ทาเคดา เริ่มการทดลองทางคลินิกขั้นที่ 3 ในเอเชียสำหรับ TAK-875 มุ่งรักษาโรคเบาหวาน

ข่าวต่างประเทศ Wednesday August 22, 2012 10:09 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

สิงคโปร์--22 ส.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชีย / อินโฟเควสท์ - เป็นการทดลองทางคลินิกระดับนานาชาติที่ได้รับความร่วมมือจาก 5 ประเทศ/เขตปกครองในเอเชีย และนับเป็นครั้งแรกที่ทาเคดาพัฒนายาในเอเชียไปพร้อมๆกับที่อื่นทั่วโลก - มุ่งหวังผลการทดลองที่แสดงให้เห็นว่า TAK-875 สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแทบไม่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ บริษัท ทาเคดา โกลบอล รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ เซ็นเตอร์ (เอเชีย) จำกัด หรือ TGRD Asia ประกาศเริ่มการทดลองทางคลินิกขั้นที่ 3 สำหรับ TAK-875 ซึ่งอยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 2 ใน 5 ประเทศ/เขตปกครองทั่วภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ เกาหลีใต้ จีนแผ่นดินใหญ่ ไต้หวัน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ สำหรับทาเคดาแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่การทดลองทางคลินิกขั้นที่ 3 ในเอเชีย เริ่มขึ้นพร้อมกับการทดลองในภูมิภาคอื่นทั่วโลก การทดลองทางคลินิกขั้นที่ 3 จะใช้เวลา 24 สัปดาห์ โดยจะมีการให้ TAK-875 ขนาด 25 มิลลิกรัมและ 50 มิลลิกรัมแก่ผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 2 เปรียบเทียบกับการให้ยาหลอก (placebo) และมีแผนจะให้ผู้ป่วยในเอเชียเข้าร่วมการทดลอง 750 คน ทั้งนี้ TAK-875 เป็นยารักษาโรคเบาหวานประเภท 2 ตัวใหม่ที่ทำงานร่วมกับ GPR40 ซึ่งเป็น G-protein-coupled receptor (GPCR) ที่ปรากฏในเซลล์ผลิตอินซูลินในตับอ่อน มีการคาดหวังว่า TAK-875 จะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงร้ายแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตที่มักพบในการใช้ยารักษาโรคเบาหวานทั่วๆไป นอกเหนือจากการทดลองข้างต้นแล้ว อีกหลายประเทศ/เขตปกครองในเอเชียจะมีส่วนในการศึกษาระดับโลกที่มีผู้ป่วยเข้าร่วมกว่า 2,500 คนด้วย โดยประเทศ/เขตปกครองดังกล่าวประกอบด้วยมาเลเซีย ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และฮ่องกง ผลการทดลองทางคลินิกขั้นที่ 2 ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet (หมายเหตุ 1) ระบุว่า ทีมวิจัยจากวิทยาลัยแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกนได้ให้ TAK-875 แก่ผู้ป่วย 303 คนจากทั้งหมด 426 คนซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นโรคเบาหวานและไม่ได้ควบคุมระดับน้ำตาลด้วยยา metformin หรือด้วยการควบคุมอาหาร ส่วนผู้ป่วยที่เหลือได้รับยาหลอก (61 คน) และยารักษาโรคเบาหวานตัวอื่น (ยา glimepiride จำนวน 62 คน) หลังจากนั้น 12 สัปดาห์พบว่าปริมาณน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยที่ได้รับ TAK-875 ลดลงอย่างมากเท่ากับกลุ่มที่ได้รับยา glimepiride แต่อัตราการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยกลุ่มที่ได้รับยา glimepiride พบผู้ป่วยที่เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ 19% แต่ในกลุ่มที่ได้รับ TAK-875 พบเพียง 2% ดร.เจมส์ การ์เนอร์ ผู้จัดการทั่วไปบริษัท TGRD Asia กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่การศึกษา TAK-875 ได้เข้าสู่การทดลองขั้นที่ 3 ในเอเชียแล้ว ขณะเดียวกันข้อมูลในวารสาร Lancet ก็สร้างกำลังใจให้เราได้มาก เราเชื่อว่า TAK-875 จะสามารถเป็นยารักษาโรคเบาหวานประเภท 2 ได้ในอนาคต ทาเคดาให้ความสำคัญกับผู้ป่วยมากที่สุด และเรายังคงมุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาตัวยาใหม่ๆและยกระดับการดูแลสุขภาพสำหรับโรคที่มีความท้าทายอย่างมากเช่นนี้” หมายเหตุ 1. The Lancet, Volume 379, Issue 9824, Pages 1403 - 1411, 14 April 2012 เกี่ยวกับบริษัท ทาเคดา โกลบอล รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ เซ็นเตอร์ (เอเชีย) จำกัด บริษัท ทาเคดา โกลบอล รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ เซ็นเตอร์ (เอเชีย) จำกัด หรือ TGRD Asia ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ อยู่ในเครือบริษัท ทาเคดา ฟาร์มาซูติคอล จำกัด ผู้ผลิตเวชภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น TGRD Asia เกิดจากการรวมตัวจนกลายเป็นองค์กรด้านการพัฒนาระดับโลก ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคในด้านการพัฒนาทางคลินิกที่ไม่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง TGRD Asia พยายามนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและหลากหลายให้แก่ผู้ป่วย ซึ่งรวมถึงการพัฒนายารักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเกี่ยวกับการเผาผลาญ โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและภูมิคุ้มกัน โรคระบบประสาทส่วนกลาง ตลาดจนการรักษาโรคอื่นๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทาเคดาได้ที่ www.takeda.com ติดต่อ Sheo S. Rai บริษัท ทาเคดา โกลบอล รีเสิร์ช แอนด์ ดีเวลลอปเมนท์ เซ็นเตอร์ (เอเชีย) จำกัด โทร: +65-6521-2241 อีเมล: sheo-shanker.rai@takeda.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ