ดาร์มสตัดท์, เยอรมนี--19 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
- ข้อตกลงครอบคลุมถึงรีเอเจนต์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดภายใต้แบรนด์เหล่านี้
- ข้อตกลงเชิงกลยุทธ์จะช่วย Luminex ขยายตลาดโฟลไซโทเมทรี มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
- คาดว่าจะปิดข้อตกลงได้ภายในปลายปี 2561
เมอร์ค (Merck) บริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ไม่หยุดนิ่ง ประกาศลงนามข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการขายธุรกิจ Flow Cytometry ให้แก่ Luminex Corporation เป็นมูลค่า 62.5 ล้านยูโร[1] สำหรับการปิดการทำธุรกรรมดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขตามที่กำหนด และคาดว่าจะเกิดขึ้นในปลายปี 2561
เมื่อการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ Luminex จะกลายเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องวิเคราะห์เซลล์อัตโนมัติ Amnis(R) และ Guava(R) รวมทั้งรีเอเจนต์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดภายใต้แบรนด์เหล่านี้ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำสำหรับแวดวงการวิจัย ทั้งนี้ เมอร์คจะยังคงบริหารจัดการเทคโนโลยีต่าง ๆ ของบริษัทต่อไป โดยอาศัยความได้เปรียบด้านนวัตกรรม และมอบเทคโนโลยีเหล่านี้ให้อยู่ในความดูแลของมือที่ดีที่สุด เพื่อเดินหน้าสร้างคุณค่าสำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
อูดิท บาทรา สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเมอร์ค และซีอีโอกลุ่มธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ (Life Science) กล่าวว่า "นี่คือโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับทั้งสององค์กร และผมขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อทีมงานที่มุ่งมั่นตั้งใจของเรา Luminex เป็นพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือไว้วางใจได้มาอย่างยาวนาน และมีโซลูชั่นที่กว้างขวางและหลากหลายสำหรับการตรวจวินิจฉัยทางคลินิก การค้นคว้าวิจัยยารักษาโรค และการวิจัยชีวการแพทย์ Luminex มีความเชื่อมั่นในการแก้ปัญหาที่ยากลำบากที่สุดในแวดวงชีววิทยาศาสตร์เช่นเดียวกันกับเรา ที่นี่จะเป็นบ้านหลังใหม่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีมงานที่จะได้สานต่อและต่อยอดความเชี่ยวชาญของพวกเขา ตลอดจนเปิดตัวโซลูชั่นใหม่ ๆ ในวงกว้างขึ้นต่อไป ขณะที่ลูกค้าปัจจุบันของเราจะได้เข้าถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นที่ยอมรับของ Luminex"
การเข้าซื้อธุรกิจในครั้งนี้จะช่วยขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบตรวจจับแบบ flow-based ที่มีอยู่ในปัจจุบันของ Luminex ซึ่งมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี xMAP(R) multiplexing โดยปัจจุบันทั่วโลกมีระบบ xMAP(R) จำหน่ายอยู่มากกว่า 15,000 ระบบ ตัวอย่างเช่น ImageStream(R)X Mark II Imaging Flow Cytometer ของเมอร์ค ซึ่งมีความไวสูงมาก และใช้เพื่อตรวจจับและศึกษาคุณสมบัติของอนุภาคขนาดเล็ก
โฮมี ชาเมียร์ ประธานและซีอีโอของ Luminex กล่าวว่า "ในฐานะที่เป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมเทคโนโลยี flow-based เราตื่นเต้นที่จะได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินในกลุ่มโฟลไซโทเมทรีของเมอร์ค ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับเรามาอย่างยาวนาน และจะเป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านระบบตรวจจับของเรา เพื่อตอบรับกับความสนใจของนักวิจัยในด้านการวิเคราะห์เซลล์ เราตั้งตารอที่จะได้ให้การต้อนรับทีมงานมากความสามารถของเมอร์คมาสู่ครอบครัว Luminex"
เกี่ยวกับ Luminex Corporation
Luminex มีภารกิจในการผลักดันให้ห้องแล็บต่าง ๆ ได้รับคำตอบที่เชื่อถือได้ ทันเวลา และสามารถนำไปปฏิบัติได้ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาสุขภาพในที่สุด เรานำเสนอโซลูชั่นมากมายและหลากหลายที่สามารถใช้งานได้ในหลายตลาด ได้แก่ การตรวจวินิจฉัยทางคลินิก การค้นคว้าวิจัยยารักษาโรค การวิจัยชีวการแพทย์ การวิจัยจีโนมิกและโปรโตมิก การวิจัยด้านชีวนิรภัย และความปลอดภัยของอาหาร เรากระตุ้นให้เกิดคำตอบที่เชื่อถือได้ พร้อมช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อน และมอบความมั่นใจด้วยประสบการณ์ที่ราบรื่น ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Luminex ได้ที่ www.luminexcorp.com
ติดตามเมอร์คได้ทาง Twitter @Merckgroup, Facebook @merckgroup และ LinkedIn
ข่าวประชาสัมพันธ์ทั้งหมดของเมอร์คได้รับการเผยแพร่ผ่านทางอีเมลในเวลาเดียวกับที่มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของเมอร์ค กรุณาเข้าไปที่ www.merckgroup.com/subscribe เพื่อลงทะเบียนออนไลน์ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกบริการนี้
เกี่ยวกับ เมอร์ค
เมอร์ค คือบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำในด้านการดูแลสุขภาพ ชีววิทยาศาสตร์ และเพอร์ฟอร์แม้นซ์ แมททิเรียล พนักงานประมาณ 53,000 คนของบริษัทได้ร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ช่วยปรับปรุงและยกระดับคุณภาพชีวิต ตั้งแต่ยาชีวภาพเพื่อรักษาโรคมะเร็งหรือโรคปลอกประสาทอักเสบ ระบบที่ทันสมัยสำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการผลิต ไปจนถึงผลึกเหลวที่ใช้กับจอแสดงผลสมาร์ทโฟนและโทรทัศน์ LCD ทั้งนี้ ในปี 2560 เมอร์คทำยอดขายได้ 1.53 หมื่นล้านยูโร ใน 66 ประเทศ
เมอร์ค เป็นบริษัทเภสัชภัณฑ์และเคมีที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2211 และปัจจุบันครอบครัวผู้ก่อตั้งยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมอร์คครอบครองสิทธิ์ในชื่อและแบรนด์ "เมอร์ค" ทั่วโลก ยกเว้นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งบริษัทดำเนินธุรกิจในชื่อ อีเอ็มดี เซโรโน, มิลลิพอร์ซิกมา และอีเอ็มดี เพอร์ฟอร์แมนซ์ แมททีเรียลส์
[1] ภายในวงเงินดังกล่าวนั้น ประมาณ 58.3 ล้านยูโร จะชำระภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นและสินทรัพย์ ขณะที่อีกประมาณ 4.2 ล้านยูโร จะเป็นการซื้อขายสินค้าคงคลังตามที่สัญญาไว้ ทั้งนี้ อัตราแลกเปลี่ยน EUR 1 = $ 1.20