นิวยอร์ก--22 พ.ย.--ซินหัว-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน แบรนด์ชาสมุนไพรที่มีประวัติความเป็นมายาวนานของจีนอย่าง "หวัง เหล่า จี๋" (Wang Lao Ji หรือรู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Wong Lo Kat) ได้เปิดตัวพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศแห่งแรกขึ้นที่เขตแมนฮันตันของมหานครนิวยอร์ก นับเป็นการออกมาปรากฏตัวสู่โลกภายนอกด้วยส่วนผสมใหม่ที่ลงตัวระหว่างประเพณีและนวัตกรรม
ด้วยความที่เป็นแบรนด์เครื่องดื่มชาสมุนไพรที่เก่าแก่ที่สุดของจีน ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2371 ทำให้ หวัง เหล่า จี๋ ได้รับความนิยมอย่างมากในจีนในฐานะเครื่องดื่มสุขภาพ ด้วยยอดขายในประเทศที่มากถึง 2 หมื่นล้านหยวน (2.88 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2561
ตลอดหลายปีมานี้ หวัง เหล่า จี๋ ได้ดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ระดับโลก และแนวคิดในการสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ด้วยการออกไปปรากฏตัวตามงานอีเวนต์ระดับนานาชาติหลากหลายงาน ตั้งแต่การประชุมฤดูร้อนและฤดูหนาวที่ดาวอส ไปจนถึงงานประชุม Fortune Global Forum ซึ่งส่งผลให้แบรนด์ได้รับความสนใจได้จากผู้บริโภคจำนวนมาก และมีโอกาสได้ถ่ายทอดวัฒนธรรมและคุณประโยชน์ของชาสมุนไพรจีนที่ดีต่อสุขภาพออกไปทั่วโลก
การปรับปรุงระบบการซื้อขายสินค้าในต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ปัจจุบัน หวัง เหล่า จี๋ มีผลิตภัณฑ์จำหน่ายอยู่ในกว่า 60 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ด้วยมูลค่าการส่งออกหลายสิบล้านหยวน และมีอัตราการเติบโตต่อปีอยู่ที่ราว 30% ในขณะที่สหรัฐอเมริกาได้กลายมาเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของแบรนด์ รองจากตลาดในจีนแผ่นดินใหญ่
อี้ จี่เจิ้ง รองผู้จัดการทั่วไปของ Guangzhou Wang Lao Ji Great Health Industry Co., Ltd. กล่าวว่า "พิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศแห่งแรกของ หวัง เหล่า จี๋ ในนิวยอร์กนี้ นอกจากจะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจวัฒนธรรมชาสมุนไพรของจีนได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้นแล้ว ที่สำคัญกว่านั้น ยังทำให้แบรนด์จีนที่มีมานานถึง 190 ปีได้ออกมาปรากฏตัวสู่สายตาชาวโลก"
แม้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะมีรูปลักษณ์ภายนอกที่ค่อนข้างทันสมัย แต่พื้นที่ภายในกลับเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นจีนที่โดดเด่น โดยมีการนำเสนอเรื่องราวในอดีตอันโชติช่วงและความสำเร็จของแบรนด์ตลอดระยะเวลา 190 ปีที่ผ่านมา ผ่านทางนิทรรศการในรูปแบบมัลติมีเดีย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการจัดแสดงสิ่งของและประวัติความเป็นอันยาวนานของแบรนด์ ซึ่งจะมอบประสบการณ์อันน่าจดจำให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมมีโอกาสได้ดื่มด่ำไปกับวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และความสร้างสรรค์ของชาสมุนไพรจีน
ภายในพิพิธภัณฑ์ยังเป็นที่ตั้งของร้านชาสมุนไพรสำเร็จรูป หวัง เหล่า จี๋ ที่คอยให้บริการเครื่องดื่มชาต้นตำรับยอดนิยมในหลากหลายรสชาติแก่ผู้มาเยือน นอกจากนี้ รูปแบบการบริโภคทางสังคมที่ได้ถูกปรับเปลี่ยนออกไปจากเดิม เช่น แนวคิดในเรื่องวิถีการดำเนินชีวิตให้มีสุขภาพดี ซึ่งทำให้เรื่องของธรรมชาติและพฤกษศาสตร์เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายขึ้นทั่วโลกนั้น ยังถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ให้กับเครื่องดื่มชาสมุนไพรบำรุงร่างกาย ด้วยเหตุนี้ หวัง เหล่า จี๋ ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมชาสมุนไพรของจีน จึงได้นำแบรนด์พื้นบ้านจีนก้าวเข้าสู่การยอมรับในระดับสากล
ณ จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์หน้าใหม่นี้ หวัง เหล่า จี๋ ได้ร่างแผนการพัฒนาระยะเวลา 10 ปีของบริษัท โดยจะเดินหน้าให้การสนับสนุนแนวทางการดำเนินชีวิตของผู้คนให้มีสุขภาพที่ดี มีความเจริญรุ่งเรือง และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่อยากมีร่างกายที่แข็งแรง ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมชาสมุนไพร ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท และในขณะเดียวกันก็ดำเนินการจัดทำแผนงานโดยรวมในด้านเครื่องดื่มชูกำลังจากสมุนไพร เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในระดับโลก
เฉิน เว่ยผิง ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปของ Guangzhou Pharmaceutical Holdings Limited กล่าวว่า "ในอนาคตข้างหน้า หวัง เหล่า จี๋ คาดว่าจะตั้งพิพิธภัณฑ์ชาขึ้นในอีก 56 เมืองทั่วโลก โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมเครื่องดื่มที่มีประโยชน์และเป็นมงคล รวมถึงเผยแพร่วัฒนธรรมจีนออกไปทั่วโลก ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้ตลาดเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพได้พัฒนาก้าวหน้าต่อไป"
ลิงก์ภาพประกอบ: http://asianetnews.net/view-attachment?attach-id=324787
ที่มา: Guangzhou Wang Lao Ji Great Health Industry Co.,Ltd.
AsiaNet 76408