ASIANET: ผลวิจัยชี้ยา Diovan มีประสิทธิภาพสูงกว่ายา Amlodipine

ข่าวต่างประเทศ Friday May 18, 2001 14:52 —Asianet Press Release

ซานฟรานซิสโก--17 พ.ค.--พีอาร์นิวสไวร์-เอเชียเน็ท
ผลการวิจัยครั้งใหม่บ่งชี้ว่ายา Diovan (R) (valsartan) ซึ่งเป็นสารยับยั้งประเภท angiotensin II receptor blocker: ARB และมีการเลือกใช้กันอย่างมากนั้น มีประสิทธิภาพสูงกว่ายา amlodipine ซึ่งเป็นยาประเภท calcium channel Blocker (CCB) ในการลดอาการขับสารโปรตีนจำนวนหนึ่งออกมาทางปัสสาวะ (microalbuminuria) ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับโรคไตวายและโรคหัวใจในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานประเภท 2 โดยการรักษาด้วยยา Diovan ให้ประโยชน์อย่างมาก แม้มีการลดลงต่างกันของแรงดันโลหิตในกลุ่มผู้เข้ารับการบำบัดด้วยยาดังกล่าวโดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มก็ตาม
ทั้งนี้ ได้มีการเปิดเผยผลการทดลอง MicroAlbuminuria Reduction ด้วยการทดลองใช้ยา VALsartan (MARVAL) วันนี้ในการประชุมวิทยาศาสตร์ประจำปีครั้งที่ 16 ของ American Society of Hypertension (ASH) ที่เมืองซาน ฟรานซิสโก และได้บ่งชี้ถึงหลักฐานเกี่ยวกับประโยชน์ในเชิงป้องกันอื่นๆของยา Diovan นอกเหนือไปจากการลดแรงดันโลหิต
์ Nigel M. Wheeldon แพทย์และผู้ตรวจสอบการวิจัย MARVAL Study Group and Consultant Cardiologist แห่งศูนย์ South Yorkshire Cardiothoracic Center ในอังกฤษ เปิดเผยว่าการทดลอง MARVAL บ่งชี้ว่ายา valsartan มีประสิทธิภาพแตกต่างจากยา amlodipine ในการลดอาการ microalbuminuria ลงอย่างมากและให้ผลนอกเหนือจากแรงดันโลหิตที่ลดลง และการวิจัยยังบ่งชี้ว่ายา valsartan ยังช่วยเพิ่มการป้องกันการเกิดโรคไตด้วย เนื่องจากจะป้องกันโดยตรง หรือชะลอการเพิ่มขึ้นของอาการ microalbuminuria"
อาการ microalbuminuria เป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นเร็วที่สุดของผู้ป่วยโรคไต (nephropathy) และเกิดขึ้นเมื่อไตเริ่มวายและขับโปรตีนจำนวนหนึ่งออกมาทางปัสสาวะ หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษา อาการ microalbuminuria อาจจะลุกลามไปสู่อาการของโรคไตวายขั้นสุดท้าย (ESRD) โดยผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 2 ประมาณ 40 % จะมีอาการเข้าขั้น ESRD สำหรับความดันโลหิตสูงนั้นก่อให้เกิดอาการ microalbuminuria และอาการไตวายตามมา และเป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นมากที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของ ESRD โดยผู้ป่วยโรคเบาหวานประมาณ 60-65 % มีความดันโลหิตสูง
การทดลอง MARVAL เป็นการวิจัยแบบควบคุมและสุ่มตัวอย่างผู้ป่วย 332 รายที่เป็นโรคเบาหวานประเภท 2 และมีอาการ microalbuminuria โดยมีความดันโลหิตปกติหรือความดันโลหิตสูง ซึ่งผู้ป่วยเหล่านั้นมีอายุระหว่าง 35-75 ปี โดยการวิจัยดังกล่าวประเมินผลที่เป็นอิสระของความดันโลหิตจากการใช้ยา Diovan เมื่อเทียบกับยา amlodipine ที่มีต่ออัตรา urinary albumin excretion rates (UAER) ซึ่งเป็นการวัดอาการ microalbuminuria โดยการทดลองใช้ยา Diovan บ่งชี้ถึงประโยชน์ที่สำคัญมากกว่าการใช้ยา amlodipine ในการลดอัตรา UAER (-29.6 % เมื่อเทียบกับ +17.2 % ตามลำดับ; p<0.001) นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่รักษาด้วยยา Diovan และมีสารโปรตีน (albumin) ในปัสสาวะลดลงสู่ระดับปกติหลัง 24 สัปดาห์นั้น มีจำนวนมากกว่าผู้ป่วยที่รักษาด้วยยา amlodipine (+29.9 % เมื่อเทียบกับ +14.5 % ตามลำดับ; p=0.001)
ผลการวิจัยอีกฉบับหนึ่งที่มีการเปิดเผยในการประชุม ASH บ่งชี้ว่า ผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงมีแนวโน้มที่จะยอมรับการบำบัดรักษาด้วยยา Diovan มากกว่าการรักษาด้วยยา amlodipine หรือยา lisinopril ซึ่งเป็นสารยับยั้ง ACE โดยผลการวิจัยย้อนหลังในผู้ป่วยความดันโลหิตสูงจำนวน 142,945 รายซึ่งเข้ารับการรักษาใน US Merck-Medco pharmacy ระบุถึงฐานข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ผู้ป่วยที่รักษาด้วยยา Diovan มีอัตราการยอมรับอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 12 เดือน เมื่อเทียบกับ ผู้ป่วยที่รักษาด้วยยา amlodipine และยา lisinopril (76 % เมื่อเทียบกับ 67 % เมื่อเทียบกับ 65 % ตามลำดับ; p<0.0001)
Malcolm McNab นายแพทย์และรองประธานศูนย์วิจัย Cardiovascular Clinical Research ของบริษัท Novartis Pharmaceuticals Corporation เปิดเผยว่า "การยอมรับการรักษานับเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรัง อาทิ ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน การรักษาด้วยยา Diovan เป็นการรักษาในเชิงปฏิบัติเพื่อให้มีการยอมรับมากขึ้นโดยการลดความดันโลหิตลงและให้ผลในเชิงป้องกัน" ยา Diovan เป็นยาที่มีการเลือกใช้ในระดับสูงสำหรับการบำบัดรักษาอาการความดันโลหิตสูงและเป็น ARB เพียงตัวเดียวที่ให้ประโยชน์ในการทดลองกับผู้ป่วยโรคหัวใจวายด้วย โดยผู้ป่วยประมาณ 3 ล้านคนทั่วโลกใช้ยา Diovan ในการลดความดันโลหิตสูง และ การใช้ยา Diovan ซึ่งได้รับการอนุมัติในกว่า 80 ประเทศนั้น มีการขยายตัวรวดเร็วที่สุดในหลายตลาดรวมทั้งสหรัฐด้วย โดยยา Diovan ขยายตัว 55 % และมียอดขายถึง 1.2 พันล้านฟรังก์สวิสในปี 2000
บริษัท Novartis กำลังดำเนินการจัดโครงการทดลอง ARB แบบต่อเนื่องครั้งใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อสำรวจความเป็นไปได้อื่นๆในการใช้ยา Diovan เพื่อรักษาอาการอื่นๆ นอกเหนือไปจากความดันโลหิตสูง
นอกจากการทดลอง Val-HeFT เกี่ยวกับโรคหัวใจวายซึ่งมีการรายงานผลเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมานั้น ยังมีการทดลองอื่นๆได้แก่ VALIANT (การใช้ยา Diovan เมื่อเทียบกับ ยา captopril และเมื่อเทียบกับการใช้ร่วมกันในผู้ป่วยหลังการฝ่าตัดกล้ามเนื้อหัวใจจำนวน 14,500 ราย) และการทดลอง VALUE (การใช้ยา Diovan เมื่อเทียบกับ ยา amlodipine ในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงและมีความดันโลหิตสูงจำนวน 15,000 ราย) และยา Diovan ยังเป็นเวชภัณฑ์เบื้องต้นในการทดลองประเมินการรักษาความดันโลหิตในผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคเบาหวานประเภท 2 (ABCD-2V) ด้วย
ข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้มีข้อความที่คาดการณ์ถึงอนาคตของธุรกิจของบริษัท ซึ่งสามารถระบุได้โดยสังเกตจากการใช้ศัพท์คำว่า "shows", "benefits", "suggest", "improving", "the only" หรือคำที่มีความหมายคล้ายคลึงกัน ข้อความดังกล่าวเกี่ยวข้องกับปัจจัยเสี่ยงทั้งที่ปรากฏแล้วและยังไม่ปรากฏ, ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่นๆที่อาจส่งผลให้เกิดความแตกต่างระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นจริงกับผลประกอบการ, ความสำเร็จ หรือสิ่งอื่นๆที่ระบุไว้ในข้อความคาดการณ์ดังกล่าว บริษัทไม่สามารถรับรองได้ว่าการทดลองที่ระบุไว้จะส่งผลให้มีการผลิตสินค้าเพื่อการพาณิชย์ออกสู่ตลาด การผลิตสินค้าเพื่อการพาณิชย์อาจได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์, มาตรการทางกฎหมายและความล่าช้าทางกฎหมายรวมทั้งกฎระเบียบของรัฐบาล, ความสามารถในการยื่นขอสิทธิบัตรหรือรักษาสิทธิบัตรหรือการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาด้านอื่นๆ และการแข่งขันโดยทั่วไป
ปัจจัยเหล่านี้และปัจจัยอื่นๆอาจส่งผลให้สิ่งที่เกิดขึ้นจริงมีความแตกต่างอย่างมากจากสิ่งที่คาดการณ์ไว้
บริษัท Novartis เป็นผู้นำโลกในด้านการรักษาสุขภาพโดยดำเนินธุรกิจหลักในด้านเวชภัณฑ์, การดูแลสุขภาพผู้บริโภค, ยาทั่วไป, การดูแลรักษาดวงตา และการดูแลสุขภาพสัตว์
ธุรกิจของบริษัททำยอดขายได้ถึง 2.91 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (1.72 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปี 2000 และลงทุนราว 4.0 พันล้านฟรังก์สวิส (2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในด้านการวิจัยและพัฒนา บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในเมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีพนักงานราว 67,600 คน และมีกิจการอยู่ใน 140 ประเทศทั่วโลก
ผู้ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อเว็บไซท์ http://www.novartis.com
หมายเหตุ: ขณะหัวใจหดตัวความดันโลหิตได้ลดลง 11.2 mm/Hg ในผู้ป่วยที่ใช้ยา Diovan และลดลง 11.6 mm/Hg ในผู้ป่วยที่ใช้ยา amlodipine ส่วนขณะหัวใจคลายตัวความดันโลหิตลดลง 6.6 mm/Hg ในผู้ป่วยที่ใช้ยา Diovan เมื่อเทียบกับการลดลง 6.5 mm/Hg ในผู้ป่วยที่ใช้ยา amlodipine
เอกสารอ้างอิง:
1. Wheeldon N et al.
MicroAlbuminuria Reduction with VALsartan.
แสดงบทคัดย่อในที่ประชุม ASH วันที่ 15-19 พ.ค.2544
2. National Kidney Foundation.
Ten Facts About Diabetes and Kidney Disease.
Fact Sheet 1998.
(via www.kidney.org)
3. National Kidney Foundation.
What You Should Know About High Blood Pressure and Your Kidneys.
Facts Sheet 1998.
(via www.kidney.org)
4. Wogen J et al.
A population-based study of compliance and persistency
with cardiovascular agents used in hypertension management.
แสดงบทคัดย่อในที่ประชุม ASH วันที่ 15-19 พ.ค.2544
สำหรับข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับโรคความดันโลหิตสูงและยา Diovan สามารถดูได้ที่ www.hypertensionandhealth.com
แหล่งข่าว: Novartis
ติดต่อ: Sophie Chapman โทร +44-207-318-8305 หรือ [email protected] หรือ Sarah King โทร +44-207-318-8311 หรือ [email protected] โดยบุคคลทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่ของ Chandler Chicco Agency ซึ่งดำเนินการให้กับ Norvatis
เว็บไซท์: http://www.hypertensionandhealth.com
http://www.novartis.com-- จบ--
--แปลและเรียบเรียงโดย-กช,พค,จพ/กก--

แท็ก AsiaNet   โปรตีน   asian  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ