Signature Group Holdings ปิดการซื้อธุรกิจ GRSA ขึ้นแท่นผู้นำระดับโลกในตลาดรีไซเคิลอลูมิเนียม

ข่าวต่างประเทศ Monday March 2, 2015 15:36 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

เชอร์แมน โอ๊คส์, แคลิฟอร์เนีย--2 มี.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/ อินโฟเควสท์ - ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการที่บริษัทดำเนินมาตลอดสองปี เพื่อเพิ่มมูลค่าตามราคาตลาดเป็นสามเท่า - สัญญาประกอบด้วย Innovative Stapled Rights Offering ร่วมด้วยนักลงทุนรายสำคัญ: - * มีการจองซื้อเกินกว่าสิทธิถึง 75% หรือ 42 ล้านดอลลาร์ - * บ่งชี้ถึงความสนใจของตลาดต่อแนวโน้มอลูมิเนียมในอุตสาหกรรมยานยนต์ Signature Group Holdings, Inc. ("Signature" หรือ "บริษัท") (OTCQX: SGRH) ประกาศว่า บริษัทเสร็จสิ้นการซื้อธุรกิจ Global Recycling and Specification Alloys ("GRSA") ของบริษัท Aleris Corporation เป็นมูลค่า 525 ล้านดอลลาร์ โดย Signature จะดำเนินธุรกิจดังกล่าวต่อไปในชื่อ "Real Alloy" Real Alloy จะกลายเป็นผู้รีไซเคิลอลูมิเนียมอิสระ โดยแปลงสภาพเศษและตะกรันอลูมิเนียมให้เป็นอลูมิเนียมคุณภาพสูงสำหรับผู้ใช้งานในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์และอากาศยาน การบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม และการก่อสร้าง ลูกค้าของบริษัทได้แก่ผู้ผลิตยานยนต์ ซัพพลายเออร์ระดับ tier one และ tier two ตลอดจนโรงงานรีดอลูมิเนียมในสหรัฐ แคนาดา เม็กซิโก และยุโรป Real Alloy สามารถประหยัดต้นทุนอันเนื่องมาจากการผลิตในปริมาณมาก โดยบริษัทเป็นผู้นำส่วนแบ่งตลาดรีไซเคิลอลูมิเนียมอิสระในอเมริกาเหนือและยุโรป เครก บูชาร์ด ซีอีโอของ Signature กล่าวว่า "เรายินดีที่การซื้อกิจการครั้งนี้เสร็จสิ้นลงด้วยดี เพราะเรามุ่งหวังที่จะก้าวเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง ด้วยทีมบริหารที่มีประสบการณ์และฐานลูกค้าระดับบลูชิป" พร้อมกล่าวต่อไปว่า "ทีมบริหารชุดนี้ได้สร้างบริษัทอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรม และเรายินดีต้อนรับพนักงาน 1,600 คนจากโรงงาน 24 แห่งในอเมริกาเหนือและยุโรปมาเป็นครอบครัวเดียวกันกับ Signature" เทอร์รี โฮแกน รองประธานอาวุโสของ GRSA ประจำภูมิภาคอเมริกาเหนือ ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานของ Real Alloy โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 ขณะที่รัสเซล บาร์ รองประธานของ GRSA ประจำยุโรป จะดำรงตำแหน่งรองประธานบริหารของ Real Alloy Europe มีผลตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 เช่นเดียวกัน การทำข้อตกลงครั้งนี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสำหรับ Signature ตามกลยุทธ์ของบริษัทที่จะก้าวขึ้นเป็นนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นลงทุนอย่างมั่นคงในภาคอุตสาหกรรมซึ่งประกอบไปด้วยการขนส่ง อาหาร น้ำ และพลังงาน ด้วยข้อตกลงดังกล่าว บริษัทคาดว่ารายได้ต่อปีจะเพิ่มขึ้นจากเกือบ 50 ล้านดอลลาร์ เป็นประมาณ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ด้วยกระแสเงินสดอิสระที่เป็นบวก รายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างสัญญา (Innovative Deal Structure) บริษัทย่อยของ Signature ได้ออกหุ้นกู้ที่มีการซื้อขายในตลาดจำนวน 305 ล้านดอลลาร์ (B2/B3) ร่วมกับการจัดหาวงเงินกู้ยืมระยะสั้น 175 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Signature ได้เพิ่มการถือครองหุ้นใน Real Alloy กว่า 180 ล้านดอลลาร์เพื่อปิดการซื้อและชำระค่าธรรมเนียม ตามที่ Signature ได้เคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าบริษัทได้เพิ่มทุนจากส่วนของผู้ถือหุ้นเพื่อการซื้อกิจการในครั้งนี้ โดย Equity Piece ขั้นสุดท้ายเป็นโครงสร้างแบบ Stapled Rights Offering ทั้งนี้ บริษัทเพิ่มทุนจากการเสนอขายหลักทรัพย์แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้นได้ 55 ล้านดอลลาร์ โดยมีหุ้นที่ถูกจองซื้อและหุ้นที่ถูกจองซื้อเกินกว่าจำนวนที่เสนอขายรวมกว่า 97 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในเรื่องนี้ บูชาร์ดได้แสดงความเห็นว่า "เราดีใจมากที่หุ้นของเรากว่า 80% ถูกจองซื้อในการเสนอขายเบื้องต้น นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังขอจองซื้อเกินกว่าจำนวนที่ตนมีสิทธิถึงกว่า 52 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มีการจองซื้อหุ้นมากกว่าจำนวนหุ้นที่เสนอขายถึง 42 ล้านดอลลาร์ เราขอขอบคุณการสนับสนุนอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุนตลอดช่วงสองปีที่ผ่านมา ดังเห็นได้จากมาร์เก็ตแคปของเราที่โตขึ้นถึงสามเท่า เกี่ยวกับ Signature Group Holdings, Inc. Signature เป็นบริษัทโฮลดิงในอเมริกาเหนือซึ่งนำเงินไปลงทุนในธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการบริหารที่ดีและมีกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับตลาดเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมในสหรัฐ Signature มีทรัพยากรทุนที่สำคัญ และมียอดขาดทุนที่ใช้สิทธิลดภาษีได้มากกว่า 900 ล้านดอลลาร์ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Signature สามารถดูได้จากเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.signaturegroupholdings.com เกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) การเสนอขายหลักทรัพย์แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในครั้งนี้ยังคงเปิดกว้างสำหรับผู้ถือใบสาคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของ Signature ตามสัดส่วนการถือหุ้น และวิธีการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ต้องเป็นไปตามที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนเท่านั้น โดยบริษัทได้ส่งหนังสือชี้ชวนให้แก่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ก่อนหน้านี้แล้ว และวันหมดอายุสำหรับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวยังคงเป็นวันที่ 28 เมษายน 2558 ข่าวเผยแพร่ฉบับนี้ไม่ได้จัดทำขึ้นเพื่อเสนอขายหรือชักชวนให้ซื้อหลักทรัพย์ตามที่ระบุถึงในที่นี้ อีกทั้งจะไม่มีการเสนอ ชักชวน หรือขายหลักทรัพย์ในรัฐหรือเขตอำนาจที่ซึ่งการเสนอ การชักชวน หรือการขายเป็นเรื่องผิดกฏหมาย ก่อนที่หลักทรัพย์จะได้รับการจดทะเบียนหรือผ่านการรับรองตามกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐหรือเขตอำนาจดังกล่าว ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลธุรกิจของรัฐแคลิฟอร์เนียไม่แนะนำหรือให้การรับรองการซื้อหลักทรัพย์เหล่านี้ คำเตือนเกี่ยวกับข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้มีเนื้อหาที่เป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าซึ่งอยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ ประเมิน และประมาณการในปัจจุบันของเราเกี่ยวกับธุรกิจและแนวโน้มของบริษัท Signature และ Real Alloy รวมทั้งความเชื่อของทีมผู้บริหารและสมมติฐานบางประการของฝ่ายบริหาร คำศัพท์ เช่น “คิดว่า” “คาดว่า” “ตั้งใจ” “วางแผน” “เชื่อว่า” “แสวงหา” “ประเมิน” “อาจจะ” “ควรจะ” “จะ” และคำศัพท์ที่มีความหมายคล้ายกันนี้มีความตั้งใจที่จะบ่งชี้ถึงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้า ข้อความดังกล่าวมีผลเฉพาะ ณ วันที่ในที่นี้และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง บริษัทไม่มีภาระผูกพันในการแก้ไขข้อความหรือแจ้งให้สาธารณะทราบเกี่ยวกับการปรับปรุงข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าให้ทันสมัยไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ข้อความคาดการณ์เหล่านี้ประกอบไปด้วย การคาดการณ์เกี่ยวกับการขยายกิจการและกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัท Signature และ Real Alloy; การคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสในการเติบโต; จำนวนเงินทุนที่จำเป็นต้องระดมทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ตลอดจนผลการดำเนินงาน การเติบโต ผลประกอบการ สถานะทางการเงินและแนวโน้มในอนาคต ข้อความคาดการณ์ดังกล่าวไม่ได้รับประกันผลการดำเนินงานในอนาคต และมีความเสี่ยง ความไม่แน่นอนและสมมติฐานที่ยากต่อการคาดการณ์ ดังนั้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงอาจจะแตกต่างไปจากที่ได้คาดการณ์ไว้ในข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าอันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ โดยปัจจัยที่สำคัญที่อาจจะส่งผลให้เกิดความแตกต่าง ได้แก่ ความสามารถของ Signature ในการควบรวม Real Alloy และ/หรือธุรกิจโดยสมบูรณ์; การที่หุ้นของบริษัทได้รับการยอมรับให้เข้าจดทะเบียนใน NASDAQ หรือตลาดอื่นๆ; การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจหรือสภาวะตลาดอื่นๆ; ความยากลำบากในการรักษาการขยายตัวของค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับต่ำ ควบคู่ไปกับการเพิ่มรายได้; ความสามารถของ Signature ในการต่อสู้คดีความปัจจุบันและอนาคต; รวมทั้งข้อเรียกร้องของธนาคารวาณิชธนกิจเรื่องการชดเชยค่าเสียหายหรือค่าปรับ; การได้รับผลประโยชน์ตามที่คาดหวังจากการก่อตั้งบริษัทใหม่; ความสามารถของ Signature ในการเข้าถึงและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการหักผลขาดทุนสะสม; และความเสี่ยงอื่นๆที่มีการแจกแจงรายละเอียดเป็นระยะในเอกสารที่ Signature ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งรวมถึงรายงานประจำปี Form 10-K และรายงาน Forms 10-Q และ 8-K ที่นำส่งในภายหลัง นักลงทุนติดต่อ: Jeff Crusinberry +1-805-435-1255 investor.relations@signaturegroupholdings.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ