กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--ซีพีเอฟ
ข้าวโพด : ราคาเพิ่มขึ้น
เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดู ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สัปดาห์นี้จึงมีน้อยลงมาก ส่งผลให้ราคาข้าวโพด ณ ไซโลโรงงานอาหารสัตว์สัปดาห์นี้ยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่ราคาหาบละ 624บาท เป็นหาบละ 636บาท
ส่วนราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 21มีนาคม 2561รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม อยู่ที่ 375 เซนต์/บุชเชล ราคาข้าวโพดอ่อนตัวลงตามราคาข้าวสาลี เนื่องจากเม็กซิโก ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดในการนำเข้าข้าวโพดสหรัฐอเมริกา ได้หันไปพึ่งพาผลผลิตจากแหล่งอื่นมากขึ้น เป็นผลมาจากมีกรณีพิพาทกับสหรัฐฯ โดยขู่จะถอนตัวจากสนธิสัญญาเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวโพดในประเทศน่าจะยืนแข็ง
ถั่วเหลือง : ราคาทรงตัว
ปริมาณถั่วเหลืองสัปดาห์นี้ใกล้เคียงกับความต้องการใช้ ส่งผลให้ราคากากถั่วเหลืองที่ได้จากเมล็ดถั่วเหลืองนำเข้าสัปดาห์นี้ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ที่กิโลกรัมละ 15.75 บาท
ด้านราคาซื้อขายกากถั่วเหลืองในตลาดซื้อขายล่วงหน้าชิคาโก ประจำวันที่ 21 มีนาคม2561 รอบส่งมอบเดือนพฤษภาคม ราคาอยู่ที่ 364.50เหรียญสหรัฐฯ/ชอร์ตตัน เป็นราคาที่ลดลง โดยเป็นราคาต่ำสุดในรอบหนึ่งเดือน ส่วนถั่วเหลืองรอบส่งมอบเดือนมีนาคม ราคาอยู่ที่ 1,029.50เซนต์/บุชเชล เป็นราคาที่อ่อนตัวลงเป็นผลจากความวิตกว่าจะเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน โดยขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าจีนจะซื้อผลผลิตจากสหรัฐฯตามสัดส่วนเดิมหรือไม่จากฤดูกาลผลิต 2017/18 ที่จีนนำเข้ารวม 97 ล้านตัน
แนวโน้ม : คาดว่าราคาถั่วเหลืองน่าจะยืนอ่อน
ปลาป่น : ราคาทรงตัว
ความต้องการใช้ปลาป่นในประเทศคาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่เกษตรกรจะนำกุ้งเข้าเลี้ยง ขณะที่ปริมาณปลาป่นในท้องตลาดยังเพียงพอกับการใช้ ส่งผลให้ราคาปลาป่นโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปลาป่นเกรดกุ้ง ราคากิโลกรัมละ 56.50 บาท ด้านปลาป่นเบอร์ 1 เกรดที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 53.20 บาท และเกรดที่ต่ำกว่า 60 โปรตีน กิโลกรัมละ 50.70 บาท
ด้านปลาป่นคุณภาพรองลงมา ปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนที่สูงกว่า 60 โปรตีนขึ้นไป ราคากิโลกรัมละ 53.20 บาท และปลาป่นเบอร์ 2 ชนิดที่มีโปรตีนสูงกว่า 56 แต่ไม่เกิน 60 กิโลกรัมละ 49.70 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาปลาป่นน่าจะทรงตัว
ข้าว : ราคาเพิ่มขึ้น
การซื้อขายข้าวตลาดต่างประเทศสัปดาห์นี้คึกคักขึ้น ส่งผลให้ราคาข้าวโดยรวมเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยข้าว 100% ชั้น 2 ส่งออกท่าเรือกรุงเทพฯ เอฟ.โอ.บี. จากราคาตันละ 450 เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ 457เหรียญสหรัฐฯ ส่วนราคาปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ส่งออก เอฟ.โอ.บี.จากราคาตันละ 375เหรียญสหรัฐฯ เป็นตันละ382เหรียญสหรัฐฯ
สำหรับการซื้อขายข้าวตลาดในประเทศ ข้าว 100% ชั้น 2 สัปดาห์นี้ ราคาปรับขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาจากกระสอบละ 1,260บาท เป็นกระสอบละ 1,280บาท ด้านปลายข้าว เอ.วัน.พิเศษ ณ โรงงานอาหารสัตว์ ราคาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากสัปดาห์ก่อนที่กระสอบละ 1,030บาท เป็นกระสอบละ 1,050บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาข้าวในประเทศน่าจะทรงตัว
สุกร : ราคาทรงตัว
กลุ่มผู้เลี้ยงสุกรทุกพื้นเริ่มมีความเข้มแข็งขึ้นขณะที่การร่วมตัดวงจรการผลิตของผู้ประกอบการฟาร์มเลี้ยงสุกรขนาดใหญ่ในทุกภูมิภาคยังมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลผลิตสุกรขุนลดลง ส่งผลให้ราคาประกาศทั่วประเทศปรับเป็น 47 – 55บาทต่อกิโลกรัม
ด้านลูกสุกรขนาด 16 กิโลกรัมต่อตัว ราคาไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ตัวละ 1,200บาท (บวกลบ 43)
แนวโน้ม : คาดว่าราคาสุกรน่าจะแข็งตัว
ไก่เนื้อ : ราคาทรงตัว
การบริโภคไก่เนื้อโดยรวมยังชะลอตัวต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์อย่างไรก็ตามจากการที่ผู้เลี้ยงอิสระได้ชะลอการนำไก่เข้าเลี้ยง ทำให้ปริมาณไก่ใหญ่ที่ออกสู่ตลาดในเดือนมีนาคมมีปริมาณน้อยลง ทั้งนี้ ทางภาคเหนือโดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง ผู้เลี้ยงไก่อิสระมีการแข่งขันกันมาก ส่วนภาคอีสาน ประสบกับพายุฝนฟ้าคะนอง และกำลังซื้อในพื้นที่ไม่ค่อยดีนัก ด้านภาคใต้ ผู้เลี้ยงได้นำลูกไก่เข้าเลี้ยงมากขึ้น เนื่องจากสามารถระบายไก่ใหญ่เข้ามาเลเซียได้ส่งผลให้ราคาประกาศสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อขายไก่เนื้อหน้าฟาร์มสัปดาห์นี้ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่กิโลกรัมละ 32 บาท
ด้านลูกไก่เนื้อราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีราคาตัวละ 11.50 บาท ส่วนลูกไก่ไข่ ราคายืนที่ตัวละ 10.00 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไก่เนื้อน่าจะยืนอ่อน
ไข่ไก่ : ราคาลดลง
การบริโภคไข่ไก่ยังคงลดลง เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดภาคเรียนส่งผลให้ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มจากการสำรวจทั่วไปในท้องตลาดลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ฟองละ2.30 บาท เป็นฟองละ 2.20 บาท
แนวโน้ม : คาดว่าราคาไข่ไก่น่าจะทรงตัว