ไทยดันสรุปเจรจาค้าเสรีกับอินเดีย เสริมพันธมิตรเอกชนสองฝ่าย

ข่าวทั่วไป Wednesday April 20, 2011 15:25 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

‘อลงกรณ์’ ตัวแทนพาณิชย์ร่วมคณะเยือนอินเดียของนายกรัฐมตรี (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ในระหว่างวันที่ 4 - 6 เมษายน 2554 ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ตั้งเป้าหมายการค้าสองฝ่ายขยายตัวเป็น 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2557 ดันการเจรจา FTA กับอินเดีย ให้บรรลุผลทั้งในกรอบทวิภาคีและภูมิภาค

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 4 - 6 เมษายน 2554 จะร่วมเดินทางเยือนอินเดียกับคณะของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีอินเดีย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในส่วนของการค้า มีเป้าหมายสำคัญที่เราต้องการผลักดันคือการตั้งเป้าหมายการค้าให้ขยายตัวถึง 12,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2557 จากเดิมที่เคยได้ตั้งเป้าหมายการค้า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2555

การเยือนอินเดียในครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 4 ในรอบเกือบ 1 ปีที่ผ่านมาของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะได้แสดงให้อินเดียเห็นถึงความตั้งใจจริงของไทย ที่ต้องการกระชับความสัมพันธ์ในด้านต่างๆ ให้มีความรุดหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุน โดยหนึ่งในกลไกสำคัญคือการเจรจา FTA ของไทยกับอินเดีย ที่ปัจจุบันมีการเจรจาระหว่างกันใน 3 กรอบการเจรจา คือ 1) อาเซียน-อินเดีย 2) ไทย-อินเดีย และ 3) BIMSTEC ซึ่งภายใต้กรอบอาเซียน-อินเดีย ได้เริ่มลดภาษีสินค้าระหว่างกันไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ยังคงเหลือการเจรจาด้านการค้าบริการ และการลงทุน ส่วน BIMSTEC ล่าสุด ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในระดับเจ้าหน้าที่ เพื่อเจรจาจัดทำความตกลงการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุน ไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สิ่งต้องการผลักดันในการเดินทางเยือนอินเดียครั้งนี้ คือให้การเจรจา FTA ระหว่างไทยกับอินเดีย มีความก้าวหน้า โดยเฉพาะในกรอบไทย-อินเดีย ที่ตั้งเป้าว่าจะสรุปผลการเจรจาที่ครอบคลุมทั้งการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ยกเลิกภาษีสินค้าส่วนแรกไปแล้ว (Early Harvest Scheme) ตั้งแต่ปี 2549 แต่ครอบคลุมสินค้าเพียง 82 รายการเท่านั้น

นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากจะได้เข้าพบหารือผู้บริหารระดับสูงภาครัฐของอินเดียแล้ว ยังจะมีการจัดกิจกรรม Business Lunch โดยภาคเอกชนหลัก 3 สถาบันของอินเดีย จะเป็นเจ้าภาพ ได้แก่ FICCI, CII และ ASSOCHAM ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ภาครัฐและเอกชนทั้งสองฝ่ายได้พบปะหารือ และเปลี่ยนข้อคิดเห็นทางการค้า การลงทุน เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันจากศักยภาพตลาดการค้า การลงทุนของทั้งสองประเทศ โดยจะมีการจับคู่ทางธุรกิจ (business matching) ระหว่างภาคเอกชนสองฝ่ายต่อในช่วงบ่ายด้วย

ปี 2553 อินเดียเป็นคู่ค้าอันดับที่.17 ของไทย มีมูลค่าการค้าสองฝ่าย 6,646 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 34.23 แบ่งเป็นการส่งออกไปอินเดียมูลค่า 4,394 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และนำเข้าจากอินเดียมูลค่า 2,253 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนการค้าในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2554 มีมูลค่า.1,280.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 9.62 โดยไทยส่งออกเป็นมูลค่า 814.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.76 และนำเข้าจากอินเดียเป็นมูลค่า 465.62 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.30 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ