เตือนเกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบ..โดยเฉพาะภาคเหนือ..ระวังโรคราแป้งขาวกุหลาบระบาด

ข่าวทั่วไป Friday December 1, 2017 11:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบรวมถึงไม้ตัดดอกชนิดอื่น ๆ โดยเฉพาะทางภาคเหนือของประเทศไทย ควรเฝ้าระวังโรคราแป้งขาวระบาด ซึ่งมักพบเมื่อสภาพอากาศหนาวเย็น น้ำค้างลงจัดกลางคืนมีความชื้นสูง ทำให้เชื้อโรคราแป้งขาวกุหลาบเจริญเติบโตได้ดี สามารถแพร่ระบาดโดยปลิวไปกับลม ทำความเสียหายรุนแรงได้ ดังนั้น ขอให้เกษตรกรหมั่นสำรวจแปลงของตนเองอย่างสม่ำเสมอ หากพบขุยสีขาวขึ้นปกคลุมบริเวณด้านบนใบและใต้ใบ เนื้อใบที่ถูกทำลายจะพองออก ใบบิดงอ โดยเฉพาะใบอ่อน และยอดอ่อนของกุหลาบ ขอให้เตรียมการป้องกัน หรือขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน เพื่อหาแนวทางทางป้องกันกำจัดก่อนเกิดการระบาดรุนแรง นายประสงค์ ประไพตระกูล รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า โรคราแป้งกุหลาบเป็นโรคที่สำคัญชนิดหนึ่งของกุหลาบ และไม้ตัดดอกอีกหลายชนิด โรคราแป้งมีลักษณะเป็นผงสีขาวคล้ายผงแป้งเคลือบอยู่บนผิวใบ ทั้งด้านบนและด้านใต้ใบ พบมากในใบอ่อน และยอดอ่อนของกุหลาบ เนื้อเยื่อส่วนที่เชื้อราเกาะอยู่จะพองออก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า โรคใบพอง ทำให้ใบบิดงอ ถ้าใบถูกราแป้งเข้าทำลายมาก จะมองเห็นบริเวณที่เป็นโรคมีสีม่วงถึงดำ และหลุดร่วงในที่สุดต้นกุหลาบแคระแกร็น ดอกกุหลาบที่เชื้อราปกคลุมดอกจะไม่บาน หรือบานแต่ดอกไม่สมบูรณ์เสียรูปทรง กรมส่งเสริมการเกษตร ขอแนะนำวิธีการป้องกันกำจัดโรคราแป้งขาวกุหลาบ ดังนี้ ๑. ตัดแต่งกิ่งกุหลาบที่เป็นโรค เก็บใบหลุดร่วงที่โคนต้นนำไปเผาทำลายทิ้ง ๒. ในช่วงที่มีการระบาดของโรคควรงดให้ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูง เพราะจะทำให้โรคระบาดอย่างรุนแรง ๓. หากมีการระบาดมาก ควรใช้สารเคมีประเภทที่มีกำมะถันหรือทองแดงฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็น สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ๔. สำหรับสารเคมีที่ใช้อื่นๆ เช่น เบนเลท , คาราแทน อัตราการใช้ตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในฉลาก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ