รัฐสภาลงมติให้ความเห็นชอบ กรอบการเจรจาข้อตกลงความร่วมมือระหว่างไทยกับฮ่องกง เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างไทย-ฮ่องกง ในสาขาต่างๆ ที่แต่ละฝ่ายมีศักยภาพและเป็นประโยชน์ต่อกัน
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดทำกรอบเจรจาข้อตกลงความร่วมมือระหว่างไทยกับฮ่องกง เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า และได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2550 เรียบร้อยแล้ว โดยกระทรวงพาณิชย์จะเร่งเปิดเจรจากับฮ่องกงตามกรอบที่ได้รับอนุมัติต่อไป
“ฮ่องกงได้ทาบทามขอทำ FTA กับไทย มาตั้งแต่ปลายปี 2550 แต่หลังจากไทยให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศไปศึกษาความเป็นไปได้ หารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดเวทีรับฟังความเห็นจากประชาชนในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศแล้ว ทุกฝ่ายเห็นว่าไทยจะไม่ค่อยได้ประโยชน์จากการทำ FTA กับฮ่องกง เพราะฮ่องกงมีการเปิดเสรีค่อนข้างมากแล้ว จึงเห็นว่าควรทำข้อตกลงในรูปแบบของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อไทยมากกว่า” นายอลงกรณ์ กล่าว
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า ฮ่องกงเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญต่อไทยมาโดยตลอด โดยปัจจุบันฮ่องกงเป็นคู่ค้าอันดับ 7 ของไทย การทำข้อตกลงความร่วมมือในรูปแบบดังกล่าว จะช่วยให้ไทยสามารถสร้างความร่วมมืออย่างใกล้ชิดทางเศรษฐกิจกับฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์กลางในสาขาโลจิสติกส์ การเงิน และการธนาคารที่สำคัญของภูมิภาคเอเชีย อีกทั้ง ยังเปิดโอกาสให้ไทยสามารถได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและ Know-how ในสาขาต่างๆ ที่ฮ่องกงมีความเชี่ยวชาญอีกด้วย
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630