วันนี้ (24 ก.ย.49) เวลา 14.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายศิริโชค โสภา อดีตส.ส.สงขลาและกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าคดีฆ่าชิปปิ้งหมู หรือ นายกรเทพ วิริยะ พร้อมกับเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชิปปิ้งหมูและครอบครัวว่า ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามใส่ร้ายป้ายสีว่า การที่ชิปปิ้งหมูถูกฆ่าตายเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2546 เกี่ยวข้องกับยาเสพติด บัดนี้ระบอบทักษิณได้เดินทางมาถึงจุดสุดท้ายแล้ว ซึ่งขณะนี้ตนมีความเชี่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมมากขึ้น ดังนั้นจึงพร้อมจะนำหลักฐาน 2 ชิ้นที่ได้เก็บไว้ และหวังว่าวันหนึ่งเมื่อไม่มีการแทรกแซงจากรัฐบาลก็จะส่งผลให้คดีมีความคืบหน้า
นายศิริโชค ให้สัมภาษณ์ต่อไปว่า ปัจจุบันนี้คดีที่เกี่ยวข้องกับชิปปิ้งหมูยังไม่มีความคืบหน้าและอยู่ในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมกับได้สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับคดีนี้ว่าเป็นคดีที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2544 โดยมีนาย กรเทพมาติดต่อตนและได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการนำสินค้าจากต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงภาษีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทในเครือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น หลังจากนั้นตนได้นำเรื่องนี้เข้าสู่กรรมการธิการพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งตนเป็นประธานอนุคณะกรรมาธิการพิจารณาการจัดเก็บภาษีจากธุรกิจนอกกฎหมายและการหลีกเลี่ยงภาษี
“ผมนำเรื่องนี้มาเปิดโปงเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2544 หลังจากที่ผมได้เปิดโปงมีการเปลี่ยนแปลงต่อนายกรเทพเป็นอย่างมาก แต่ท้ายที่สุดผมได้นำเรื่องนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือนพฤษภาคม 2545 และนำชิปปิ้งหมูไปเป็นพยานใน ป.ป.ช.แต่หลังจากนั้น วันที่ 26 มีนาคม 2546 ชิปปิ้งหมูถูกฆ่าตายที่จังหวัดเชียงราย” นายศิริโชคกล่าว
ส่วนในวันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2549 ช่วงเช้านายศิริโชค จะเดินทางไปยื่นเอกสารให้กับทาง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้มาดูแลคดีนี้อย่างเป็นพิเศษและจะนำหลักฐานการถอดเทป ลับจากวีดีโอเทปที่ชิปปิ้งหมูได้ให้การไว้ก่อนที่จะเสียชีวิตซึ่งเป็นเทปลับที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อให้ทราบถึงที่มาที่ไปของมูลเหตุที่ทำให้ชิปปิ้งหมูตายโดยไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และในวันอังคาร 26 กันยายน 2549 เวลา 14.00 น. นายศิริโชคก็จะไปยื่นเอกสารให้คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยเทปลับนี้ก็จะเป็นวัตถุพยานในศาลต่อไป
“ในคำสนทนาชิปปิ้งหมูได้พาดพิงถึงคนในรัฐบาลขณะนั้น 2 คน คนแรกเป็นนักการเมือง อีกคนเป็นภรรยานักการเมือง สำหรับหลักฐานชุดที่ 2 คือ เช็คเงินสดจากบริษัทชินแซทฯ วันที่ผมอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่ได้รับ แต่วันนี้ผมได้รับเอกสารนี้เรียบร้อยแล้วเห็นชัดว่า เป็นเงินสดจำนวน 4.3 ล้านบาทออกโดยบริษัท ชินวัตร แซทฯ ซึ่งเป็นเงินที่ถูกนำไปให้ชิปปิ้งหมูเข้าบัญชีของชิปปิ้งหมู สาขาซอยอารีย์ ซึ่งนายกรเทพได้ใช้เงินจำนวนนี้ให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรซึ่งเป็นเอกสารที่เพิ่มเติมมา” นายศิริโชคกล่าว
ทั้งนี้นายศริโชคกล่าวถึงสาเหตุที่ต้องเก็บหลักฐานนี้ไว้ตลอดเพราะ นายศิริโชคเห็นว่าหากเปิดเผยไปแล้วก็คงไม่เกิดประโยชน์เพราะวันนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องมีอำนาจในรัฐบาล
“อย่างบางช่วงบางตอนการสนทนา ผมถามนายกรเทพว่า กลัวไหม นายกรเทพตอบว่ากลัว เพราะว่ามีคนส่งคนตามมาไล่ยิง ผมถามว่า ทำไมถึงคิดว่ามีคนมาตาม เห็นไหมครับ นายกรเทพตอบว่า ไม่ได้คิด เห็นจริง ผมถามต่อว่า บุกไปในบ้านพกปืนมาด้วย ผมก็ถามต่อว่าเป็น ชายฉกรรจ์หลายคนไหม นายกรเทพตอบว่าบางครั้งก็ 2 คน บางครั้งก็คนเดียวขับรถเข้าไปจอดหน้าบ้านและก็มาถ่ายรูปบ้านตามไล่ยิงถึงวัด เขาบอกว่า คนที่รู้มาก็ปิดปากซะก็จะได้ไม่มีใครรู้ ผมก็รู้เรื่องมากกว่าใครและได้เรื่องมาจากคนในกลุ่มที่ทำงานเพราะว่าผมเป็นคนติดต่อเป็นคนต่อรอง” นายศิริโชคกล่าว
ทั้งนี้นายศิริโชคชี้ให้เห็นว่า มีความพยายามที่จะเก็บชิปปิ้งหมูจนสามารถเก็บชิปปิ้งหมูได้ที่ จ.เชียงราย ต่อข้อถามว่า สามารถเปิดเผยรายชื่อได้หรือไม่ว่านักการเมืองและภรรยานักการเมืองที่ชิปปิ้งหมูพูดถึงนี้คือใคร นายศิริโชคกล่าวว่า คงจะต้องให้ทาง พล.ต.อ.โกวิท เข้าไปจัดการนักการเมืองและภรรยานักการเมืองที่เกี่ยวข้องเพราะว่าเหตุในการจูงใจมีพอสมควรและผู้ตายได้พูดถึงบุคคลเหล่านี้
“โดยความเป็นจริง ผมยื่นพยานที่เป็นวัตถุ นายชิปปิ้งหมูจะต้องมายืนยันศาลว่าทั้งหมดที่พูดไปไม่มีการบีบบังคับ แต่ชิปปิ้งหมูไม่มีโอกาสยืนยันในศาล อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมชิปปิ้งหมูต้องตาย ผมคิดว่า นักการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งให้ชิปปิ้งหมูไปจ่ายสินบนให้กับทางศุลกากรและการที่ชิปปิ้งหมูออกมาเปิดโปงจะมีผลกระทบต่อนักการเมืองคนนั้นและโยงใยถึงภรรยาของนักการเมืองใหญ่หลายตำแหน่งด้วย” นายศิริโชคกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24 ก.ย. 2549--จบ--
นายศิริโชค ให้สัมภาษณ์ต่อไปว่า ปัจจุบันนี้คดีที่เกี่ยวข้องกับชิปปิ้งหมูยังไม่มีความคืบหน้าและอยู่ในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมกับได้สรุปสั้นๆ เกี่ยวกับคดีนี้ว่าเป็นคดีที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2544 โดยมีนาย กรเทพมาติดต่อตนและได้นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการนำสินค้าจากต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงภาษีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทในเครือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น หลังจากนั้นตนได้นำเรื่องนี้เข้าสู่กรรมการธิการพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งตนเป็นประธานอนุคณะกรรมาธิการพิจารณาการจัดเก็บภาษีจากธุรกิจนอกกฎหมายและการหลีกเลี่ยงภาษี
“ผมนำเรื่องนี้มาเปิดโปงเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2544 หลังจากที่ผมได้เปิดโปงมีการเปลี่ยนแปลงต่อนายกรเทพเป็นอย่างมาก แต่ท้ายที่สุดผมได้นำเรื่องนี้มาอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือนพฤษภาคม 2545 และนำชิปปิ้งหมูไปเป็นพยานใน ป.ป.ช.แต่หลังจากนั้น วันที่ 26 มีนาคม 2546 ชิปปิ้งหมูถูกฆ่าตายที่จังหวัดเชียงราย” นายศิริโชคกล่าว
ส่วนในวันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2549 ช่วงเช้านายศิริโชค จะเดินทางไปยื่นเอกสารให้กับทาง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้มาดูแลคดีนี้อย่างเป็นพิเศษและจะนำหลักฐานการถอดเทป ลับจากวีดีโอเทปที่ชิปปิ้งหมูได้ให้การไว้ก่อนที่จะเสียชีวิตซึ่งเป็นเทปลับที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อให้ทราบถึงที่มาที่ไปของมูลเหตุที่ทำให้ชิปปิ้งหมูตายโดยไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และในวันอังคาร 26 กันยายน 2549 เวลา 14.00 น. นายศิริโชคก็จะไปยื่นเอกสารให้คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยเทปลับนี้ก็จะเป็นวัตถุพยานในศาลต่อไป
“ในคำสนทนาชิปปิ้งหมูได้พาดพิงถึงคนในรัฐบาลขณะนั้น 2 คน คนแรกเป็นนักการเมือง อีกคนเป็นภรรยานักการเมือง สำหรับหลักฐานชุดที่ 2 คือ เช็คเงินสดจากบริษัทชินแซทฯ วันที่ผมอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่ได้รับ แต่วันนี้ผมได้รับเอกสารนี้เรียบร้อยแล้วเห็นชัดว่า เป็นเงินสดจำนวน 4.3 ล้านบาทออกโดยบริษัท ชินวัตร แซทฯ ซึ่งเป็นเงินที่ถูกนำไปให้ชิปปิ้งหมูเข้าบัญชีของชิปปิ้งหมู สาขาซอยอารีย์ ซึ่งนายกรเทพได้ใช้เงินจำนวนนี้ให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรซึ่งเป็นเอกสารที่เพิ่มเติมมา” นายศิริโชคกล่าว
ทั้งนี้นายศริโชคกล่าวถึงสาเหตุที่ต้องเก็บหลักฐานนี้ไว้ตลอดเพราะ นายศิริโชคเห็นว่าหากเปิดเผยไปแล้วก็คงไม่เกิดประโยชน์เพราะวันนั้นผู้ที่เกี่ยวข้องมีอำนาจในรัฐบาล
“อย่างบางช่วงบางตอนการสนทนา ผมถามนายกรเทพว่า กลัวไหม นายกรเทพตอบว่ากลัว เพราะว่ามีคนส่งคนตามมาไล่ยิง ผมถามว่า ทำไมถึงคิดว่ามีคนมาตาม เห็นไหมครับ นายกรเทพตอบว่า ไม่ได้คิด เห็นจริง ผมถามต่อว่า บุกไปในบ้านพกปืนมาด้วย ผมก็ถามต่อว่าเป็น ชายฉกรรจ์หลายคนไหม นายกรเทพตอบว่าบางครั้งก็ 2 คน บางครั้งก็คนเดียวขับรถเข้าไปจอดหน้าบ้านและก็มาถ่ายรูปบ้านตามไล่ยิงถึงวัด เขาบอกว่า คนที่รู้มาก็ปิดปากซะก็จะได้ไม่มีใครรู้ ผมก็รู้เรื่องมากกว่าใครและได้เรื่องมาจากคนในกลุ่มที่ทำงานเพราะว่าผมเป็นคนติดต่อเป็นคนต่อรอง” นายศิริโชคกล่าว
ทั้งนี้นายศิริโชคชี้ให้เห็นว่า มีความพยายามที่จะเก็บชิปปิ้งหมูจนสามารถเก็บชิปปิ้งหมูได้ที่ จ.เชียงราย ต่อข้อถามว่า สามารถเปิดเผยรายชื่อได้หรือไม่ว่านักการเมืองและภรรยานักการเมืองที่ชิปปิ้งหมูพูดถึงนี้คือใคร นายศิริโชคกล่าวว่า คงจะต้องให้ทาง พล.ต.อ.โกวิท เข้าไปจัดการนักการเมืองและภรรยานักการเมืองที่เกี่ยวข้องเพราะว่าเหตุในการจูงใจมีพอสมควรและผู้ตายได้พูดถึงบุคคลเหล่านี้
“โดยความเป็นจริง ผมยื่นพยานที่เป็นวัตถุ นายชิปปิ้งหมูจะต้องมายืนยันศาลว่าทั้งหมดที่พูดไปไม่มีการบีบบังคับ แต่ชิปปิ้งหมูไม่มีโอกาสยืนยันในศาล อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งว่าทำไมชิปปิ้งหมูต้องตาย ผมคิดว่า นักการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งให้ชิปปิ้งหมูไปจ่ายสินบนให้กับทางศุลกากรและการที่ชิปปิ้งหมูออกมาเปิดโปงจะมีผลกระทบต่อนักการเมืองคนนั้นและโยงใยถึงภรรยาของนักการเมืองใหญ่หลายตำแหน่งด้วย” นายศิริโชคกล่าว
ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ 24 ก.ย. 2549--จบ--