การค้าไทย-กัมพูชา ขยายตัวเกินคาด ยันตั้งเป้าการค้าให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ต่อปี

ข่าวทั่วไป Monday April 29, 2013 17:02 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

รัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ (นายบุญทรง เตริยาภิรมย์) เป็นประธานร่วมกับรัฐมนตรีอาวุโสและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา (นายจอม ประสิทธิ์) ในการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) ระหว่างกัมพูชากับไทย ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2556 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ร่วมด้วยผู้แทนภาครัฐที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่าย

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายพอใจการขยายตัวทางการค้าระหว่างกันซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ในการประชุม JTC ครั้งก่อนให้ ขยายตัวร้อยละ 30 ต่อปี ในช่วงปี 2555-58 โดยในปี 2555 จากสถิติการค้าของไทย การค้าของไทยกับกัมพูชาขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.5 จาก 2,869 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2554 เป็น 4,030 ล้านเหรีญสหรัฐฯ ในปี 2555 จึงยืนยันเป้าหมายการค้าให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ต่อปี ต่อไป โดยเห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว คือ การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการความร่วมมือ ทางการค้าและการลงทุน ปี 2555-2558 ที่ทั้งสองฝ่ายได้ริเริ่มไว้ รวมถึงผลจากการดำเนินการไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) ในปี 2558

ทั้งนี้ การทบทวนตามแผนปฏิบัติการฯ มีความคืบหน้า ดังนี้

(1) ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนในสินค้าเกษตร ไทยและกัมพูชายืนยันที่ จะร่วมกัน จัดทำความร่วมมือด้านตลาดข้าวซึ่งได้ยกระดับเป็นความร่วมมือข้าว 5 ประเทศในอาเซียน ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ ไทย และเวียดนาม มีวัตถุประสงค์ เพื่อยกระดับและเสริมสร้างเสถียรภาพราคาข้าวในตลาดโลก และเป็นการเตรียมตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงในโลก เช่น เรื่องความมั่นคงด้านอาหาร โดยมีกลไกการทำงานใน 3 ระดับ คือ การประชุมรัฐมนตรีข้าว 5 ประเทศ (ASEAN5-E Ministerial Meeting) การประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส (ASEAN Rice Cooperation Committee) และการจัดตั้งสมาพันธ์ผู้สีและค้าข้าวของภาคเอกชน (ASEAN Rice Miller and Trader Federation)

อีกทั้ง ยังได้เห็นชอบที่จะร่วมกันผลักดันความร่วมมือด้านมันสำปะหลัง ให้มีผลเป็นรูปธรรม มากขึ้น เพื่อช่วยยกระดับและรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง รวมถึงการเสริมสร้างอำนาจต่อรองด้านราคา ในฐานะประเทศผู้ผลิตมันสำปะหลังรายสำคัญในตลาดโลก นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้ขอให้ไทยทบทวนมาตรการ นำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง เพื่อส่งเสริมให้การค้าสองฝ่ายเป็นไปโดยสะดวกยิ่งขึ้น

(2) การเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยินดี กับการเริ่มเดินรถขนส่งระหว่างไทยกับ กัมพูชาบนเส้นทางเศรษฐกิจผ่านจุดผ่านแดนอรัญประเทศ-ปอยเปต ตามความตกลงการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Sub-region Cross Border Transport Agreement: GMS CBTA) ซึ่งไทยและกัมพูชาเป็นสมาชิกร่วมกับสมาชิก GMS อีก 4 ประเทศ คือ ลาว เวียดนาม เมียนมาร์ และจีนตอนใต้ ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบที่จะประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการเพื่อส่งเสริมการขนส่งคนและ สินค้าระหว่างกันให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น การลดขั้นตอนพิธีการศุลกากร การตรวจปล่อยสินค้า และการตรวจคนเข้าเมือง ตลอดจนการยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมอย่างไม่เป็นทางการสำหรับผู้โดยสารข้ามประเทศ และการพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำระบบหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-passport) มาใช้

(3) การส่งเสริมและการอำนวยความสะดวกการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนให้มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มพูนปริมาณและมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกัน เช่น การแลกเปลี่ยนการเยือนของคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชน การจัดงานแสดงสินค้า นิทรรศการ และกิจกรรมการจับคู่ และสร้างเครือข่ายธุรกิจ นอกจากนี้ยังได้เห็นชอบที่จะร่วมกันพิจารณาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะสินค้า OTOP ของไทยและกัมพูชาในพื้นที่จุดพักรถในจังหวัดโพธิสัต ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางการขนส่งระหว่างกรุงเทพฯกับกรุงพนมเปญ และเพื่อเป็นการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนทั้งในไทยและในกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบที่จะผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเริ่มต้นการหารือเกี่ยวกับกระบวนการเจรจาความตกลงเพื่อการยกเว้นการเก็บภาษีซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชา

(4) ความร่วมมือด้านวิชาการ ทั้งสองฝ่ายได้มีความร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และ แนวทางปฏิบัติที่ดีในการกำหนดและดำเนินนโยบายการค้า เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ดีระหว่างกันอันจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายตัวทางการค้าและการลงทุนต่อไป

(5) ความร่วมมือสาขาใหม่ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว โดยสนับสนุน ให้มีการดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่การใช้ประโยชน์จาก ACMECS Single Visa scheme และการจัดให้มีช่องทางด่วนสำหรับนักท่องเที่ยวที่ด่าน ชายแดน เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ

นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้ขอให้ไทยพิจารณาให้การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความร่วมมือด้านการผลิตอาหาร ฮาลาล เพื่อส่งออกไปยังประเทศที่สาม และเห็นชอบร่วมกันให้มีการจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อพิจารณาแผนความร่วมมือในการปรับปรุงกระบวนการส่งออกและนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังให้ง่ายขึ้น และคณะทำงานร่วมเพื่อศึกษาห่วงโซ่อุปทานสินค้าเกษตร โดยให้มีการรายงานผลการศึกษาต่อที่ประชุม JTC ครั้งที่ 5 ซึ่งฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพในปี 2557

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ