“AECS ” คาดดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัว 1,780-1,820 จุด แนะลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน – รับเหมา – กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 23, 2018 14:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์ บล.เออีซี (AECS) ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,780-1,820 จุด หวั่นปัจจัยเสี่ยงจากประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ ยังไม่ได้ข้อยุติและมีโอกาสยืดเยื้อต่อไป ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ อีกทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกทั้งโลหะและน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง มองกรอบดัชนีหุ้นไทยยังขึ้นจำกัดจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น ด้านฝ่ายวิจัย แนะหุ้นกลุ่มพลังงาน – รับเหมา – กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้(23-27 เม.ย)โดยทางฝ่ายวิจัย ให้กรอบการลงทุน1,780-1,820 จุด พร้อมแนะนำให้จับตา 10Yr-US Bond Yield ที่ล่าสุดปรับขึ้นแตะระดับ 2.96% นับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี หลังนักลงทุนคาดอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะมีทิศทางเร่งตัวมากขึ้น สอดคล้องกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกทั้งโลหะและน้ำมันที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง หลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังไม่ได้ข้อยุติและมีโอกาสยืดเยื้อต่อไป ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และสร้างความกังวลที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น อย่างไร ก็ดีเรามองว่าการปรับขึ้นของตัวเลขดังกล่าวจะยังไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยของเฟดให้แตกต่างไปจากเป้าเดิมที่ 3 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากในช่วงสั้นการปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะยังไม่กระทบต่อดัชนีราคาผู้บริโภค Core CPI และดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลที่เฟดใช้เป็น Indicatorสำคัญที่สะท้อนถึงระดับเงินเฟ้อของภาคครัวเรือน ทำให้คาดตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสฟื้นตัวได้ ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยมองว่า แม้ดัชนีมีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้หลังราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูงและคลายกังวลสถานการณ์ต่างประเทศ แต่มองกรอบการขึ้นยังจำกัดจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นและอยู่ระหว่างติดตามงบ 1Q61 ของบจ. โดยกลยุทธ์ลงทุนแนะนำ "Selective Buy โดยไม่ไล่ราคาในหุ้นที่คาดจะ Outperformตลาด" ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ หุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งได้อานิสงส์ราคาน้ำมันยังสูงเกิน 65 ดอลลาร์/บาร์เรล เช่น PTT, PTTEP หุ้นที่คาดว่างบ 1Q/61 จะออกมาเติบโตดี YoY เช่น HMPRO, CPALL, BJC, MINT, ERW, RS, MONO, BCH หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก EEC เช่น AMATA, WHA, ROJNA, SEAFCO และหุ้นจ่าย Div. Yield เกิน 3% โดยจะขึ้น XD พ.ค. นี้ เช่น KKP, SC, AP, LH นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้นกลุ่มที่คาดว่าปรับตัวบวก ได้แก่ กลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง เช่น PYLON, SEAFCO กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ เช่น AMANAH, THANI

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ