ปภ.รายงานมีจังหวัดได้รับผลกระทบจากวาตภัย 24 จังหวัด เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยครอบคลุมทุกด้าน

ข่าวทั่วไป Friday March 23, 2018 12:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานตั้งแต่วันที่ 13 – 22 มีนาคม 2561 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 24 จังหวัด 74 อำเภอ 150 ตำบล 420 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 2,866 หลัง ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือน รวมถึงให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยด่วนแล้ว นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 13 – 22 มีนาคม 2561 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย รวม 24 จังหวัด 74 อำเภอ 150 ตำบล 420 หมู่บ้าน 1 ชุมชน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 2,866 หลัง แยกเป็น ภาคเหนือ 4 จังหวัด ได้แก่ พะเยา เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเชียงคำ 8 ตำบล 23 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 200 หลัง กำแพงเพชร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพรานกระต่าย อำเภอเมืองกำแพงเพชร อำเภอไทรงาม รวม 4 ตำบล 23 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 84 หลัง เชียงราย เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเชียงแสน อำเภอเมืองเชียงราย อำเภอเวียงเชียงรุ้ง อำเภอพญาเม็งราย และอำเภอแม่ลาว รวม 7 ตำบล 16 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 50 หลัง อุทัยธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสว่างอารมณ์ อำเภอห้วยคด อำเภอบ้านไร่ รวม 5 ตำบล 10 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 25 หลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 16 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ เกิดวาตภัย ในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอยางตลาด อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ อำเภอห้วยเม็ก อำเภอฆ้องชัย อำเภอหนองกุงศรี อำเภอสหัสขันธ์ อำเภอเขาวง และอำเภอห้วยผึ้ง รวม 23 ตำบล 84 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 377 หลัง อุดรธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกุมภวาปี อำเภอประจักษ์ศิลปาคม อำเภอไชยวาน อำเภอหนองวัวซอ อำเภอหนองแสง อำเภอศรีธาตุ อำเภอโนนสะอาด และอำเภอทุ่งฝน รวม 13 ตำบล 32 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 400 หลัง หนองบัวลำภู เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองหนองบัวลำภู อำเภอศรีบุญเรือง และอำเภอนากลาง รวม 8 ตำบล 28 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 238 หลัง บุรีรัมย์ เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอสตึก 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 214 หลัง ร้อยเอ็ด เกิดวาตภัยในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด อำเภอโพนทอง อำเภอเชียงขวัญ อำเภอธวัชบุรี อำเภอเมยวดี และอำเภอจังหาร รวม 7 ตำบล 8 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 188 หลัง หนองคาย เกิดวาตภัย ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าบ่อ อำเภอเฝ้าไร่ อำเภอโพนพิสัย อำเภอศรีเชียงใหม่ และอำเภอเมืองหนองคาย รวม 16 ตำบล 40 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 92 หลัง นครพนม เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอนาแก 1 ตำบล 10 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 77 หลัง มุกดาหาร เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอดงหลวง 1 ตำบล 4 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 41 หลัง มหาสารคาม เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอโกสุมพิสัย 4 ตำบล 10 หมู่บ้านบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 59 หลัง สุรินทร์ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าตูม อำเภอจอมพระ อำเภอโนนนารายณ์ รวม และอำเภอสำโรงทาบ รวม 9 ตำบล 28 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 129 หลัง สกลนคร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวานรนิวาส อำเภอสว่างแดนดิน อำเภอโคกศรีสุพรรณ และอำเภอเมืองสกลนคร รวม 7 ตำบล 9 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 15 หลัง ขอนแก่น เกิดวาตภัย ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอภูเวียง อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอน้ำพอง อำเภอฝาง และอำเภอพล รวม 10 ตำบล 24 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 92 หลัง ยโสธร เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอกุดชุม และอำเภอเมืองยโสธร รวม 7 ตำบล 19 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 219 หลัง อุบลราชธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเดชอุดม 1 ตำบล 10 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 223 หลัง ศรีสะเกษ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอไพรบึง อำเภอขุขันธ์ และอำเภอโนนคูณ รวม 5 ตำบล 12 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 23 หลัง นครราชสีมา เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอครบุรี 1 ตำบล 1 หมู่บ้านบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 2 หลัง ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภออู่ทอง 2 ตำบล 8 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 30 หลัง ชัยนาท เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอสรรคบุรี 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1 หลัง ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีราชา และอำเภอเมืองชลบุรี รวม 2 ตำบล 3 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 60 หลัง ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ยะลา เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอเมืองยะลา บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 17 หลัง ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภค กระเบื้องมุงหลังคา และวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านเรือนแก่ผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจ ประเมินและจัดทำบัญชีข้อมูลความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งการชดเชยความเสียหายของบ้านเรือนเป็นวัสดุก่อสร้าง หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสม ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ