คณะกรรมการบริหาร (CMB)

ข่าวทั่วไป Tuesday February 16, 2010 14:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--กลุ่มเซ็นทรัล ธุรกิจของบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด นั้น บริหารจัดการโดยฝีมือคนไทยครอบครัวตระกูล “จิราธิวัฒน์”มาตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 60 ปีเศษ เริ่มต้นจากร้านขายของชำเล็กๆ (ร้านโชว์ห่วย) จนปัจจุบันได้ขยายธุรกิจแบ่งได้เป็น 5 กลุ่มธุรกิจหลัก อันประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจค้าปลีก, กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์,กลุ่มธุรกิจค้าส่ง,กลุ่มธุรกิจโรงแรมและกลุ่มธุรกิจอาหาร มีผลประกอบการปีละกว่า 100,000 ล้านบาทขึ้นไป และดำเนินการบริหารจัดการด้วยความซื่อสัตย์ โปร่งใส และเป็นธรรมเสมอมา พร้อมได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการบริหารให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ธุรกิจมีความเจริญเติบโตก้าวทันกับโลกได้อย่างยั่งยืนและมั่นคงตลอดไป และท่ามกลางกระแสวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันและความจำเป็นในการขยายตัวทางธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะต้องดำเนินการต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเร็วๆนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารขึ้นมาใหม่ เรียกว่า CEO Management Board (CMB) เพื่อมาทำหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจหลักทั้ง 5 ด้วยการผลักดันคนรุ่นใหม่ไฟแรง มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์และเป็นผู้บริหารสูงสุดจากแต่ละกลุ่มธุรกิจหลักให้เข้ามามีโอกาสเข้ามาร่วมบริหารธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลอย่างแท้จริงภายใต้การกำกับการบริหารของคณะกรรมการที่เรียกว่า Supervisory Board (SB) โดยคณะกรรมการ CMB จะประกอบไปด้วย คุณสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการบริหารและมีกรรมการบริหารอีก 7 ท่านที่ได้ดูแลรับผิดชอบธุรกิจหลักของกลุ่มเซ็นทรัล ประกอบด้วย - คุณทศ จิราธิวัฒน์ เป็น CEO รับผิดชอบ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Retail Business — CRC) - คุณกอบชัย จิราธิวัฒน์ เป็นCEO รับผิดชอบ กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate — CPN) - คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ เป็น CEO รับผิดชอบ กลุ่มธุรกิจค้าส่ง (Trading and Marketing — CMG) - Mr.Gerd Steeb เป็น CEO รับผิดชอบ กลุ่มธุรกิจโรงแรม (Hotels — CHR) - คุณธีระเดช จิราธิวัฒน์ เป็น CEO รับผิดชอบ กลุ่มธุรกิจอาหาร (Food — CRG) - คุณสุทธิลักษณ์ จิราธิวัฒน์ เป็น CEO รับผิดชอบอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มเซ็นทรัล (LAND BANK) - คุณปริญญ์ จิราธิวัฒน์ เป็น CFO รับผิดชอบเกี่ยวกับการบริหารการเงินของกลุ่มเซ็นทรัล หลักการทำงานของ CMB การทำงานของคณะกรรมการ CMB จะเน้นการทำงานที่เป็นทีม ด้วยความร่วมมือรักใคร่สามัคคีกันภายใต้ข้อกำหนดกฎเกณฑ์ตามหลักสากลนิยมโดยยึดถือประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ซึ่งหลักการทำงานร่วมกันนั้นจะเน้นการตัดสินใจร่วมกัน ทุ่มเทอุทิศตนทำงานเพื่อส่วนรวม ทำงานด้วยความโปร่งใส ยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ ความยุติธรรมและการมีจรรยาบรรณต่อสังคมและส่วนรวม และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน โดยมีนโยบายที่สำคัญแต่ละหัวข้อดังต่อไปนี้ ยุทธศาสตร์ทางธุรกิจ (ระยะยาว) เน้นเรื่องการสร้างแบรนด์ให้เป็นจุดแข็งพร้อมสร้างคุณค่าให้ธุรกิจ สร้างพันธมิตรการทำธุรกิจให้ครอบคลุมหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดวางแผนการทำธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเป้าหมายที่ต้องการพร้อมสร้างระบบธรรมาภิบาลที่ดีในการประกอบธุรกิจอย่างจริงจัง ภารกิจหลักสำคัญ สร้างศักยภาพและมาตรฐานที่ดีมีคุณภาพให้ธุรกิจ สร้างภาพพจน์ที่ดีต่อสังคมเพื่อให้องค์กรเป็นสถาบันที่ยอมรับทั้งในประเทศและนอกประเทศและมั่นคงมีชื่อเสียงเป็นสัญลักษณ์อยู่คู่กับประเทศไทยตลอดไป การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้ความสำคัญในการสร้างบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษในระดับสูงและกำหนดผู้นำแห่งอนาคตรับผิดชอบดูแลธุรกิจ งาน Corporate Social Responsibility (CSR) ให้ความสำคัญควบคู่ไปกับการทำธุรกิจ โดยจะผลักดันการทำงาน CSR เพื่อช่วยเหลือสังคมด้านการศึกษา การกุศลสาธารณะและสิ่งแวดล้อมให้เกิดผลและเป็นรูปธรรมมากขึ้น และพิจารณาใช้มูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อมและมูลนิธิเตียงจิราธิวัฒน์ บริจาคการกุศล ผลการดำเนินงานทางธุรกิจประจำปี 2552 1. ผลประกอบการ ในส่วนของยอดขายปีที่ผ่านมานั้น กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลทั้ง 5 กลุ่ม มียอดขายรวมกันทั้งสิ้น 110,700 ล้านบาท ดีกว่าปีก่อน ประมาณ 9 % ต่ำกว่าเป้าหมายที่ประมาณการณ์ไว้ที่ยอดขาย 112,500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.6% อันเนื่องมาจากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจโลกและปัญหาการเมืองภายในประเทศ ซึ่งหากภาวะเศรษฐกิจโลกดีและการเมืองไทยมีความสงบมากกว่านี้ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล คงจะทำยอดขาย ปี 2552 เป็นไปตามเป้าหมาย ที่มีอัตราการเติบโตคิดเป็นร้อยละ 10.6 เติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 2. งบลงทุน ในปีที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลทั้ง 5 กลุ่ม ได้กำหนดแผนการลงทุนในโครงการต่างๆไว้ด้วยงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 19,000 ล้านบาท ในขณะที่ใช้งบลงทุนจริงไปประมาณ 15,500 ล้านบาท ต่ำกว่าแผนที่วางไว้เนื่องจากความล่าช้าของการก่อสร้างและการปรับปรุงโครงการต่างๆ 2.1 กลุ่มธุรกิจค้าปลีก (CRC) มีการลงทุน 3,950 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการใหม่ซึ่งได้แก่ CDS แจ้งวัฒนะและพัทยาบีช , RBS ชลบุรีและขอนแก่น, HWS ราชพฤกษ์ และ ไทวัสดุ บางบัวทอง ซึ่งได้เปิดให้บริการในปลายเดือนมกราคม 2553 2.2 กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (CPN) มีการลงทุน 8,700 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 56 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการใหม่ ได้แก่ CentralPlaza Chaengwattana ,The Office Tower at Chaengwattana , Central Festival Pattaya Beach , CentralPlaza Udonthani ,CentralPlaza Chonburi และ CentralPlaza Khonkaen 2.3 กลุ่มธุรกิจค้าส่ง (CMG) มีการลงทุน 170 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1 2.4 กลุ่มธุรกิจโรงแรม(CHR) มีการลงทุน 2,430 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 16 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโรงแรมใหม่ ได้แก่ Centara Grand Mirage Beach Resort Pattaya ,Centara Grand Island Resort & Spa Maldives และCentara Grand Beach Resort Phuket 2.5 กลุ่มธุรกิจอาหาร (CRG)มีการลงทุน 250 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในการเปิดสาขาใหม่ 3. ความรับผิดชอบของธุรกิจต่อสังคม (Corpoorate Social Responsibility — CSR) ถือเป็นนโยบายสำคัญ โดยกำหนดให้ผู้บริหารทุกระดับตลอดจนพนักงานของบริษัทฯทุกคนได้ตระหนักและมีความรับผิดชอบต่อการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการประกอบธุรกิจ โดยในปี 2552 มีผลการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิเช่น ลงนามถวายพระพร 12 สิงหาคม และ 5 ธันวาคม ,โครงการทำดีเพื่อพ่อถวายเป็นพระราชกุศล , การบูรณะพระอุโบสถ วัดปทุมวนารามวรมหาวิหาร ,โครงการ “รักษ์โลก ดูแลโลก” เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก,โครงการ EU Grand Opening และ โครงการ EU Concert เพื่อกระตุ้นให้วัยรุ่นหันมาสนใจดูแลสิ่งแวดล้อม , โครงการ “ปลูกป่าชายเลน 2 แสนต้นถวายพ่อของแผ่นดิน 84 พรรษา” ,โครงการมูลนิธิ Operation Smile เพื่อผ่าตัดช่วยเหลือเด็กปากแหว่ง เพดานโหว่ ,โครงการมินิมาราธอนเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย ,สนับสนุนผ้าห่มและถุงยังชีพให้กับพี่น้องคนไทยที่ประสบภัยหนาวและน้ำท่วม(ภาคใต้) และโครงการอาหารกลางวันให้กับเด็กยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร รางวัลเกียรติยศจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ 1. คุณยุวดี จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์อิตาลี “Cavaliere dell’Ordine della Stella della Solidarieta’Italiana” และรับโล่ห์ รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณ “รางวัลสตรีทำงานดีเด่น สำหรับสตรีนักบริหารภาคเอกชนดีเด่นจากกระทรวงแรงงาน 2. บริษัทในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (CPN) ได้รับรางวัล Bronze Label Energy Efficiency and Environment FriendlyBuilding 2009 Award” ระดับดีของศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าแจ้งวัฒนะและพัทยา บีช ,รางวัลเหรียญทองด้านการออกแบบดีไซน์ศูนย์การค้า การปรับภาพลักษณ์ศูนย์การค้าหรือการพัฒนาการโครงการที่มีอยู่เดิม (โครงการเซ็นทรัลเวิลด์) ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการประกวดโครงการต่างๆจากทั่วโลก ,รางวัลประกาศเกียรติคุณ “คณะกรรมการแห่งปีดีเด่น ประจำปี 2008/2009” โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย ,ได้รับการประเมินการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีในระดับ “ดีเลิศ” สำหรับปี 2552 โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และได้รับรางวัล “Certificate of Excellence” สำหรับส่วนงานนักลงทุนสัมพันธ์ ในงาน The IR Magazine South East Asia Awards 2009 ณ ตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์ 3. บริษัทในกลุ่มธุรกิจโรงแรม (CHR) ได้รับรางวัลสปาเซ็นวารี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีช รีสอร์ทสมุย รับรางวัลการพัฒนาคุณภาพสถานประกอบการสปาดีเด่น “โกลด์สปาอวอร์ด” จากกระทรวงสาธารณสุข , สปาเซ็นวารี โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ รับรางวัล “Best New Spa Thailand ในงาน Asia Spa & Wellness Festival 2009 Gold Awards และรางวัล Smart Travel Asia . Com มอบให้กับโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆในเครือเซ็นทารา 5 แห่ง 4. กลุ่มธุรกิจอาหาร (CRG) โดย Auntie Anne’s ได้รับรางวัล Pretzel Perfect Leadership Award 2008 , รางวัล Brand Excellence Award 2008 , รางวัล Pretzel Perfect Store Award 2008 และรางวัล Pretzel Quest Celebrity Chef Awar แผนการดำเนินงานทางธุรกิจประจำปี 2553 การเติบโตทางธุรกิจปี 2553 1. M & A (Mergers & Acquistions) การควบรวมกิจการ ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ส่งผลให้กลุ่มเซ็นทรัลประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยทางกลุ่มจะคำนึงถึงปัจจัยต่างๆที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อธุรกิจและกลุ่มอันได้แก่ 1.1 Synergy การผสานประโยชน์ร่วมกัน มีส่วนผลักดันธุรกิจของกลุ่มให้ประสบความสำเร็จ ด้วยการใช้ทรัพยากรต่างๆที่มีอยู่อย่างประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุด ทำให้สามารถลดภาระต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล 1.2 Value Added ภายหลังการทำ M & A ทางกลุ่มเซ็นทรัลได้ระดมความรู้ความสามารถและใช้ประสบการณ์ต่างๆที่มีอยู่มาพัฒนาปรับปรุงโครงการต่างๆ ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และสามารถพลิกฟื้นโครงการต่างๆให้กลับมามีผลตอบแทนที่เป็นผลบวกในเวลาต่อมา เช่น โครงการเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ , โครงการเซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัลอุดรธานี เป็นต้น 2. การขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ตามภารกิจของ CMB ประการหนึ่งในการทำธุรกิจของกลุ่มได้กำหนดว่าจะสร้างองค์กรให้เป็นสถาบันที่ยอมรับทั้งภายในประเทศและในระดับสากล ดังนั้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจึงมีแผนไปลงทุนทำธุรกิจในประเทศจีนเพื่อเป็นการบุกเบิกธุรกิจค้าปลีกไทยในต่างประเทศเนื่องจากเห็นว่าประเทศจีนเป็นประเทศใหญ่มีพลเมืองจำนวนมาก เศรษฐกิจมีความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีวัฒนธรรมประเพณีคล้ายๆกับประเทศไทย เป้าหมายการดำเนินงานทางธุรกิจ ประมาณการณ์ผลประกอบการ กลุ่มเซ็นทรัลคาดว่าในปี 2553 ธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัลน่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่อัตราร้อยละ 7 โดยประมาณการณ์ยอดขายของกลุ่มอยู่ที่118,800 ล้านบาท แผนการลงทุน ในปี 2553 กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลมีแผนการลงทุนในโครงการต่างๆด้วยงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 16,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่มีการลงทุน 15,500 ล้านบาท เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว โดยมีสัดส่วนการลงทุนในกลุ่มธุรกิจหลัก ดังนี้ 1. กลุ่มธุรกิจค้าปลีก(CRC) มีการลงทุน 5,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 31 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการใหม่ของ RBS (ตรังและเชียงราย) และจ่ายเงินลงทุนต่อเนื่องของ RBS ขอนแก่น และไทวัสดุ (บางบัวทองและสุขาภิบาล 3) รวมถึงการใช้งบลงทุนในการ Renovate สาขาต่าง ๆ ของทุกธุรกิจค้าปลีกของกลุ่ม ภายใน CRC เพื่อให้ดูทันสมัยอยู่เสมอ โดยเฉพาะปิดปรับปรุงสาขาลาดพร้าว 2. กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (CPN)มีการลงทุน 8,900 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 56 ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในโครงการใหม่ ได้แก่ Central Festival Pattaya Beach — Hotel ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 3 ของปี 2553 โครงการก่อสร้างที่เชียงรายและ Rama9 รวมถึงการปรับปรุงครั้งใหญ่ของศูนย์การค้า เซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว ซึ่งใช้เวลาปิดปรับปรุงประมาณ 6 เดือน โดยใช้งบประมาณกว่า 2,100 ล้านบาท 3. กลุ่มธุรกิจค้าส่ง (CMG) มีการลงทุน 200 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1 4. กลุ่มธุรกิจโรงแรม (CHR) มีการลงทุน 1,600 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10 ซึ่งเป็นการลงทุนในโครงการต่อเนื่องของ Centara Grand Beach Resort Phuket ซึ่งจะเปิดในไตรมาส 4 ของปี 2553 และการปรับปรุงโรงแรมที่ลาดพร้าว 5. กลุ่มธุรกิจอาหาร (CRG)มีการลงทุน 300 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2 เป็นการลงทุนใน New Brand เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งได้แก่ Beard Papa’s , Cold Stone Creamery and Chabuton และการลงทุนเพื่อเพิ่มสาขา ความรับผิดชอบของธุรกิจต่อสังคม (CSR) ยังถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการทำธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลอย่างต่อเนื่อง ปี 2553 นั้น มีแผนงาน CSR เน้นงานทางด้านการศึกษา ศิลปวัฒนธรรมโบราณสถาน สิ่งแวดล้อม และสังคมเป็นหลัก ประกอบด้วย โครงการเซ็นทรัลมุ่งมั่นพัฒนาการศึกษา โครงการเซ็นทรัลสืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย โครงการเซ็นทรัลพิทักษ์รักษ์สิ่งแวดล้อม โครงการเซ็นทรัลร่วมใจอาสาพัฒนาชุมชน และโครงการเซ็นทรัลร่วมใจต้านภัยธรรมชาติ เป็นต้น ปัจจัยความสำเร็จของการประกอบธุรกิจ 1. สถานการณ์เศรษฐกิจโลก หากวิกฤตเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและไม่ตกต่ำไปกว่านี้ ย่อมส่งผลดีให้กับภาคเอกชนในการกล้าตัดสินใจการลงทุนทำธุรกิจได้อย่างเต็มที่ 2. สถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนทำธุรกิจ ทุกภาคส่วนควรร่วมกันแก้ไขและหาทางป้องกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชน 3. นโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ควรดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนในการประกอบธุรกิจ รายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อ : คุณวรรณา ธรรมร่มดี โทร. 02-254-7007 ต่อ 2771

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ