รมต. เศรษฐกิจอาเซียนถกเปิดเสรีการค้าบริการชุดที่ 8 วางกรอบเอฟทีเอกับภาคีนอกกลุ่มอาเซียน 6 ประเทศ

ข่าวทั่วไป Friday March 2, 2012 14:51 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการในเวทีอาเซียนเป็นครั้งแรก โดยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (AEM Retreat) ครั้งที่ 18 วันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2555 ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์

สำหรับประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประเทศภายนอกภูมิภาคของอาเซียนที่ได้มีการหารือกันในครั้งนี้ คือ การพิจารณาแนวทางการเจรจาจัดทำเอฟทีเอกับประเทศนอกกลุ่มอาเซียนมากกว่า 1 ประเทศ หรือ ASEAN ++FTA ซึ่งจะเป็นการเจรจากับประเทศที่มีความตกลงการค้าเสรีกับอาเซียนแล้ว ได้แก่ จีน อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ โดยรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนเห็นร่วมกันว่าอาเซียนต้องพิจารณาแนวทางของอาเซียนให้ชัดเจนโดยเร็ว เนื่องจากขณะนี้การเจรจาจัดทำข้อตกลงหุ้นส่วนภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) และเขตการค้าเสรีเอเชียตะวันออกระหว่างจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี เป็นปัจจัยที่ลดทอนการให้ความสำคัญต่ออาเซียนของคู่เจรจาลง และอาจทำให้อาเซียนสูญเสียความเป็นศูนย์กลาง (ASEAN Centrality) ได้ ทั้งนี้ อาเซียนคาดว่าจะเริ่มเปิดการเจรจาเรื่อง ASEAN ++FTA ในช่วงปลายปีนี้

ที่ประชุมยังได้หารือและเน้นย้ำความสำคัญเรื่องการใช้มาตรการที่มิใช่ภาษีของประเทศสมาชิก โดยให้แต่ละประเทศแจ้งมาตรการที่มิใช่ภาษีต่อสมาชิกอื่น ล่วงหน้า 6 เดือนก่อนกฎระเบียบมีผลใช้บังคับ และให้มีการกำหนดกลไกที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นในการจัดการกับมาตรการเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการค้าภายในภูมิภาคของอาเซียนให้ขยายตัวรวดเร็วขึ้น รวมทั้งรัฐมนตรีเศรษฐกิจต่างเห็นพ้องกันว่าจะต้องมีการส่งเสริมบทบาทและสร้างความเข้มแข็งของภาคเอกชนอาเซียนให้มากขึ้นด้วย

ในช่วงระหว่างการประชุมในครั้งนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยยังได้พบหารือสองฝ่ายกับรัฐมนตรีการค้าของอินโดนีเซีย และรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมของฟิลิปปินส์เพื่อผลักดันให้ทั้งสองประเทศแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับสินค้าไทยที่ส่งออกไปยังทั้งสองประเทศ โดยอินโดนีเซียมีการกำหนดท่าเรือที่จะนำเข้าสินค้าผลไม้จากไทยทำให้ท่าเรือที่สามารถนำเข้าผลไม้จากไทยมีน้อยลง โดยอ้างเหตุผลในด้านสุขอนามัย สำหรับฟิลิปปินส์ในปีที่แล้วมีการนำเข้าข้าวจากไทยน้อยกว่าปริมาณที่เคยตกลงกันไว้ในกรอบอาฟต้า โดยให้เหตุผลว่าในปีที่ผ่านรัฐบาลได้จัดสรรโควตาการนำเข้าข้าวให้กับเอกชนมากขึ้น ซึ่งเอกชนนำเข้าข้าวคุณภาพที่ต่ำกว่าข้าวไทยเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ตัวเลขปริมาณนำเข้าข้าวไม่ถึงตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งฝ่ายฟิลิปปินส์รับจะผลักดันให้เอกชนนำเข้าข้าวจากไทยให้มากขึ้น

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ