มูลนิธิข้าวไทย ขอเชิญชวนซื้อบัตรอวยพร "ข้าวคือชีวิต"

ข่าวทั่วไป Thursday December 15, 2005 10:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอเชิญซื้อ บัตรอวยพร ข้าวคือชีวิต เป็นของขวัญ ในโอกาสต่างๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งบัตรอวยพรดังกล่าว เป็นภาพที่ชนะการประกวดภาพวาดระบายสี "ข้าวคือชีวิต" ชิงโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มี ๓ ชุด แบ่งตามระดับอายุของผู้วาดภาพ แต่ละชุดประกอบด้วยบัตรอวยพร (แบบพับ) ๑๔ ใบ ขนาด ๑๐ x ๑๕ ซม. พร้อมซอง ในราคา ชุดละ ๙๙ บาท โดยรายได้ทั้งสิ้นจะนำเข้าสมทบกองทุนพระราชทาน มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ผู้สนใจติดต่อสั่งซื้อหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ ๖ สุขุมวิท ๑๒ คลองเตย กรุงเทพฯ ๑๐๑๑๐ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๒๒๙ ๕๑๖๙ และ ๐ ๒๒๙๙ ๔๔๗๒
ข้าว เป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมประจำชาติ มีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อ ศาสนพิธี การเฉลิมฉลอง ภูมิปัญญาและวิถีทางในการดำรงชีวิตของคนไทย แต่ทุกวันนี้ คนไทยคุ้นเคยกับข้าวเสียจนมองข้ามความสำคัญของข้าวและคนปลูกข้าว ชาวนาเองก็ยัง ไม่อยากให้ลูกหลานสืบทอดการเป็นชาวนา เพราะทราบดีถึงความยากลำบากในการทำนาและรายได้จากการผลิตที่ไม่แน่นอน งบประมาณของรัฐบาลที่ใช้สำหรับค้นคว้าวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับข้าว ก็ไม่ได้รับ การสนับสนุนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่ออนาคตของประเทศ เราต้องร่วมกันสร้างอนาคตของข้าวไทย ให้ดีขึ้น ชาวนาควรรู้จักใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิมเพื่อเพิ่มผลิตผล และลดต้นทุนการผลิต โดยรักษาคุณภาพชีวิตและสภาพแวดล้อม และควรเข้าใจถึงกลไกของราคาข้าว กิจกรรมของ โรงสีข้าว และการค้าข้าวทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ เพื่อที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงรอบ ๆ ตัวสามารถเข้ากับระบบเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์ที่กำลังเผชิญอยู่ได้ ประชาชนทั่วไปก็ควรที่จะมีความรู้ และให้ความสนใจในเรื่องข้าวมากขึ้น ทั้งในด้านบทบาทของข้าวต่อวิถีการดำเนินชีวิต ความเชื่อ ขนบธรรมเนียมประเพณี ทั้งในด้านกระบวนการผลิตของชาวนา เราต้องเร่งเรียกร้องให้คนไทยหันกลับมาทำความรู้จักกับวัฒนธรรมข้าว เลือกสรร อนุรักษ์ บูรณาการความรู้เรื่องข้าวเพื่อเผยแพร่ สร้างการทำนา ให้เป็นอาชีพที่ดึงดูดใจคนรุ่นใหม่ได้ แต่เนื่องจากงานพัฒนาอนาคตข้าวและชาวนามีขอบเขตกว้างขวาง องค์กรใดองค์กรหนึ่งย่อมไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง จึงจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์การนานาชาติ อาศัยกลไกการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ มีเงินทุนสนับสนุนที่พอเพียงสำหรับงานวิจัยและงานฝึกอบรมต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงถือกำเนิดขึ้น ปัจจุบัน ด๊อกเตอร์ สุเมธ ตันติเวชกุล เป็นประธานกรรมการมูลนิธิฯ
(ที่มา: http://www.thairice.org/html/foundation/foundth03.html)--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ