กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมความรู้พนักงานตรวจแรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน รองธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิด โครงการอบรมพนักงานตรวจแรงงาน ภายใต้โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน (Workshop on Promoting Law Enforcement on the Protection of Home - Based Workers Project) ณ โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น ราชาออคิด จังหวัดขอนแก่นว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมีภารกิจสำคัญประการหนึ่ง คือ การกำกับ ดูแลและคุ้มครองให้แรงงานทั้งในระบบและนอกระบบให้ได้รับสิทธิตามกฎหมายและมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมีพนักงานตรวจแรงงานเป็นกลไกสำคัญในการบังคับใช้กฎหมาย ส่งเสริมให้นายจ้าง ผู้จ้างงาน ลูกจ้าง และผู้รับงานไปทำที่บ้าน ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนักในสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อให้การดำเนินการดังกล่าวเกิดผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจ กสร.ได้จัดโครงการอบรมพนักงานตรวจแรงงาน ภายใต้โครงการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ส่งเสริม การบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน (Workshop on Promoting Law Enforcement on the Protection of Home - Based Workers Project) ขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ซึ่งประกอบด้วยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ. 2553 กฎกระทรวง ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2555) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. 2557 แนวปฏิบัติด้านคุ้มครองแรงงาน รวมทั้งเทคนิคการสอบข้อเท็จจริง ให้กับพนักงานตรวจแรงงาน ซึ่งจะส่งผลให้เข้าถึงสิทธิและการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายของแรงงานนอกระบบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
นายทศพล กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการอบรมพนักงานตรวจแรงงาน ดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization : ILO) โดยกำหนดระยะเวลาในการอบรมทั้งสิ้น รวม 2 วัน ประกอบด้วยการบรรยายให้ความรู้จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหน่วยงานภายในและภายนอกกรม พร้อมทั้งแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการสอบข้อเท็จจริง ผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วย พนักงานตรวจแรงงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวม 50 คน