คณะผู้อภิปรายทางการแพทย์ถกผลกระทบที่โรคระบาดมีต่อผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว และความจำเป็นในการให้ความสำคัญกับโรคเรื้อรังในอนาคต หลังทั่วโลกล็อกดาวน์เพื่อคุมโควิด-19 มาได้ 1 ปี

ข่าวทั่วไป Wednesday April 21, 2021 08:10 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

ในวันพุธที่ 21 เมษายน 2564 ตั้งแต่เวลา 8.00-9.30 น. ตามเวลา EDT สภาธุรกิจเพื่อความเข้าใจระหว่างประเทศ (BCIU) และ Viatris (NASDAQ: VTRS) เตรียมเปิดเวทีออนไลน์สืบเนื่องจากการประชุมประจำฤดูใบไม้ผลิปี 2564 ของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความจำเป็นในการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืน และการจัดหาเงินให้กับกลุ่มเสี่ยง ตลอดจนบทเรียนอื่น ๆ ที่ได้รู้มา หลังโรคโควิด-19 ระบาดมาได้ 1 ปี

การอภิปรายดังกล่าวมีหัวข้อว่า "Investing in the Patient Journey: NCDs and COVID-19 beyond the Pandemic" ซึ่งบรรดาผู้มีส่วนร่วมและผู้นำวงการสุขภาพทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกจะมาร่วมพูดคุย เพื่อชูให้เห็นว่าโรคโควิด-19 ทำให้ระบบสุขภาพทำงานหนัก ขณะที่ผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) ต้องแบกรับภาระสองเด้งในการดูแลรักษาโรค เพราะนอกจากจะมีโรคประจำตัวแล้วยังมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคโควิด-19 ด้วย ดำเนินการอภิปรายโดยผู้สื่อข่าวอย่าง Michelle Kosinski พร้อมด้วยสุนทรพจน์หลักจากดร. Jeremy Veillard ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระดับอาวุโสประจำลาตินอเมริกาและแคริบเบียนจากธนาคารโลก นอกจากนี้ ยังมีผู้เข้าร่วมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคุณ Menassie Taddese ประธานฝ่ายตลาดเกิดใหม่ของ Viatris, คุณ Helen McGuire

หัวหน้าโครงการระดับโลกแผนกโรคไม่ติดต่อเรื้อรังจาก PATH, คุณ Praveen Pardeshi ผู้ประสานงานโครงการระดับโลกประจำ The Defeat-NCD Partnership จากสถาบันฝึกอบรมและวิจัยแห่งสหประชาชาติ, ดร. Linda Bedran ประธานฝ่ายกิจการองค์กรประจำตลาดเกิดใหม่ของ Viatris และคุณ Kawaldip Sehmi ซีอีโอของ International Alliance of Patients' Organizations

"เราได้ใช้ชีวิตอยู่กับโรคโควิด-19 มาเกิน 1 ปีแล้ว โดยเรายังจำเป็นต้องยกระดับระบบสุขภาพไม่ให้ทำงานหนักมากเกินไปต่อไป และยังคงต้องสนับสนุนผู้ป่วยที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดหากสิ่งนั้นเกิดขึ้นจริง" Peter Tichansky ประธานและซีอีโอของ BCIU กล่าว "การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพช่วยขยับขยายการเข้าถึงการดูแลและบริการต่าง ๆ ให้ครอบคลุมผู้ที่จำเป็นต้องมีมากที่สุด เช่น ผู้ที่เสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคโควิด-19 มากที่สุด การแพร่ระบาดครั้งนี้ได้เข้ามาตอกย้ำว่า ความมั่นคงด้านสุขภาพคือความมั่นคงของชาติ โดยจำเป็นต้องยกระดับระบบสุขภาพให้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้นและหมั่นคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อให้โลกก้าวผ่านการแพร่ระบาดครั้งนี้และพร้อมรับมือกับครั้งต่อไป"

"การแพร่ระบาดได้สร้างแรงกดดันที่เข้ามาส่งผลกระทบและทำให้การวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCD) หลาย ๆ คน ต้องล่าช้าออกไป" Menassie Taddese ประธานฝ่ายตลาดเกิดใหม่ของ Viatris กล่าว "ผู้ป่วยกลุ่ม NCD มีความเสี่ยงสูงกว่ากลุ่มอื่นที่จะเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 โดยประเมินจาก NCD หลัก ๆ 4 ประเภท และปัจจัยเสี่ยง NCD 5 ประการ สิ่งนี้ย้ำเตือนเราว่า เราจะต่อสู้กับวิกฤตด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคมที่รุนแรงจนคุกคามชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้คนหลายล้านคนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้ได้ ก็ต่อเมื่อเราเปิดโอกาสให้เข้าถึงระบบดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้เท่านั้น" โดยก่อนเกิดการแพร่ระบาดนั้น ข้อมูลจาก WHO Strategic Response to NCD ที่เผยแพร่เมื่อปี 2561 ระบุว่า เงินที่ลงทุนในการป้องกันและควบคุมโรคกลุ่ม NCD ทุก 1 ดอลลาร์สหรัฐ จะให้ผลตอบแทนถึง 7 ดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 "อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดการแพร่ระบาด การจัดสรรทรัพยากรในการรักษาและป้องกันโรคกลุ่ม NCD นั้นมีความสำคัญยิ่งกว่าเดิมเพื่อป้องกันโรคโควิด-19 และเพื่อส่งเสริมเสถียรภาพของระบบสุขภาพและเศรษฐกิจการเงิน ความร่วมมืออย่างแข็งแกร่งกับหน่วยงานรัฐบาล สถาบันสุขภาพ และหน่วยงาน NGO ตามท้องถิ่นต่าง ๆ จะช่วยให้เรามีบทบาทสำคัญในการยกระดับประสบการณ์และวิธีการรักษาผู้ป่วยในอนาคตอันใกล้และในระยะยาว ซึ่งรวมถึงแผนป้องกันด้วย นี่คือพันธกิจของ Viatris ด้วยการช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่แข็งแรงและมีความสุขยิ่งขึ้น เรายังหวังที่จะช่วยให้ประเทศของพวกเขาเติบโตและเจริญรุ่งเรืองขึ้นด้วย" คุณ Taddese กล่าว

เวทีอภิปรายออนไลน์นี้พร้อมเปิดให้ทุกท่านเข้าร่วมแล้ว สื่อมวลชนและบุคคลทั่วไปลงทะเบียนเข้าร่วมได้ฟรีที่ลิงก์ https://bciu.zohobackstage.com/WBIMFLIFESCIENCESInvestinginthePatientJourneyNCDsandCOVID-19beyondthePandemic 

เกี่ยวกับ BCIU

สภาธุรกิจเพื่อความเข้าใจระหว่างประเทศ (BCIU) เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญ นักการศึกษา และที่ปรึกษา ที่ทำงานร่วมกันเพื่อขยายการค้าและการพาณิชย์ระหว่างประเทศสำหรับธุรกิจและรัฐบาลทั่วโลก BCIU มีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงล้ำลึกและได้รับความไว้วางใจจากบริษัทที่เป็นสมาชิกราว 200 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นบริษัทข้ามชาติระดับโลกหลายราย และมีเครือข่ายความสัมพันธ์กับรัฐบาลประเทศต่าง ๆ อย่างไม่มีใครเทียบเท่าในทั่วทุกมุมโลก เป็นเวลาถึง 65 ปีที่พวกเขาได้เชื่อในความคืบหน้าและกำหนดทิศทางอนาคตด้วยการจัดการกับความท้าทายที่ซับซ้อนเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ไม่ว่าจะในเรื่องสุขภาพระดับโลก ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ไปจนถึงความยั่งยืนทางการเกษตร BCIU ให้บริการที่ล้ำหน้าและปรับได้ตามความต้องการ เพื่อเปิดโอกาสให้พันธมิตรได้กระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและยกระดับการเติบโตในตลาดต่าง ๆ ทั่วโลก

เกี่ยวกับ Viatris

Viatris Inc. (NASDAQ: VTRS) เป็นบริษัทดูแลสุขภาพรูปแบบใหม่ โดยส่งเสริมให้ผู้คนทั่วโลกมีชีวิตที่แข็งแรงขึ้นในทุกระยะของชีวิต เราเปิดโอกาสให้เข้าถึงยา ยกระดับการดำเนินงานอย่างยั่งยืน พัฒนาโซลูชันล้ำสมัย และงัดใช้ประสบการณ์ที่เราได้สั่งสมมา เพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ผ่าน Global Healthcare Gateway(R) ที่ไม่เหมือนใครของเรา Viatris ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2563 โดยรวบรวมความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ การผลิต และการจัดจำหน่าย เข้ากับขีดความสามารถด้านการกำกับดูแล การแพทย์ และการค้า เพื่อมอบยาคุณภาพสูงแก่ผู้ป่วยในกว่า 165 ประเทศและดินแดน กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Viatris ประกอบด้วยโมเลกุลที่ได้รับอนุมัติแล้วกว่า 1,400 รายการในการรักษาโรคประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคไม่ติดต่อและโรคติดเชื้อ โดยเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก รวมถึงยาสามัญมีแบรนด์ที่ซับซ้อน ยาชีววัตถุคล้ายคลึงที่มีจำนวนมากขึ้น และยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ทั่วไป Viatris มีพนักงานประมาณ 45,000 คนทั่วโลก มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐ และมีศูนย์ดำเนินงานระดับโลกในเมืองพิตต์สเบิร์ก นครเซี่ยงไฮ้ของจีน และนครไฮเดอราบัดของอินเดีย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ viatris.com และ investor.viatris.com และติดตามเราได้ทาง Twitter @ViatrisInc, LinkedIn และ YouTube

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1491467/BCIU_vertical.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1335246/Viatris_Logo.jpg


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ