพัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ จนจบการศึกษารวมถึงได้ฝึกงานกับบริษัทชั้นนำ "กิจกรรมที่สำคัญหนึ่งที่เราตั้งใจมอบให้กับน้องๆ ก็คือกิจกรรมปฐมนิเทศ เพื่อต้อนรับน้องๆ ฝีมือชน สู่ครอบครัวมูลนิธิเอสซีจี ตลอดจนให้น้องๆ ได้ทำความรู้จักเพื่อนๆ รวมถึงได้เรียนรู้ประสบการณ์จากฝีมือชนคนต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็น ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ หรือเชฟโต๋ เชฏฐ์ภูชิชย์ เถกิงศักดิ์ Chef De Cuisine ของบริษัทอาหารรายใหญ่ของเมืองไทย รวมถึงรุ่นพี่ในโครงการฯ เพื่อร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้อง ๆ ภายใต้แนวคิด "เปลี่ยนความชอบเป็นอาชีพ เลือกเรียนอาชีวะ" พร้อมกันนั้นยังเปิดประสบการณ์ด้วยการนำน้องฝีมือชนเยี่ยมชม SCG Experience เพื่อชมการออกแบบผลิตภัณฑ์และการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่ออนาคต ซึ่งได้รับความสนใจจากน้องๆ เป็นอย่างดี นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเข้าร่วมโครงการฯ และถือเป็นการเปิดบ้านต้อนรับเหล่าฝีมือชนสู่ครอบครัวมูลนิธิฯ อย่างเป็นทางการ" สุวิมล กล่าว ด้าน ดร.กุลชาติ จุลเพ็ญ ฝีมือชนคนต้นแบบ เจ้าของฉายา "ด็อกเตอร์จากกองขยะ" ที่มีจุดเริ่มต้นจากเด็กเร่ร่อนที่เลือกทางเดินให้ตนเองด้วยการเลือกเรียนอาชีวะ จนจบปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมศาสตร์จากประเทศญี่ปุ่น ได้แนะนำน้องๆ อย่างน่าสนใจใจว่า "การกำหนดเป้าหมายของชีวิตเพียงแค่ต้องเข้าใจตัวเองก่อนว่าเราถนัดหรือชอบอะไร และชีวิตในอนาคตอยากเป็นอะไร แล้วจึงนำความชอบและความฝันเหล่านั้นมาเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดความมุ่งมั่น มีวินัย ให้ความสำคัญกับการฝึกฝนทักษะ ซึ่งการเรียนอาชีวะ อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้น้องๆ ได้นำทักษะไปพัฒนาด้วยการลงมือทำจริง และที่สำคัญอีกอย่าง ก็คือการมองหาโอกาสในการนำความรู้ ความสามารถเหล่านั้นไปต่อยอด หาประสบการณ์ให้กับตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันทักษะฝีมือแรงงาน หรือการทำงานร่วมกับสถานประกอบการต่าง ๆ ฝึกฝนให้มีความชำนาญ เพื่อสร้างรายได้และพึ่งพาตนเองได้เร็ว ความสุขและความมั่นคงในหน้าที่การงานถือเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จของชีวิต" ดร. กุลชาติ กล่าว ด้าน เชฟโต๋ – เชฏฐ์ภูชิชย์ เถกิงศักดิ์ อีกหนึ่งฝีมือชนที่ประสบความสำเร็จจากการเปลี่ยนความชอบ ให้เป็นอาชีพ เลือกเรียนสาขาคหกรรมศาสตร์ตั้งแต่ระดับอาชีวศึกษา ปริญญาตรี และปริญญาโท ได้แชร์ประสบการณ์กับน้อง ๆ ไว้อย่างน่าสนใจเช่นกัน "จริง ๆ แล้ว การเรียนอาชีวะมีข้อดีมากมาย เพราะได้เรียนรู้ทั้งทฤษฎีควบคู่การปฏิบัติ การเรียนแบบทวิภาคี ทำให้ได้ฝึกฝนทักษะฝีมือในสถานประกอบการจริง เช่นตัวผมเรียนด้านอาหาร ได้มีโอกาสเรียนรู้และทำงานในสถานประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นการปูโต๊ะ เช็ดโต๊ะ ไปจนถึงการเช็คของ การจัดเตรียมวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหาร ถือว่าได้รับความรู้โดยตรงจนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญ อีกทั้งยังได้พบปะผู้คนในสายอาชีพที่เราชื่นชอบหรือสนใจ จนเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อไปในอนาคต ทำให้คนที่เรียนจบสายอาชีวะมักจะประสบความสำเร็จทางวิชาชีพได้อย่างรวดเร็ว เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั้งของไทยและต่างประเทศ แต่ผู้ปกครอง หรือน้อง ๆ บางส่วนอาจจะยังเข้าใจผิดในเรื่องการเรียนอาชีวะ กังวลว่าจบไปแล้วจะมีงานทำหรือไม่ จะสามารถเรียนต่อระดับปริญญาได้ไหม ซึ่งแท้จริงแล้วการเรียนระดับปริญญาเปิดกว้างมาก สามารถเรียนต่อได้ ขึ้นอยู่กับความสนใจและความตั้งใจของน้องๆ รวมถึงมีหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่คอยดูแล ส่งเสริมและสนับสนุน ทั้งในการเรียนและการทำงานค่อนข้างมาก จึงเป็นโอกาสดีของน้อง ๆ ที่สนใจจะเปลี่ยนความชอบ ให้เป็นอาชีพ หันมาเลือกเรียนอาชีวะเพิ่มมากขึ้นครับ" เชฟโต๋ กล่าวแนะนำกับน้อง ๆ ด้านรุ่นพี่ฝีมือชน คนสร้างชาติ อย่างน้องธัน – นายกฤตภาส ปิติยานานนท์ นักเรียนระดับชั้น ปวส. ปีที่ 1 สาขางานเครื่องทำความเย็นและปรับอากาศ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ที่มาร่วมดูแลน้องๆ ตลอดกิจกรรมปฐมนิเทศเล่าว่า ตนเองเป็นนักเรียนรุ่นแรกที่ได้รับทุนฯ นี้จากมูลนิธีเอสซีจี และได้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน "ผมรู้สึกดีใจกับน้องๆ ทุกคน ที่ได้รับโอกาสดีๆ แบบนี้ เพราะนอกจากการได้รับทุนการศึกษาแล้ว มูลนิธิเอสซีจียังมีกิจกรรมให้ได้เข้าร่วมอีกมากมาย ทำให้ได้เปิดประสบการณ์ ได้รู้จักกับเพื่อนและรุ่นพี่ต่างวิทยาลัย พูดคุยและเรียนรู้แนวคิดจากวิทยากรที่เป็น 'ฝีมือชนคนต้นแบบ' ที่เก่งและประสบความสำเร็จเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ง่ายๆ จากในห้องเรียนครับ" น้องธัน กล่าว มาที่ตัวแทนนักเรียนทุนฯ น้องใหม่ น้องริซ – นายสิทธิโชค เกื้อสกุล นักเรียนระดับชั้น ปวช. ปีที่ 1 สาขาวิชาการโรงแรม วิทยาลัยการอาชีพอ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ฝีมือชนรุ่นเยาว์กล่าว ว่า ตนเองเลือกเรียนอาชีวะ เพราะความชอบและความตั้งใจที่จะทำงานด้านโรงแรม อีกทั้งจังหวัดกระบี่มีชื่อเสียงและสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย ทำให้แต่ละปีมีชาวไทยและชาวต่างชาติมาพักผ่อน ท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงคิดว่าการเรียนด้านโรงแรมน่าจะทำให้หางานได้ง่าย นอกจากนี้การได้เริ่มเรียนตั้งแต่ระดับชั้น ปวช. จะทำให้เกิดทักษะความรู้ ความชำนาญอย่างรวดเร็ว สามารถหาเลี้ยงชีพและประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นไปอีกด้วย "รู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิเอสซีจี เพราะถือเป็นการช่วยเหลือครอบครัวของผม ลดภาระค่าใช้จ่าย รวมถึงการได้เข้าร่วมกิจกรรมปฐมนิเทศทำให้ได้รับความรู้ในหลายๆ ด้าน ได้เพื่อนใหม่จากหลากหลายที่ ได้ฝึกการใช้ชีวิตกับคนหมู่มาก และยิ่งได้ฟังประสบการณ์การเรียนอาชีวะจากเชฟโต๋ ทำให้มีแรงบันดาลใจ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเอง และผมเชื่อว่าจะสามารถทำฝันของผมให้เป็นจริงได้ครับ" น้องริซ กล่าว ทุกความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่มักมีที่มาจากความชอบเล็กๆ เสมอ เพียงแค่เราต้องหามันให้เจอ มูลนิธิเอสซีจีขอร่วมสนับสนุนน้องๆ ให้เลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ เลือกทำในสิ่งที่รัก หากรู้ตัวว่าชอบอะไร ถนัดอะไร ก็เลือกเดินบนเส้นทางนั้น บวกกับความมุ่งมั่นตั้งใจ ความสำเร็จก็คงไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะประเทศไทยยังต้องการ 'ฝีมือชน' อีกมาก มาร่วม 'เปลี่ยนความชอบ เป็นอาชีพ' กันเถอะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ