ปภ.รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้คลี่คลายแล้ว 3 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 8 จังหวัด พร้อมบูรณาการการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มกำลัง

ข่าวทั่วไป Thursday December 8, 2016 09:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่1 – 6 ธันวาคม 2559 เกิดสถานการณ์อุทกภัย 11 จังหวัด ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ยะลา และนราธิวาส ยังคงมีสถานการณ์ใน 8 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี และระนอง พร้อมบูรณาการหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดมสรรพกำลังและทรัพยากรปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำท่วมขังลงสู่ทะเลและพื้นที่รองรับน้ำ ตลอดจนสำรวจและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัย และทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยด่วนต่อไป นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 – 6 ธันวาคม 2559 เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมฉับพลันใน 11 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และระนอง รวม 88 อำเภอ 559 ตำบล 3,773 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 212,392 ครัวเรือน 582,343 คน ผู้เสียชีวิต 14 ราย ถนนเสียหาย 674 สาย คอสะพาน 33 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ยะลา และนราธิวาส ยังคงมีสถานการณ์ใน 8 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานีนครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี และระนอง รวม 83 อำเภอ 552 ตำบล 3,754 หมู่บ้าน โดยจังหวัดชุมพร น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 6 อำเภอ 38 ตำบล 111 หมู่บ้าน อีกทั้งยังเกิดวาตภัยในอำเภอเมืองชุมพร ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,556 ครัวเรือน 5,827 คน สุราษฎร์ธานี น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 17 อำเภอ 100 ตำบล 647 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29,730 ครัวเรือน 95,539 คน ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้สูญหาย 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 1 ราย นครศรีธรรมราช น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 23 อำเภอ 161 ตำบล 1,425 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 261,877 ครัวเรือน 105,289 คน ผู้เสียชีวิต 5 ราย ถนนถูกน้ำท่วม 50 สาย ตรัง น้ำท่วมขังในพื้นที่ 7 อำเภอ 52 ตำบล 5 เทศบาล 348 หมู่บ้าน 10 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,795 ครัวเรือน 35,963 คน สงขลาน้ำท่วมขังในพื้นที่ 10 อำเภอ 63 ตำบล 339 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,931 ครัวเรือน 80,104 คน อพยพประชาชน 232 ครัวเรือนผู้เสียชีวิต 2 ราย ผู้บาดเจ็บ 1 ราย ถนนเสียหาย 369 สาย พัทลุง น้ำท่วมขังในพื้นที่ 11 อำเภอ 62 ตำบล 572 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 31,142 ครัวเรือน 85,393 คน อพยพประชาชน 26 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ปัตตานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 8 อำเภอ 75 ตำบล 308 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,772 ครัวเรือน 17,640 คน ผู้เสียชีวิต 2 ราย ระนอง น้ำท่วมขังในตำบลลำเลียง อำเภอกระบุรี ปัจจุบันระดับน้ำลดลง อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำระบายน้ำลงสู่ทะเลและแหล่งน้ำสาธารณะ รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถบรรทุกขนาดใหญ่ เรือท้องแบนอำนวยความสะดวกในการสัญจรและขนย้ายสิ่งของแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัย และทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยด่วนต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการติดตามคาดการณ์สภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ระยะนี้ภาคใต้ยังมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ ประกอบกับฝนที่ตกสะสม จึงมีความเสี่ยงต่อการน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 – 3 เมตร ปภ. ได้ประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ติดตามสภาพอากาศ และพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ