Blackmores ชวน คุณพ่อคุณแม่ให้โอกาสร่วม ไขความลับสู่ความสำเร็จค้นหาทักษะให้ลูก

ข่าวทั่วไป Tuesday April 3, 2018 12:05 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--พีอาร์ สตอรี่ เด็กๆ คือวัยแห่งการเรียนรู้และค้นหาตัวเอง มีแรงบันดาลใจที่จะทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่คือผู้ที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้กับลูกตั้งแต่วัยเยาว์ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินแบลคมอร์ส จากประเทศออสเตรเลีย เชิญ 3 กูรูร่วมกิจกรรม Blackmores Open Campไขความลับสู่ความสำเร็จ ซึ่งเป็นการต่อยอดแนวคิดจาก มหกรรมกีฬาเทนนิสระดับโลก Australian Open ที่แบลคมอร์สเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องราวของนักกีฬาเทนนิสที่ประสบความสำเร็จ ที่ค้นพบความชอบอย่างจริงใจและทุ่มเทมุ่งมั่นจนนำมาซึ่งความสำเร็จและมีความสุข แบลคมอร์สเชื่อและส่งเสริมการสร้างสุขภาพดีทั้งกายและใจ (Well Being) โดยที่ครอบครัวคือจุดเริ่มต้นที่ช่วยส่งเสริมให้เด็กเห็นความสำคัญของการมีสุขภาพที่แข็งแรงโดยออกกำลังกายสม่ำเสมอ การนอนหลับพักผ่อน และที่สำคัญเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ให้เพียงพอ รวมถึงการสร้างความสุขในครอบครัวอยู่เสมอ สำหรับกิจกรรม Blackmores Open Campไขความลับสู่ความสำเร็จ มีเด็กๆและผู้ปกครองกว่า 100 คน จาก 34 ครอบครัว ที่มีอายุระหว่าง 5-12 ปี ร่วมแคมป์เรียนรู้และค้นหาทักษะหาประสบการณ์ ทั้งนี้เด็ก ๆ ได้เข้าเข้าร่วมกิจกรรมกับ 3 กูรูผู้รู้จริงใน 3 ฐานกิจกรรมค้นหาทักษะเบื้องต้น ได้แก่ คุณแทมมารีน ธนสุกาญจน์ หรือแทมมี่อดีตนักเทนนิสหญิงมือ1ของไทยและผ่านการแข่งขันในสนามโลกรวมถึงการแข่งขัน Australian Open ที่ประเทศออสเตรเลีย คุณวนิษา เรซ หรือหนูดี ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยภาพและการพัฒนาการเรียนรู้ ดีกรีความรู้จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด คุณเหมือนแพร พานะบุตร หรือ กิ่ง The Star นักร้องและเจ้าของโรงเรียนดนตรี โดยเริ่มกิจกรรมให้เด็กทุกคนจะได้เรียนรู้การดูแลสุขภาพกับการเลือกทานสารอาหารและวิตามินที่จำเป็น เช่น การสร้างภูมิคุ้มกัน พัฒนาการเรียนรู้และการเจริญเติบโต หลังจากนั้นน้อง ๆ ได้แบ่งกลุ่มเข้าฝึกปฏิบัติและเรียนรู้ในแต่ละฐานโดยน้อง ๆ จะได้รู้จักเทคนิคต่างๆ จากกูรูแต่ละท่าน เพื่อเป็นการค้นหาศักยภาพและความถนัดที่ซ่อนอยู่ในตัวเด็ก ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะช่วยเป็นแนวทางให้ผู้ปกครองได้นำไปใช้พัฒนาให้กับน้องๆ ต่อยอดสู่ความสำเร็จ คุณวนิษา เรซ กล่าวว่า สารอาหารมีความสำคัญต่อการพัฒนาการของเด็ก ผู้ปกครองควรให้เด็กได้ทานอาหารที่หลากหลาย มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า เด็กที่ทานอาหารหลากหลายจะผสมคำได้เร็วกว่าเด็กทั่วไป ดังนั้นเทคนิคในการเลือกอาหารให้เด็กรับประทาน คือ Eat the rainbow ทานอาหารให้ครบ 7 สี เพื่อให้ได้สารอาหาร ที่ครบถ้วน ทั้งนี้ มนุษย์มีศักยภาพหลายด้าน การจะมองได้ว่าเด็กมีศักยภาพด้านใดเป็นพิเศษ จะต้องเปิดโอกาสให้ได้ลองทำกิจกรรมที่หลากหลาย เพราะแต่ละช่วงวัยมีความชอบที่แตกต่างกัน สามารถเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้ปกครองจะต้องเปิดใจให้กว้าง เด็กบางคนมีความหลงใหลในกิจกรรมที่ทำเป็นอย่างมาก แต่ไม่ต้องการประกอบอาชีพนั้น เช่น ชอบเล่นกีฬาเทนนิส แต่ไม่ได้อยากเป็นนักเทนนิส ซึ่งผู้ปกครองควรให้การสนับสนุน ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเสียเวลาโดยไม่เกิดประโยชน์ เพราะความหลงใหลและทำสิ่งนั้นจริงจัง เป็นเรื่องของทักษะ ในอนาคตหากไปทำงานทักษะที่เคยฝึกฝนอาจถูกนำมาประยุกต์ใช้ได้ รวมถึงได้ฝากว่าการเลือกกิจกรรมเสริมให้ลูกจะต้องเลือกครูที่ใช่ หมายถึง เด็กมีความชื่นชอบครูในวิชาที่เรียน เลือกกิจกรรมที่หลากหลาย และทำความเข้าใจกับลูกให้ลองเรียนทุกอย่าง หยุดเรียนได้ก็ต่อเมื่อจบหลักสูตร เพื่อให้เด็กได้ทดลองและค้นหาตัวเอง การเรียนรู้ธรรมชาติ เป็นจุดเริ่มต้นง่าย ๆ และเป็นกิจกรรมที่ผู้ปกครองทำด้วยกัน กับเด็ก ๆ ได้ คุณแทมมารีน ธนสุกาญจน์ เล่าให้ฟังว่า การสังเกตว่าลูกชอบอะไรเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ดูได้จากเด็กจะชอบและรักสิ่งที่ทำและอยู่กับสิ่งนั้นได้นาน อย่างกีฬาเทนนิสเป็นกีฬาที่ท้าทายต้องพัฒนาด้านร่างกาย มีสมาธิ และน้ำใจนักกีฬา การฝึกฝนเพื่อให้ตีลูกได้แม่นยำ หรือตีลูกข้ามตาข่ายได้ เมื่อเด็กทำได้ก็จะมีความสุขและรักที่จะทำ แต่การทำกิจกรรมเดิมๆ ซ้ำๆ อาจเกิดความเบื่อหรืออยากหยุด ผู้ปกครองควรหากิจกรรมอื่นๆ ให้เด็กทำเพื่อเป็นการผ่อนคลาย จริงๆ แล้วเด็กสามารถทำหลายๆ กิจกรรมได้ แต่จะต้องเป็นกิจกรรมที่รักและสนุกที่จะทำ ผู้ปกครองไม่ควรกดดันลูกไม่ว่าเรื่องเรียนหรือเรื่องกีฬา รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับโภชนาการสำหรับเด็ก ซึ่งในแต่ละช่วงวัยมีความต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเด็กๆ ที่เป็นนักกีฬาจะต้องได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์หรือเสริมด้วยวิตามินเพิ่ม เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะแข่งขัน คุณเหมือนแพร พานะบุตร ได้พูดถึงการเรียนดนตรีสำหรับเด็กว่า เด็กทุกคนสามารถเรียนได้ เพราะดนตรี เป็นมากกว่าการร้องเพลงหรือการเล่นเครื่องดนตรีเก่ง แต่เป็นการฝึกสมาธิให้เด็กมีความนิ่ง จดจ่อในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้มากขึ้น การเล่นดนตรีหรือการฟังตัวโน๊ตบ่อยๆ จะทำให้เด็กรู้จักการฟัง เป็นการจุดประกายให้เด็กรู้สึกว่าชอบดนตรีหรือไม่และต่อยอดต่อไป การเรียนดนตรี ผู้ปกครองไม่ควรกดดันลูก เพราะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ที่จะทำให้สภาพจิตใจแจ่มใส และทำให้เด็กได้ผ่อนคลาย คุณกิ่งย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือการมีความสุขเมื่อร้องเพลง จะทำให้ร้องเพลงได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ ภก. ณัฐที เทียนศิริ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างสุขภาพแนว Be a Well Being ยังได้แนะนำสารอาหารที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ว่า การมีสุขภาพดีของทุกคนในครอบครัว คือการทานให้ครบ 5 หมู่ แต่ด้วยปัจจุบันสังคมที่เร่งรีบ อาจทำให้ได้รับสารอาหารที่ไม่เพียงพอ ซึ่งสารอาหารที่จำเป็นสำหรับทุกคนในครอบครัวจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ สารอาหารโอเมก้า-3 ควรได้รับวันละ 300-500มิลลิกรัม โดยโอเมก้า-3 ประกอบไปด้วยสาร DHA มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง และEPA บำรุงหลอดเลือด และสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน โดยผู้ใหญ่จะเน้นที่วิตามินซีเป็นหลัก โดยเฉลี่ยควรรับประทานวันละ 1,000 มิลลิกรัม ส่วนเด็กก็มีวิตามินซีสำหรับเด็กที่ทานง่ายสามารถทานเป็นประจำได้และควรเพิ่มแร่ธาตุซิงค์ วิตามินอี และวิตามินเอ ในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงหากมีอาการป่วยจากการติดเชื้อไวรัส สามารถทานสมุนไพรเอ็กไคนาเซีย ซึ่งออกฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อไวรัส และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ด้วย โดยสามารถปรีกษาแพทย์หรือเภสัชกรได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ