UICC เผยการระดมทุนเพิ่มสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางได้ถึงปีละ 3 ล้านคนภายในปี 2573

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 4, 2015 08:39 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

เจนีวา--4 ก.พ.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์ ข้อมูลใหม่คาดการณ์ว่าการระดมทุนเพิ่มอีกปีละ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก สามารถช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งได้ถึง 30% ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง ภายในปี 2573 เนื่องในวันมะเร็งโลกประจำปี 2558 เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลกจากสมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) ได้ประกาศว่า การระดมทุนเพิ่มเพื่อนำไปลงทุนด้านบริการมะเร็งทั่วโลกนั้น สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้หลายล้านชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง - การระดมทุนเพิ่มจากทั่วโลกอีก 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี สามารถช่วยชีวิตผู้คนได้ถึงปีละ 3 ล้านคนภายในปี 2573 และจะเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่องในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า ผ่านการใช้มาตรการป้องกัน การตรวจโรคตั้งแต่เนิ่นๆ รวมถึงการยกระดับการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง - การระดมทุนเพิ่มยังช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของผู้ป่วยหลายล้านคนที่จะเสียชีวิตจากโรคมะเร็งในช่วงเวลานี้ - การขึ้นภาษียาสูบ 3 เท่าจะช่วยให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นถึง 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี นอกจากนั้นผลสำรวจยังชี้ว่าการขึ้นภาษีจะกระตุ้นให้นักสูบมากถึง 1 ใน 3 เลิกสูบบุหรี่ด้วย “ในแต่ละปีมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งมากกว่า 8 ล้านคน ซึ่งผู้เสียชีวิตกว่า 60% มาจากประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง โดยส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่มีรายได้ปานกลาง” ศาสตราจารย์เทเซอร์ คุตลัค ประธานสมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) กล่าว “จำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งในประเทศกำลังพัฒนามีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องด้วยการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรและสัดส่วนผู้สูงอายุ ดังนั้นเราต้องรับมือเสียตั้งแต่ตอนนี้ ทั้งนี้ การระดมทุน 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นไปได้สำหรับหลายๆประเทศ แต่ก็เป็นไปได้ยากสำหรับกลุ่มประเทศยากจนหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาคมโลก” ข้อมูลสำคัญที่มีการนำเสนอในการประชุมมะเร็งโลก[1] เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งมาจากรายงาน DCP3, Cancer (รายงาน DCP ชุดที่ 3 ฉบับที่ 3 [2]) ได้เรียกร้องให้เหล่าประเทศที่มีรายได้ปานกลางจัดสรรงบสำหรับจัดการกับโรคมะเร็งเพิ่มอีก 2-5% ของงบประมาณด้านสาธารณสุขทั้งหมด และสำหรับประเทศที่มีรายได้ต่ำซึ่งด้อยพัฒนาด้านบริการสุขภาพ อีกทั้งยังขาดแคลนสิ่งอำนวยความสะดวกและผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งที่ผ่านการอบรมตามมาตรฐาน จำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนจากประชาคมโลกเพื่อสร้างศักยภาพในการรับมือกับปัญหา ซึ่งน่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 10 ปี เมื่อปี 2554 องค์การอนามัยโลกได้เสนอแนะแนวทาง "best buys" เพื่อจัดการกับโรคไม่ติดต่อ (NCD) ซึ่งรวมถึงมาตรการป้องกันโรคมะเร็ง ดังนี้ - การเก็บภาษียาสูบ รวมถึงใช้มาตรการกำกับดูแลและควบคุม เพื่อลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับยาสูบ - การให้วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เพื่อป้องกันมะเร็งตับ - มาตรการคัดกรองและรักษารอยโรคก่อนเกิดมะเร็งปากมดลูก ขณะเดียวกันรายงาน DCP3 Cancer ได้เพิ่มขั้นตอนการรักษาโรคและควบคุมความเจ็บปวดขั้นพื้นฐาน ซึ่งรวมกันเป็น "essential package" ดังนี้ - การให้วัคซีน HPV แก่เด็กสาวเพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก - การควบคุมความเจ็บปวดสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะลุกลาม - การรักษาโรคมะเร็งในเด็กเฉพาะกลุ่ม - การวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะเริ่มแรก มาตรการเหล่านี้ครอบคลุมถึงโรคมะเร็งที่มีปัญหามาก (มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งสำไส้ใหญ่) โรคมะเร็งที่มีโอกาสรักษาหายสูง และโรคมะเร็งในเด็ก (เฉพาะกลุ่ม) ซึ่งมาตรการที่กล่าวถึงทั้งหมดนี้มีต้นทุนไม่สูงมากและเหมาะสมสำหรับประเทศที่มีรายได้ปานกลาง (ประเทศรายได้ต่ำสามารถดำเนินการได้ด้วยความช่วยเหลือจากนานาประเทศ) อีกทั้งยังเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ภายในปี 2573 “การป้องกันการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคมะเร็งนั้นไม่ได้เหนือไปกว่าความสามารถของเรา ดังนั้น เราไม่ควรนั่งรอและปล่อยให้ภาระอันหนักหน่วงนี้เพิ่มขึ้นทั่วโลก เนื่องในวันมะเร็งโลกปี 2558 เราขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกเดินหน้าไปด้วยกันในการระดมทุนเพื่อยกระดับการควบคุมโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง” แครี อดัมส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) กล่าว “แนวทางที่เหมาะสมและมีต้นทุนต่ำซึ่งถูกคิดค้นขึ้นเพื่อรับมือกับภัยมะเร็ง เช่น การยกระดับการควบคุมยาสูบ การตรวจโรคและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ตลอดจนการเข้าถึงวัคซีนช่วยชีวิตนั้น หากมีการดำเนินการจริงก็จะสามารถช่วยลดความยากจนที่มีสาเหตุจากโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังช่วยชีวิตผู้คนได้อีกหลายล้านชีวิต” เกี่ยวกับวันมะเร็งโรคและธีมประจำปี 2558 วันมะเร็งโลกตรงกับวันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปี และเป็นงานเดียวที่สมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) รวมถึงสมาชิก พันธมิตร และประชาคมโลก ได้มารวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับโรคมะเร็งที่ระบาดไปทั่วโลก ทั้งนี้ วันมะเร็งโลกประจำปี 2558 ภายใต้ธีม “Not beyond us” จะใช้แนวทางเชิงรุกอย่างสร้างสรรค์ในการต่อสู้กับภัยมะเร็ง เพื่อเน้นย้ำว่าแนวทางในการจัดการกับโรคมะเร็งนั้นเกิดขึ้นได้จริงและไม่เกินความสามารถของเรา สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.worldcancerday.org เกี่ยวกับสมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล (UICC) UICC รวมตัวกับชุมชนมะเร็งเพื่อช่วยกันลดภาระที่เกิดจากโรคมะเร็งทั่วโลก สนับสนุนให้เกิดความเท่าเทียมกัน ตลอดจนผลักดันแผนควบคุมโรคมะเร็งเข้าสู่วาระการพัฒนาและวาระสุขภาพในระดับโลก UICC คือองค์กรต่อสู้กับโรคมะเร็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับองค์กรประเภทเดียวกัน โดยมีองค์กรสมาชิกกว่า 800 แห่งใน 155 ประเทศ และทำหน้าที่เป็นตัวแทนของสมาคมโรคมะเร็งระดับโลกหลายแห่ง กระทรวงสาธารณสุขหลายประเทศ สถาบันวิจัยต่างๆ ศูนย์รักษาผู้ป่วย ตลอดจนกลุ่มผู้ป่วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถรับชมได้ที่ http://www.uicc.org อ้างอิง 1. การประชุมมะเร็งโลก 3-6 ธันวาคม 2557 http://www.worldcancercongress.org/sessions/DCP-reducing-premature-deaths-cancer 2. DCP3: Disease Control Priorities, Third Edition, Volume 6 Cancer. Chapter 1: Summary and Recommendations http://www.dcp-3.org/volume/cancer/chapter/1/overview-and-burden สื่อมวลชนติดต่อ ลีอาห์ เพย์ตัน อีเมล: lpeyton@reddoorunlimited.com โทร. +44-208-392-8041 / +44-778-819-1434 ปีเตอร์ ดันแลน อีเมล: pdonelan@reddoorunlimited.com โทร: +44-208-392-8057 แหล่งข่าว: สมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งสากล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ