ข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบ และการรับมอบข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2548

ข่าวกฏหมายและประกาศ Friday April 22, 2005 15:03 —ข้อบังคับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า

ข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบ และการรับมอบข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2548 ******************************** โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบ และการรับมอบข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นใหม่ให้เหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 78 (2) แห่งพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 ประกอบกับข้อ 22 ของข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับประเภท คุณสมบัติ สิทธิและหน้าที่ การลงโทษ และการพ้นจากการเป็นสมาชิกสำนักหักบัญชี พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2547 อันเป็นพระราชบัญญัติ และข้อบังคับที่มีบทบัญญัติและข้อกำหนดบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าจึงออกข้อบังคับไว้ดังต่อไปนี้ ข้อ 1. ข้อบังคับนี้เรียกว่า "ข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบและการรับมอบ ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2548" ข้อ 2. ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศเป็นต้นไป และให้ใช้บังคับกับข้อตกลงที่ครบกำหนดส่งมอบตั้งแต่เดือนเมษายน 2548 เป็นต้นไป ข้อ 3. ให้ยกเลิก (1) ข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบและการรับมอบ ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2547 (2) ข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบและการรับมอบ ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2547 (3) ข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบและการรับมอบ ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ข้อ 4. บรรดาระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง ข้อกำหนด มติ และหนังสือ เวียนใด ๆ ที่ใช้บังคับโดยอาศัยอำนาจตามข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบและการรับมอบข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ข้อบังคับฉบับนี้มีผลใช้บังคับ ให้มีผลใช้บังคับอยู่ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับฉบับนี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะได้มีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ข้อ 5. ในข้อบังคับนี้ "กฎข้อบังคับ" หมายความว่า ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง ข้อกำหนด มติ และหนังสือเวียน ที่ออกโดยคณะกรรมการตลาดหรือตลาด "ข้อตกลง" หมายความว่า ข้อตกลงซื้อขายล่วงหน้า ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ "คณะกรรมการตลาด" หมายความว่า คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า "คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน" หมายความว่า คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานที่คณะกรรมการตลาดหรือตลาดแต่งตั้งขึ้นแล้วแต่กรณี เพื่อให้มีอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อบังคับนี้ "เช็คธนาคาร" หมายความว่า เช็คที่ออกและสั่งจ่ายโดยธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย "ฐานะการถือครอง" (Open Position) หมายความว่า ภาระผูกพันอันเนื่อง มาจากการซื้อขายล่วงหน้าตามข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ "เดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ" หมายความว่า เดือนที่ข้อตกลงหนึ่งๆ ที่เกี่ยวข้องครบกำหนดส่งมอบ "ตลาด" หมายความว่า ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย "ตั๋วแลกเงินธนาคาร" หมายความว่า ตั๋วแลกเงินที่ออกและสั่งจ่ายโดยธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย "ประกาศกระทรวงพาณิชย์" หมายความว่า ประกาศของกระทรวงพาณิชย์เรื่อง มาตรฐานสินค้าข้าว พ.ศ. 2540 ซึ่งประกาศเมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2540 และให้หมายความรวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศดังกล่าวจนถึงวันที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับ "ผู้ขาย" หมายความว่า ผู้ที่มีฐานะเป็นผู้ขายตามข้อตกลง (Short Position) "ผู้ซื้อ" หมายความว่า ผู้ที่มีฐานะเป็นผู้ซื้อตามข้อตกลง (Long Position) "มูลค่าอ้างอิง" หมายความว่า มูลค่าสินค้าเกษตรตามข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ที่ใช้อ้างอิงเพื่อประกอบการพิจารณากำหนดอัตราเงินประกัน "ราคายุติ" หมายความว่า ราคาที่ตลาดกำหนดในแต่ละวันเพื่อใช้ในการปรับฐานะบัญชีเงินประกัน "ล้างฐานะการถือครอง" (Offset Position) หมายความว่า ทำให้ภาระหรือสิทธิตามข้อตกลงที่มีอยู่เดิมหมดไป โดยการทำข้อตกลงขึ้นใหม่ที่มีผลในทางตรงกันข้าม "ลูกค้า" หมายความว่า ผู้ขาย ผู้ซื้อ หรือผู้ที่ใช้บริการเกี่ยวกับการหักบัญชีกับสมาชิกสำนักหักบัญชี "วันกำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ" (Intention Day) หมายความว่า วันที่กำหนดในข้อบังคับนี้ ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อต้องแจ้งความประสงค์ที่จะส่งมอบหรือรับมอบสินค้า "วันซื้อขายสุดท้าย" (Last Trading Day) หมายความว่า วันทำการที่ห้า (5) ของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบของข้อตกลงหนึ่งๆ "สถานะคงค้าง" หมายความว่า ฐานะการถือครองของสมาชิกสำนักหักบัญชีเพื่อผู้ขายหรือผู้ซื้อที่ไม่ได้ยุติฐานะการถือครองภายในวันซื้อขายสุดท้าย "สมาชิกสำนักหักบัญชี" (Clearing Member) หมายความว่า สมาชิกตลาดที่เป็นสมาชิกสำนักหักบัญชีประเภทสามัญหรือประเภทวิสามัญ และสมาชิกสำนักหักบัญชีประเภทสมทบ ตามกฎข้อบังคับที่เกี่ยวกับประเภท คุณสมบัติ สิทธิและหน้าที่ การลงโทษ และการพ้นจากการเป็นสมาชิกสำนักหักบัญชี "สมาชิกตลาด" หมายความว่า สมาชิกของตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย "สมาชิกผู้ขาย" (Selling Member) หมายความว่า สมาชิกสำนักหักบัญชีที่ใช้บริการเกี่ยวกับการหักบัญชีกับสำนักหักบัญชี และมีฐานะการถือครองข้อตกลงเพื่อผู้ขาย "สมาชิกผู้ซื้อ" (Buying Member) หมายความว่า สมาชิกสำนักหักบัญชีที่ใช้บริการเกี่ยวกับการหักบัญชีกับสำนักหักบัญชี และมีฐานะการถือครองข้อตกลงเพื่อผู้ซื้อ "สินค้า" หมายความว่า ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ตามกฎข้อบังคับเกี่ยวกับ ข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ "หน่วยการซื้อขาย" หมายความว่า หน่วยการซื้อขายที่กำหนดไว้ในข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าว่าด้วย ข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้าข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ "หน่วยการส่งมอบ" หมายความว่า หน่วยที่ใช้ในการส่งมอบ โดยหนึ่งหน่วยการส่งมอบมีจำนวนเท่ากับหนึ่งหน่วยการซื้อขาย หรือเท่ากับจำนวนสินค้า 15 เมตริกตัน "หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ" (Delivery Deposit) หมายความว่า เงินสด หรือหลักประกันอื่นที่ตลาดกำหนด ซึ่งสมาชิกสำนักหักบัญชีต้องวางไว้กับสำนักหักบัญชี เพื่อเป็นประกันการส่งมอบหรือการรับมอบสินค้าตามข้อบังคับนี้ ข้อ 6. สินค้าที่ส่งมอบ-รับมอบ สินค้าที่ส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ได้แก่ ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ มีคุณภาพตามที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงพาณิชย์ โดยอยู่ในสภาพดีและมีกลิ่นปกติเป็นที่ยอมรับทั่วไปในการค้าข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ห้ามมิให้แยกการส่งมอบสินค้าแต่ละหน่วยการส่งมอบ ณ จุดส่งมอบสินค้าเกินกว่าหนึ่งแห่ง เว้นแต่สำนักหักบัญชีจะอนุญาตเป็นอย่างอื่นตามที่เห็นสมควร ข้อ 7. เงื่อนไขการส่งมอบ-รับมอบ (1) การส่งมอบสินค้าให้เป็นไปตามเงื่อนไข ณ คลังสินค้าที่ตลาดรับรอง โดยยึดถือใบรับของคลังสินค้าที่ออกโดยคลังสินค้านั้น เป็นหลักฐานของการส่งมอบสินค้าตามข้อบังคับนี้ เว้นแต่ผู้ขายและผู้ซื้อจะตกลงให้มีการส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่นตามที่กำหนดไว้ในข้อ 14 (2) การส่งมอบสินค้า ผู้ขายจะต้องส่งมอบ ณ คลังสินค้าที่ตลาดรับรองโดยวิธีใดวิธีหนึ่ง ดังนี้ (ก) การส่งมอบสินค้าแบบเทกอง หรือ (ข) การส่งมอบสินค้าโดยบรรจุในกระสอบป่านใหม่ (3) ในกรณีที่ผู้ขายเลือกวิธีการส่งมอบสินค้าเป็นแบบบรรจุในกระสอบป่านใหม่ ผู้ขายจะต้องบรรจุสินค้าในกระสอบป่านใหม่เท่านั้น โดยมีน้ำหนักสุทธิกระสอบละ 100 กิโลกรัม และผู้ซื้อที่ถูกจับคู่จะต้องรับมอบสินค้าโดยต้องชำระค่ากระสอบป่านในราคา 38 บาทต่อใบ หรือราคาอื่นที่ตลาดจะประกาศกำหนด ข้อ 8. จุดส่งมอบ กำหนดจุดส่งมอบ ณ คลังสินค้าซึ่งตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครที่ตลาดรับรอง กรณีจุดส่งมอบ ณ คลังสินค้านอกเขตกรุงเทพมหานครที่ตลาดรับรอง ให้ค่าใช้จ่ายในการส่งมอบอาจมีส่วนเพิ่มหรือส่วนลดตามที่ตลาดกำหนด ข้อ 9. การแจ้งเตือนฐานะการถือครอง (1) ณ วันทำการที่สิบห้า (15) ก่อนวันทำการแรกของเดือนที่ครบกำหนด ส่งมอบ ตลาดจะแจ้งเตือนไปยังสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อเกี่ยวกับฐานะการถือครองที่จะเข้าสู่เดือนที่ครบกำหนดส่งมอบของสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อรายนั้นๆ ที่มีอยู่ในขณะนั้น และในทันทีที่ได้รับแจ้งเตือน ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแจ้งให้ลูกค้าของตนที่มีฐานะการถือครองทราบถึงภาระหน้าที่ ความเสี่ยง ตลอดจนขั้นตอนในการส่งมอบ-รับมอบสินค้า หากลูกค้ารายดังกล่าวยังดำรงสถานะคงค้างจนถึงกำหนดส่งมอบ-รับมอบ (2) ตั้งแต่วันทำการที่ห้า (5) ก่อนวันทำการแรกของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบจนถึงวันซื้อขายสุดท้าย สำนักหักบัญชีสามารถขอข้อมูล แผนกำหนดการส่งมอบ-รับมอบสินค้าจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ รวมทั้งเอกสารและหลักฐานอื่นใด เพื่อยืนยันความสามารถในการส่งมอบสินค้าของผู้ขาย หรือในการชำระราคาสินค้าของผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี ในกรณีที่สำนักหักบัญชีเชื่อได้ว่า ผู้ขายหรือผู้ซื้อนั้นจะไม่สามารถส่งมอบหรือรับมอบสินค้า หรือไม่สามารถชำระราคาสินค้าได้ถูกต้องครบถ้วน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อการซื้อขายล่วงหน้า หรือการส่งมอบ-รับมอบสินค้าได้ ให้ตลาดสั่งให้สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อที่มีฐานะถือครองข้อตกลงดังกล่าวทำการล้างฐานะการถือครองของผู้ขายหรือผู้ซื้อนั้นบางส่วนหรือทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในเวลา 12.00 น. ของ วันทำการก่อนวันซื้อขายสุดท้าย หากสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อไม่ได้กระทำการดังกล่าวให้เสร็จสิ้นภายในเวลาที่กำหนด ให้ตลาดมีอำนาจล้างฐานะการถือครองของผู้ขายหรือผู้ซื้อรายนั้นบางส่วนหรือทั้งหมด เฉพาะข้อตกลงที่จะเข้าสู่เดือนที่ครบกำหนดส่งมอบนั้นได้ ข้อ 10. การวางเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ณ วันทำการที่ห้า (5) ก่อนวันทำการแรกของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ จะเป็นวันที่เริ่มใช้บังคับอัตราเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ สำหรับฐานะการถือครองที่ครบกำหนดส่งมอบ ตามจำนวนและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎข้อบังคับ ที่เกี่ยวข้องกับการวางเงินประกัน ข้อ 11. การวางหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ ณ สิ้นวันซื้อขายสุดท้ายของข้อตกลงใดๆ จะเป็นวันและเวลาที่เริ่มใช้บังคับให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อที่มีฐานะการถือครองที่จะเข้าสู่เดือนที่ครบกำหนดส่งมอบตามข้อตกลงนั้นๆ วางหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ โดยในวันดังกล่าวให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อโอนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบที่ได้สิ้นสุดลงมาวางเป็นหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ ทั้งนี้ การวาง การรักษา การบริหาร และการใช้หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการตลาดกำหนด หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบดังกล่าวตามวรรคหนึ่งให้มีจำนวนเท่ากับร้อยละ 25 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด โดยตลาดจะประกาศให้ทราบล่วงหน้าเป็นจำนวนเงินบาท หากปรากฏว่าจำนวนเงินตามวรรคหนึ่งมีไม่เพียงพอตามมูลค่าของหลัก ประกันการส่งมอบ-รับมอบที่ตลาดประกาศกำหนด ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อดำเนินการวางหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบเป็นเงินสดเพิ่มเติมจนเต็มมูลค่าที่ขาดจำนวนไปตามวิธีการและภายในเวลาที่ตลาดกำหนด ในกรณีที่คณะกรรมการตลาดได้ประกาศเปลี่ยนแปลงจำนวนมูลค่าหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบตามวรรคสองแล้วปรากฏว่าจำนวนเงินตามวรรคหนึ่งมีไม่เพียงพอกับจำนวนมูลค่าของหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบที่ประกาศกำหนด ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อดำเนินการวางหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบเป็นเงินสดหรือหลักประกันอื่นเพิ่มเติมจนเต็มมูลค่าที่ขาดจำนวนไปตามวิธีการและภายในเวลาที่ตลาดกำหนด หากปรากฏว่าสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อไม่ดำเนินการวางหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบเพิ่มเติมตามวรรคสามหรือวรรคสี่ให้ถูกต้องครบถ้วนตามวิธีการและภายในเวลาที่ตลาดกำหนด ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อนั้นเป็นผู้ผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้า ข้อ 12. วันกำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ (1) ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึงเวลา 12.00 น. ของวันทำการถัดจากวันซื้อขายสุดท้าย ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแจ้งความประสงค์ที่จะส่งมอบสินค้า และความประสงค์ที่จะรับมอบสินค้าตามแบบที่ตลาดกำหนดต่อสำนักหักบัญชี (2) หากสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อไม่ยื่นแบบแจ้งความประสงค์จะส่งมอบ-รับมอบภายในกำหนดเวลาตาม (1) หรือยื่นแบบแจ้งความประสงค์ที่มีข้อความ ไม่สมบูรณ์ถูกต้อง ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อได้แจ้งความประสงค์ที่จะส่งมอบหรือรับมอบสินค้าดังกล่าวแล้ว ในกรณีดังกล่าว สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อจะต้องชำระค่าปรับเท่ากับร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องไม่น้อยกว่า 300 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง ข้อ 13. การจับคู่ เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับแบบแจ้งความประสงค์จะส่งมอบ-รับมอบจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแล้ว หรือในกรณีที่ถือได้ว่าสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ ได้แจ้งความประสงค์จะส่งมอบหรือรับมอบสินค้าตามที่ระบุไว้ในข้อ 12 (2) แล้ว สำนักหักบัญชีจะทำการจับคู่ผู้ขายและผู้ซื้อตามวิธีการที่ตลาดกำหนด ทั้งนี้ การจับคู่ดังกล่าวโดยสำนักหักบัญชีให้ถือเป็นที่สุด สำนักหักบัญชีจะแจ้งผลการจับคู่ รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบตามแบบที่ตลาดกำหนด ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อที่ได้รับการจับคู่ทราบภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการที่หนึ่ง (1) หลังจากวันกำหนดให้แจ้งความประสงค์ ส่งมอบ-รับมอบ ทั้งนี้ การแจ้งรายละเอียดดังกล่าว สำนักหักบัญชีจะแจ้งแก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อเป็นการเฉพาะตัว ข้อ 14. การส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่น (Alternative Delivery Procedures) หลังจากที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งผลของการจับคู่ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อทราบแล้ว หากผู้ขายและผู้ซื้อสามารถทำการตกลงกันว่าจะทำการส่งมอบ- รับมอบโดยทางเลือกอื่นตามวิธีใดๆ ที่ได้ตกลงกัน ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรตามแบบที่ตลาดกำหนดให้สำนักหักบัญชีทราบตั้งแต่วันทำการถัดไป หลังจากได้รับแจ้งผลของการจับคู่ แต่ไม่เกินเวลา 12.00 น. ของวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ในกรณีที่ผู้ขายและผู้ซื้อตกลงที่จะทำการส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่นดังกล่าวข้างต้น เงื่อนไขและรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบและรับมอบสินค้า รวมถึง การชำระราคาสินค้า ให้เป็นไปตามที่ผู้ขายและผู้ซื้อได้ตกลงกัน เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่นแล้ว ให้ถือว่าหน้าที่และความรับผิดของสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชีและตลาดเกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อบังคับนี้ เป็นอันสิ้นสุดลง เว้นแต่หน้าที่ของสำนักหักบัญชีในการคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ ข้อ 15. การดำเนินการนำสินค้าเข้าคลังสินค้าโดยผู้ขาย (1) เมื่อสมาชิกผู้ขายได้รับแจ้งผลของการจับคู่จากสำนักหักบัญชีแล้ว ให้สมาชิกผู้ขายดำเนินการให้ผู้ขายส่งมอบสินค้าเข้าคลังสินค้าให้แล้วเสร็จภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ การดำเนินการนำสินค้าเข้าคลังสินค้า ให้ผู้ขายตกลงกับคลังสินค้าเป็นการล่วงหน้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้าตามเวลาที่สมควรเพื่อกำหนดเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ (ก) วันและเวลาที่จะเริ่มนำสินค้าเข้าคลังสินค้า (ข) วิธีการส่งมอบสินค้าตามที่ผู้ขายตกลงกับคลังสินค้า (ค) แผนการนำสินค้าเข้าคลังสินค้า (ง) สิ่งอำนวยความสะดวกที่คลังสินค้าต้องจัดหา (จ) รายการอื่นๆ ตามที่คลังสินค้ากำหนด (2) ในกรณีที่สมาชิกผู้ขายมิได้ดำเนินการให้ผู้ขายนำสินค้าเข้าคลังสินค้าให้เสร็จสิ้นภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ให้ถือว่าเป็นการผิดนัดการส่งมอบสินค้า และให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับการผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อ 25 มาใช้บังคับ ข้อ 16. การตรวจสอบสินค้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้ารับรอง (1) ในการตรวจสอบสินค้าของผู้ขาย ก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้า ให้คลัง สินค้าที่ตลาดรับรองนั้นเป็นผู้กำหนดผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้า ซึ่งผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ตลาดรับรอง ทั้งนี้ ผู้ขายอาจตกลงกับคลังสินค้าให้กำหนดผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าจากบุคคลที่มิได้เป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ตลาดรับรอง ให้เป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าของผู้ขายก็ได้ หลังจากที่ผู้ขายได้นำสินค้ามายังจุดที่คลังสินค้าได้กำหนดไว้เพื่อการตรวจสอบสินค้า ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าจะทำการตรวจสอบน้ำหนักและคุณภาพของสินค้า โดยสมาชิกผู้ขายจะต้องดำเนินการให้ผู้ขายให้ความร่วมมือกับผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเป็นอย่างดีเพื่อให้การตรวจสอบสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรียบร้อย และตรงตามกำหนดเวลาในการนำสินค้าเข้าคลังสินค้า (2) หากผลการตรวจสอบปรากฏว่าคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่บรรจุในกระสอบป่านใหม่ (สำหรับกรณีที่ผู้ขายส่งมอบโดยวิธีบรรจุในกระสอบ) ให้คลังสินค้าปฏิเสธการรับมอบสินค้าทั้งหมด แต่หากปรากฏว่าคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าถูกต้องตามข้อกำหนดแล้ว ให้ ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate of Quality and Weight) ทั้งนี้ ให้ผลการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเป็นที่สุด ข้อ 17. การนำสินค้าเข้าคลังสินค้าโดยคลังสินค้า เมื่อผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าทำการตรวจสอบสินค้าและออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าเรียบร้อยแล้ว ให้คลังสินค้านำสินค้าดังกล่าวเข้าไปเก็บไว้ในคลังสินค้าโดยไม่ชักช้าและออกใบรับของคลังสินค้า โดยใบรับของคลังสินค้าแต่ละฉบับให้มีจำนวนสินค้าเท่ากับหนึ่งหน่วยการซื้อขาย (15 เมตริกตัน) หรือเป็นจำนวนเท่าของหน่วยการซื้อขาย เว้นแต่สำนักหักบัญชีจะได้แจ้งแก่คลังสินค้าเป็นอย่างอื่นภายหลังจากที่ได้ทำการจับคู่แล้ว ทั้งนี้ ให้คลังสินค้าต้องรับผิดชอบต่อสินค้าที่จัดเก็บไว้ในคลังสินค้าตามมาตรฐานและประเพณีปฏิบัติทั่วไปของการค้าข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ และจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อตกลงที่ทำไว้กับตลาดเกี่ยวกับการเป็นคลังสินค้าที่ตลาดรับรอง ข้อ 18. ค่าใช้จ่ายที่ผู้ขายต้องรับผิดชอบต่อคลังสินค้า ผู้ขายต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งมอบสินค้าที่คลังสินค้าเรียกเก็บดังต่อไปนี้ในทุกขั้นตอนที่มีค่าใช้จ่ายนั้นๆ เกิดขึ้นแล้ว และไม่ว่าคลังสินค้าจะยอมรับมอบสินค้าไว้แล้วหรือไม่ก็ตาม (1) ค่าตรวจสอบคุณภาพและน้ำหนักสินค้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้า (2) ค่าชั่งน้ำหนักสินค้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้า (3) ค่าขนสินค้าเข้าจัดเก็บในคลังสินค้าโดยคลังสินค้า (4) ค่าบริการจัดเก็บและดูแลสินค้าเป็นจำนวนเท่ากับกึ่งหนึ่งของค่าจัดเก็บสินค้าสำหรับช่วงการส่งมอบ (5) ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามที่ตลาดกำหนด ข้อ 19. การนำส่งเอกสารเพื่อแสดงการส่งมอบให้แก่สมาชิกผู้ซื้อและสำนักหักบัญชี (1) เมื่อผู้ขายได้ทำการส่งมอบสินค้า ณ คลังสินค้าที่ตลาดรับรองและได้รับใบรับของคลังสินค้าถูกต้องตามข้อ 17 แล้ว สมาชิกผู้ขายจะต้องดำเนินการรวบรวมต้นฉบับเอกสารที่ได้ตรวจสอบว่าถูกต้องดังต่อไปนี้ จากผู้ขายและส่งให้แก่สำนักหักบัญชีพร้อมส่งสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่สาม (3) หลังจากวันที่ปรากฏในใบรับของคลังสินค้าว่าเป็นวันที่นำสินค้าเข้าคลังสินค้าแล้วเสร็จ ยกเว้นกรณีที่ผู้ขายได้นำสินค้าเข้าคลังสินค้าเสร็จสิ้นแล้วก่อนการจับคู่ ให้สมาชิกผู้ขายส่งต้นฉบับเอกสาร ดังกล่าวให้แก่สำนักหักบัญชีพร้อมส่งสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่สาม (3) หลังจากวันที่ได้รับแจ้งผลการจับคู่ (ก) ใบรับของคลังสินค้าซึ่งผู้ขายได้โอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อ (ข) ใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (ค) ใบเรียกเก็บเงิน (Invoice) โดยอย่างน้อยต้องมีรายละเอียดตามที่กำหนดดังนี้ 1) ชื่อและที่อยู่ของผู้ขายและผู้ซื้อ 2) รายการสินค้า 3) จำนวนและราคาสินค้าโดยคำนวณจากราคายุติ ณ วันซื้อขายสุดท้าย ซึ่งได้ปรับส่วนเพิ่ม (Premium) หรือส่วนลด (Discount) (ถ้ามี) ตามที่ตลาดกำหนดสำหรับการส่งมอบสินค้านอกเขตกรุงเทพมหานคร และราคาค่ากระสอบป่านใหม่ (ในกรณีที่ผู้ขายส่งมอบโดยวิธีบรรจุในกระสอบ) 4) ลายมือชื่อผู้ขาย (ง) เอกสารอื่นๆ ตามที่ตลาดกำหนด (2) ในกรณีที่สมาชิกผู้ขายไม่ส่งมอบเอกสารตาม (1) ให้แก่สำนักหักบัญชีและสมาชิกผู้ซื้อภายในเวลาที่ระบุข้างต้น สมาชิกผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราร้อยละ 0.1 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงต่อวัน นับตั้งแต่ วันที่ครบกำหนดให้ส่งมอบเอกสารดังกล่าวจนถึงวันที่สมาชิกผู้ซื้อและสำนักหักบัญชีได้รับเอกสารจากสมาชิกผู้ขาย หากสมาชิกผู้ขายละเลยไม่ส่งมอบเอกสารจนเวลาล่วงเลยไปเกินกว่าเวลาที่สำนักหักบัญชีเห็นสมควร ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายเป็นผู้ผิดนัดส่งมอบสินค้าและต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ 25 (3) (นอกเหนือจากค่าปรับตามที่ระบุข้างต้น) และไม่ว่าในกรณีที่เป็นการส่งมอบเอกสารล่าช้าหรือการผิดนัดส่งมอบสินค้า สมาชิกผู้ขายจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผู้ซื้อ สมาชิกผู้ซื้อ และคลังสินค้า จากการล่าช้าหรือการผิดนัดส่งมอบสินค้าดังกล่าวด้วย (3) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารดังกล่าวตาม (1) แล้วให้สมาชิกผู้ซื้อดำเนินการให้ผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง ให้สมาชิกผู้ซื้อแจ้งต่อสำนักหักบัญชีและสมาชิกผู้ขายทราบถึงรายการที่จะต้องแก้ไขทั้งหมด ภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป ทั้งนี้ หากสำนักหักบัญชีและสมาชิกผู้ขายไม่ได้รับแจ้งภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าสมาชิกผู้ซื้อยอมรับว่าเอกสารนั้นถูกต้อง หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าการร้องขอให้แก้ไขเอกสารโดยสมาชิกผู้ซื้อนั้นไม่เหมาะสม หรือเห็นว่าเอกสารนั้นถูกต้องแล้วโดยไม่คำนึงว่าสมาชิกผู้ซื้อจะได้แจ้งเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็ตาม ให้ถือว่าเอกสารนั้นถูกต้องแล้วและให้ดุลยพินิจของสำนักหักบัญชีเป็นที่สุด ให้สำนักหักบัญชี ออกใบแจ้งหนี้ (Debit Note) ให้แก่ผู้ซื้อโดยผ่านสมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการที่สอง (2) นับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารตาม (1) (4) เมื่อสมาชิกผู้ขายได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อถึงรายการที่ต้องแก้ไข และสำนักหักบัญชีมิได้มีความเห็นเป็นอย่างอื่นตาม (3) ให้สมาชิกผู้ขายดำเนินการให้ผู้ขายทำการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องทั้งหมด และให้สมาชิกผู้ขายนำส่งต้นฉบับเอกสารที่แก้ไขแล้วให้แก่สำนักหักบัญชี พร้อมสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในสอง (2) วันทำการถัดไปนับจากวันที่สมาชิกผู้ขายได้รับแจ้งถึงรายการที่ต้องแก้ไขดังกล่าว (5) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขดังกล่าวตาม (4) ให้สมาชิกผู้ซื้อดำเนินการให้ผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้สมาชิกผู้ซื้อแจ้งต่อสมาชิกผู้ขายและสำนักหักบัญชีทราบภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป หากสำนักหักบัญชีหรือสมาชิกผู้ขายไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่นภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว หรือสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขดังกล่าว (ยังมีต่อ)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ