TFD ปั๊มรายได้เต็มสูบ หลังนิคมเฟส 2 พร้อมขาย-โอน โชว์ทำเลศักยภาพเยี่ยมแย้มจีน-ยุโรป-ญี่ปุ่นเจรจาซื้อที่ดิน หนุนปีนี้ผลประกอบการเทิร์นอะราวด์ พลิกกำไรทันที

ข่าวทั่วไป Monday April 9, 2018 13:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--IR network "ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม" ปั๊มรายได้เต็มสูบหลังนิคมทีเอฟดี 2 พื้นที่ 841 ไร่ พร้อมขายและโอนได้ทันที ชูทำเลศักยภาพเยี่ยมอยู่ในโซน EEC เป็นที่ต้องการสูง แย้มจีน-ญี่ปุ่น-ยุโรป เจรจาเข้าลงทุนหลายราย เชื่อขายที่ดินหมดได้ตามแผน เตรียมพัฒนาเฟส 3 เพิ่มอีก 1,500 ไร่ มั่นใจปีนี้ผลประกอบการเทิร์นอะราวด์พลิกกำไรได้มั่นคง นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD เปิดเผยว่า นิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 บนพื้นที่ 841 ไร่ ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้พัฒนาและเปิดขายนั้น ปัจจุบันมีความพร้อมสามารถโอนที่ดินให้กับลูกค้าได้แล้วซึ่งจะส่งผลให้เกิดการรับรู้รายได้เข้ามาทันทีสนับสนุนให้รายได้ปี 2561 ขยายตัวอย่างชัดเจน โดยมูลค่าโครงการทั้งสิ้นอยู่ที่ราว 7 พันล้านบาท ทั้งนี้ พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 2 เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง โดยเชื่อมต่อกับนิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 1 โดยตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โซนแผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development: EEC) ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ขนานกับถนนมอเตอร์เวย์ยาว 4 กิโลเมตร ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ และท่าเรือแหลมฉบัง ขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ลงทุนด้านสาธารณูปโภครองรับไว้พร้อมสรรพแล้ว ในขณะที่ราคาขายยังคงไม่ได้ปรับขึ้นแม้ว่าราคาที่ดินในโซนใกล้เคียงจะปรับตัวขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 10-15 ล้านบาทต่อไร่แล้ว จึงเหมาะทั้งเพื่อพัฒนาสร้างโรงงานอุตสาหกรรม และซื้อลงทุนระยะยาว โดยกำหนดขายพื้นที่ขนาด 5 ไร่ขึ้นไป "ปัจจุบันทีเอฟดี 2 เปิดขายพร้อมทั้งสามารถโอนโฉนดได้แล้ว และด้วยทำเลที่ดีเยี่ยม อยู่ในโซน EEC มีสาธารณูปโภครองรับพร้อม ได้รับอนุมัติ EIA ทั้งโครงการแล้ว จึงมั่นใจว่าลูกค้าจะตัดสินใจซื้อได้ไม่ยาก และยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่ในแถบนี้กำลังราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึง"เหมาะทั้งการซื้อเพื่อทำโรงงาน และซื้อเพื่อเป็นการลงทุนก็ได้" นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการบริหาร กล่าว นายอภิชัย ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมามีนักลงทุนต่างชาติทั้งจีน ญี่ปุ่นและยุโรปหลายรายทยอยติดต่อซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพื่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงก็มีลูกค้าคนไทยแสดงความสนใจเข้ามาด้วยเช่นกัน จึงมั่นใจว่ายอดขายจะเป็นไปตามที่วางแผนไว้ และจะมีการพัฒนาเฟส 3 เพิ่มอีก 1,500 ไร่ต่อไป โดยเตรียมจะขอ EIA ในพื้นที่โซนที่เหลือจากพื้นที่ทั้งหมด 2,500ไร่ มูลค่ารวม 2.25 หมื่นล้านบาท จึงมั่นใจว่า ผลประกอบการปี 2561 จะพลิกฟื้นจากปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจน มีกำไรขยายตัวได้แข็งแกร่งในระยะยาว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ