การสนับสนุนจากภาครัฐกับอันดับเครดิตของรัฐวิสาหกิจ

ข่าวการเมือง Monday December 13, 2010 16:09 —ทริส เรตติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สถาบันจัดอันดับเครดิตของไทย เผยแพร่บทความเกี่ยวกับการจัดอันดับเครดิตรัฐวิสาหกิจ

โดยระบุว่า แม้ว่ารัฐบาลของประเทศต่าง ๆ จะมีแนวโน้มส่งเสริมให้รัฐวิสาหกิจมีการบริหารงานที่เป็นอิสระและเผชิญกับความ

เสี่ยงทางการตลาดอย่างเสรียิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐวิสาหกิจและลดการพึ่งพารัฐบาลและงบประมาณของประเทศลง

อย่างไรก็ตาม ในการจัดอันดับเครดิตให้แก่รัฐวิสาหกิจนั้น ระดับของการสนับสนุนจากรัฐบาลที่มีต่อรัฐวิสาหกิจก็ยังคงเป็นปัจจัย

สำคัญในการให้อันดับเครดิตแก่รัฐวิสาหกิจ

โดยทริสเรทติ้งกล่าวว่า ในปัจจุบันรัฐวิสาหกิจ (หรือที่สถาบันจัดอันดับเครดิตเรียกรวมกันว่าเป็นหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องกับภาครัฐ Government Related Entities หรือ GRE) มักจะได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับสูงกว่าระดับที่องค์กร อาจจะได้รับในกรณีที่พิจารณาจากความสามารถในการชำระหนี้ขององค์กรเองเป็นการเฉพาะ (Stand-alone Rating) “และ เมื่อนำระดับการสนับสนุนจากภาครัฐในช่วงที่ GRE เกิดวิกฤติมาพิจารณาประกอบด้วยแล้วก็อาจทำให้อันดับเครดิตของ GRE ที่ ประกาศต่อสาธารณะปรับขึ้นได้มากถึง 12 อันดับจากอันดับเครดิตขององค์กรเอง เช่น จาก “B” เป็น “AA”…..” ทริสเรทติ้ งกล่าวถึงข้อความตามที่ระบุไว้ในบทความที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับเครดิตสากล Standard and Poor’s เมื่อปี 2552

ทริสเรทติ้งกล่าวอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่สถาบันจัดอันดับเครดิตพิจารณาเพื่อจัดอันดับเครดิต GRE อาจแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 การพิจารณาปัจจัยเพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของ GRE นั้น ๆ โดยลำพัง โดยยังไม่นับรวม การสนับสนุนจากรัฐบาลในช่วงคับขัน ซึ่งปัจจัยที่พิจารณาในขั้นตอนนี้ประกอบด้วย การพิจารณาความเสี่ยงเชิงธุรกิจ ความสามารถ ในการแข่งขันขององค์กร ความสามารถของคณะผู้บริหาร และความแข็งแกร่งทางการเงิน กลุ่มที่ 2 การพิจารณาปัจจัยที่กำหนด ความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาล ซึ่งสถาบันจัดอันดับเครดิตสากลอาจใช้อันดับเครดิตประเทศ (Sovereign Credit Rating) ประกอบการพิจารณาก็ได้ กลุ่มสุดท้าย ได้แก่ การประเมินระดับความเต็มใจของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือ GRE ในช่วงที่เกิดวิกฤตการเงิน

ความช่วยเหลือที่รัฐบาลสามารถให้แก่ GRE ในช่วงวิกฤตอาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การรับประกันการชำระหนี้ ของ GRE การจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระหนี้ให้ หรือการปล่อยเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำให้แก่ GRE เป็นต้น การสนับสนุนดังกล่าว นี้เป็นการสนับสนุนในกรณีพิเศษที่นอกเหนือจากการสนับสนุนเป็นการทั่วไปที่รัฐบาลให้แก่ GRE อยู่แล้ว การสนับสนุนจากรัฐบาลใน กรณีพิเศษดังกล่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถาบันจัดอันดับเครดิตพิจารณาว่าจะทำให้ความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ของ GRE ลด ลง และทำให้อันดับเครดิตของ GRE ปรับเพิ่มขึ้น ปัจจัยที่สะท้อนระดับการสนับสนุนจากรัฐบาลต่อ GRE ใดใดอาจพิจารณาได้จาก สัดส่วนการถือหุ้นของรัฐบาลใน GRE นั้น ๆ หรือความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของ GRE ต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ตลอดจน บทบาทของ GRE ในภาคการส่งออก การพลังงาน หรือมีการจ้างงานจำนวนมาก รวมทั้งอาจมีการระบุในกฎหมายเกี่ยวกับการ สนับสนุนที่ GRE นั้น ๆ จะได้รับจากรัฐบาล เป็นต้น

อันดับเครดิตสุดท้ายที่ GRE ได้รับ (Final Rating) จะพิจารณาจากปัจจัยทั้ง 3 กลุ่มร่วมกันเพื่อกำหนดอันดับ เครดิต ซึ่งจะอยู่ในระหว่างอันดับเครดิตของ GRE ที่อาจจะได้รับในกรณีไม่มีการสนับสนุนจากภาครัฐและสูงสุดไม่เกินอันดับเครดิต ของรัฐบาล

จากข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่า ในกรณีที่ระดับการสนับสนุนจากรัฐบาลลดลง อันดับเครดิต ของ GRE ที่ประกาศต่อสาธารณะก็อาจจะลดลงด้วยในระยะสั้นจากปัจจัยการสนับสนุนที่หายไป แม้ว่าในระยะยาวการลดการแทรก แซงจากรัฐบาลอาจก่อให้เกิดผลดีต่อ GRE นั้น ๆ การลดระดับของการสนับสนุนจากรัฐบาลอาจเนื่องมาจากหลายสาเหตุ เช่น การลดสัดส่วนการถือหุ้นโดยรัฐบาลลง การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาล ประเด็นด้านการเมือง รวมทั้งความสามารถของ รัฐบาลในการสนับสนุนที่อาจลดลงจากวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศ เป็นต้น

ทริสเรทติ้งกล่าวถึงตัวอย่างของผลกระทบจากการลดระดับการสนับสนุนจากรัฐบาลที่ทำให้อันดับเครดิตของ GRE ถูก ปรับลดลงในทันที หรือที่เรียกกันว่า “การตกหน้าผาของอันดับเครดิต” หรือ Credit Cliff ได้แก่กรณีของรัฐดูไบในปี 2552 เมื่อ Standard and Poor’s ลดอันดับเครดิต GRE ของรัฐดูไบลงจากระดับการสนับสนุนที่ลดลง ตัวอย่าง GRE ของรัฐดูไบที่ ถูกลดอันดับเครดิตลง เช่น DIFC Investment LLC. (จาก “A/Negative” เป็น “BBB-/Watch Negative”) Dubai Holding Commercial Operations Group (จาก “A/Watch Negative” เป็น “BBB+/Watch Negative”) และ DP World Ltd. (จาก “BBB+/Negative” เป็น “BBB-/Watch Negative”) เป็นต้น

ปัจจุบันทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตให้แก่รัฐวิสาหกิจไทย 4 แห่ง ได้แก่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (AA/Stable) บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (AAA/Stable) บรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย (A+/Stable) และ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (A/Stable) -- จบ

? บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2553  ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บ
ไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต  ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่เพียงบางส่วน และไม่ว่า
ในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับอนุญาต การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอ
แนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือ
ของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะ
อื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิ
ได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควร
ประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิต
นี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ
หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่
ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการ
กระทำใดๆ โดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน
Website: http://www.trisrating.com/th/rating_information/rating_criteria.html

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ