ไทย-สหรัฐฯ หารือ TIFA JC เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ข่าวทั่วไป Thursday January 31, 2013 15:34 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

ตามที่ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร และประธานาธิบดีบารัคโอบามา ได้มีแถลงการณ์ร่วมให้รื้อฟื้น การประชุมคณะมนตรีภายใต้กรอบความตกลงการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐฯ (Trade and Investment Framework Agreement: TIFA JC) เพื่อเป็นช่องทางการหารือทวิภาคีในการขยายการค้าการลงทุนระหว่างกัน หลังจากที่ประเทศไทยได้เคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งแรกเมื่อปี 2546

นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15-16 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา ได้นำคณะผู้แทนไทยซึ่งประกอบด้วย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ผู้แทนกรมประมง กรมปศุสัตว์ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมทรัพย์สินทางปัญญา และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เข้าร่วมประชุมหารือ TIFA JC ไทย-สหรัฐฯ ระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส ครั้งที่ 2 ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี โดยมีนาง Babara Weisel ผู้ช่วยผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายสหรัฐฯ

ในการประชุมทวิภาคีกับสหรัฐฯ ครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้หยิบยกประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการค้าของไทย เช่น รายงานของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับในไทย สืบเนื่องจากการที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ จัดทำ เผยแพร่รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Trafficking in Persons Report: TIP Report) และกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานและบัญชีรายชื่อสินค้าที่มีการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับเอกสารรายงานเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ซึ่งสินค้าไทยที่อยู่ในบัญชีดังกล่าวมีจำนวน 5 รายการ ได้แก่ สิ่งทอ กุ้ง สื่อลามก อ้อย และปลา ฝ่ายไทยได้ชี้แจงให้ผู้แทนหน่วยงานของสหรัฐฯ ได้ทราบถึงการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ประจำปี 2555-2556 ของประเทศไทย รวมทั้งการแก้ไขปัญหา และส่งเสริมสภาพการทำงานที่ดีในอุตสาหกรรมประมง โดยขอให้สหรัฐฯ ใช้ข้อมูลจากภาครัฐของไปประกอบการจัดทำรายงานด้วย ซึ่งผู้แทนกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แจ้งว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง และเข้าใจต่อการให้ความสำคัญในเรื่องนี้ของประเทศไทย โดยจะนำข้อมูลดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาต่อไป

ประเด็นสำคัญอื่นที่ไทยหยิบยกขึ้นหารือ ได้แก่ การประกาศใช้กฎหมายป้องกันการแข่งขันธุรกิจที่ไม่เป็นธรรม (Unfair Competition Act: UCA) ในระดับมลรัฐของสหรัฐฯ การใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (AD/CVD) ของสหรัฐฯ กับสินค้าไทย และการใช้มาตรการห้ามนำเข้าหนังจระเข้และผลิตภัณฑ์จากไทย พร้อมกันนี้ได้ชี้แจงประเด็นที่สหรัฐฯ มีข้อกังวล ได้แก่ การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทย การกำหนดให้การส่งผ่านข้อมูลธุรกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่เกิดขึ้นในประเทศ ต้องผ่านศูนย์กลางรับส่งข้อมูลรายการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่จัดตั้งและดำเนินการภายในประเทศ มาตรการห้ามนำเข้าเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ที่ตรวจพบสาร Ractopamine นโยบายการค้าข้าว การขยายขอบเขตความตกลง ITA และการกำหนดข้อห้ามการครอบงำกิจการโทรคมนาคมโดยคนต่างด้าว (Foreign Dominance Regulations) ของไทย เป็นต้น

โดยที่ สินค้าประมง และสิ่งทอ เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทยในตลาดสหรัฐฯ คณะผู้แทนไทยได้ใช้โอกาสนี้ ชี้แจงข้อเท็จจริงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์การใช้แรงงานในอุตสาหกรรมดังกล่าว รวมทั้งการดำเนินงานในการยกระดับมาตรฐานแรงงานของไทย เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้แทนสถาบันประมงแห่งชาติสหรัฐฯ (National Fisheries Institute: NFI) บริษัทที่ปรึกษาเรื่องสิ่งทอสหรัฐฯ (International Development System Inc: IDS) และผู้บริหารของบริษัทนำเข้ารายสำคัญในสหรัฐฯ เช่น Chicken of the Sea Frozen Foods, H & N Group, C.P. Food Products, Inc. , ACE Group, King & Prince Seafood Corporation, Eastern Fish Company , Dacon Trading และ Costco เป็นต้น

ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าลำดับที่ 5 ของไทย โดยการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ในช่วง 11 เดือนแรก (ม.ค. — พ.ย.) ของปี 2555 มีมูลค่า 32,914 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 21,019 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่นำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 11,895 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ไทยได้ดุลการค้าสหรัฐฯ มูลค่า 9,124 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปสหรัฐฯ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป อัญมณีและเครื่องประดับ และเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญของไทยจากสหรัฐฯ ได้แก่ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ เป็นต้น

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ