เดินตามรอยเท้าพ่อ

ข่าวทั่วไป Wednesday November 16, 2016 11:32 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ อยากเดินตามรอยเท้าพ่อ ต้องรู้หน้าที่ มีเป้าหมาย มีใจกตัญญู รู้คุณชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค จึงได้จัดกิจกรรม "เดินตามรอยเท้าพ่อ" เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช กษัตริย์ผู้ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีและครบถ้วนในทุกๆ ด้าน กษัตริย์ผู้ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเหล่าพสกนิกรชาวไทย จากพลังเล็กๆ ที่จะเปลี่ยนความโศกเศร้า ให้กลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่สู่การขับเคลื่อนที่เข้มแข็ง พร้อมน้อมนำพระราชดำรัส รวมถึงหลักปรัชญาต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งสุดท้ายที่พระองค์ท่านได้ให้ไว้แก่พวกเราชาวไทยได้ดำเนินรอยตาม ถ่ายทอดผ่านนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจ้าของถ้วยพระราชทานในหลวงรัชกาลที่ 9 เบส – อรพิมพ์ รักษาผล ณ ยูนิลีเวอร์ เฮาส์ ถนนพระราม 9 นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจ้าของถ้วยพระราชทานในหลวงรัชกาลที่ 9 เบส – อรพิมพ์ รักษาผล เผยว่า "คนไทยมีต้นแบบที่ดี คือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แต่น้อยมากที่เราจะทำตามพระองค์ท่าน เราฟังพระบรมราโชวาทของพระองค์ท่าน แต่น้อยมากที่พวกเราจะคิดและเดินรอยตาม จนวันนี้เสียงของพระองค์ท่านดังกว่าเดิม และเรารู้จักพระองค์ท่านดีขึ้นกว่าเดิม แต่เป็นวันที่พวกเราคนไทยไม่มีพระองค์ท่านอยู่แล้ว พวกเราใส่ใจพระองค์ท่านน้อยมาก แต่พระองค์ท่านใส่ใจพวกเรามาถึง 70 ปี เชื่อว่าหลายๆ คนยังคงร้องไห้คิดถึงพระองค์ท่านอยู่ แต่หากเราเป็นลูกพ่อตัวจริง เราต้องลุกขึ้นให้ไว ปาดน้ำตาให้เร็ว แล้วเดินเข้าไปหาเป้าหมายที่เราทุกคนต้องทำ ไม่ใช่แค่พวกเราเท่านั้นที่มีความรู้สึกสูญเสีย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของเราท่านก็เคยสูญเสียเช่นเดียวกัน สูญเสียพระราชบิดา สูญเสีย พระเชษฐา สูญเสียพระราชมารดา อีกหลายปีต่อมาสูญเสียพระเจ้าพี่นางเธอ และยังรวมถึงสมเด็จพระสังฆราช ที่ดูแลพระองค์เมื่อครั้งพระองค์ท่านผนวช แต่ในวันนี้เรามาเปลี่ยนความคิดถึง ความโศกเศร้าที่มีต่อพระองค์ท่านให้เป็นพลัง ถึงแม้น้ำตาจะยังไม่หยุดไหล แต่ก็ต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป เราจะเปลี่ยนความเศร้าให้เป็นพลัง หากเราอยากเดินตามรอยเท้าพ่อ นี่คือ 4 ข้อที่เราจะปฏิบัติ ในวันที่น้ำตามันกลบเกลื่อนดวงตาเรา อยากเดินตามรอยเท้าพ่อ ต้องรู้หน้าที่ พระองค์ท่านเคยสอนว่า "อย่ามีเงื่อนไขในการทำงาน" ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยสัมภาษณ์พระองค์ท่านว่า ทรงเคยเหนื่อยบ้างไหมที่พระองค์ท่านทำงานเยอะขนาดนี้ พระองค์ท่านตอบว่า "เหนื่อย ท้อ แต่เดิมพันของเรานั้นสูงนัก เพราะเดิมพันของเราคือประเทศชาติและประชาชน" พระองค์ท่านจึงทรงงานหนักเพราะรู้จักในหน้าที่ ใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย เราทุกคนไม่ได้เกิดมาเป็นผู้แพ้หรือผู้ชนะ แต่เราเกิดมาเพื่อเป็นผู้เลือก เลือกที่จะชนะใจตัวเอง หากเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน ทุกอย่างจะชัดแจ้ง ต้องมีใจกตัญญู อย่าคิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ แล้วลืมคนที่เคยเลี้ยงดูและรักเรา เพราะขนาดในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงงานหนักกว่าพวกเราหลายร้อยหลายพันเท่า ท่านยังเสด็จฯ ไปเสวยพระกระยาหารกับสมเด็จย่าอาทิตย์ละ 5 วัน พระองค์เป็นตัวอย่างของบุคคลที่ไม่เคยละเลยคนใกล้ตัว เพราะพลังชีวิตที่จะทำให้เราขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ คือความกตัญญู และ รู้คุณชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ครั้งหนึ่งตัวดิฉันเคยมีคนว่าจ้างให้พูดเพื่อให้คนเกิดความแตกแยกกัน ด้วยจำนวนเงินที่สูงมาก แต่ในวันนั้นได้ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่าแล้วจะมองรูปคนในธนบัตรได้อย่างไร มาในวันนี้รู้สึกภูมิใจและทำให้ได้เป็นนักพูดของพ่อ เพราะความไม่เห็นแก่เงิน ถ้าจะได้เงินต้องได้อย่างถูกต้อง ต้องไม่ขายศักดิ์ศรี และต้องรู้คุณชาติ ศาสน์ กษัตริย์ แม้ว่าวันนี้พระองค์ท่านจะเสด็จจากไป แต่เราในฐานะคนไทย จะยังเป็นคนไทยที่ดีเหมือนเดิมในรัชกาลที่ 10" ด้าน สุชาดา ธีรวชิรกุล ประธานบริหาร ยูนิลีเวอร์ เน็ทเวิร์ค เผยว่า "บริษัทยูนิลีเวอร์เป็นบริษัทต่างชาติที่ได้รับพระราชทานตราครุฑ ด้วยเพราะเป็นบริษัทที่มีความจงรักภักดี และทำความดีเพื่อประเทศไทย โดยเมื่อไม่นานนี้ทางบริษัทฯ ได้พาผู้ร่วมธุรกิจเครือข่ายกว่า 400 คน เดินทางไปสักการะพระบรมศพฯ ที่พระบรมมหาราชวัง ดิฉันเชื่อว่าหลายๆ คนไม่เคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระองค์ท่าน แต่เคยสงสัยกันไหมค่ะว่าทำไมพวกเราถึงรักพระองค์ท่านมาก ก็เพราะปณิธานในการดำรงชีวิตของพระองค์ท่านชัดมาก ความหมายของชีวิตของพระองค์ท่านคืออะไร ท่านอยู่เพื่อใคร เพื่ออะไร ตั้งแต่วันแรกที่พระองค์ท่านขึ้นครองราชย์ พระองค์ท่านกล่าวว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" ความสุขของประชาชนชาวไทย ความสุขของพวกเราเป็นความหมายของชีวิตพระองค์ท่าน ดังนั้นพระองค์จึงก่อให้เกิดโครงการในพระราชดำริมากมายกว่า 4,000 โครงการ เพื่อที่จะดูแลประชาชนของพระองค์ให้มีความสุข และจากนี้ไปการทำงานของพวกเราจะมีความหมายมากยิ่งขึ้น ด้วยการตั้งปณิธานจะสานต่อสิ่งที่พ่อทำ ด้วยการมอบโอกาสทางธุรกิจที่ดีให้กับผู้คน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุข ด้วยความซื่อสัตย์ และใส่ใจ" ปิดท้ายงานด้วยการร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี จากผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม "เดินตามรอยเท้าพ่อ" ร่วม 400 คน ที่ดังกระหึ่มท่ามกลางน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ