‘กรมเจรจาฯ’ ลุยน่าน ดันสินค้าพรีเมียมใช้ประโยชน์จาก FTA บุกตลาดต่างประเทศ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 26, 2022 15:09 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จับมือสภาเกษตรกรแห่งชาติ ลงพื้นที่ จ.น่าน พบหารือเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ผู้ผลิตสินค้ากาแฟ สมุนไพรแปรรูป มะม่วง และผ้าทอพื้นเมือง พร้อมนำทัพกูรูจัดเวทีวิเคราะห์สินค้า แนะยกระดับการผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐาน ตอบโจทย์ผู้บริโภค สร้างเอกลักษณ์และแนวทางการเพิ่มมูลค่าสินค้าจากนวัตกรรมและเทคโนโลยี ชี้ช่องโอกาสใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายส่งออก

นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม) ลงพื้นที่จังหวัดน่าน ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดน่าน และสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 18 ? 20 กันยายน 2565 โดยได้พบหารือกับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการผู้ผลิตสินค้าที่มีศักยภาพ ได้แก่ กาแฟ สมุนไพรแปรรูป มะม่วง ผ้าทอพื้นเมือง เพื่อส่งเสริมให้ใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ขยายการส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ ภายใต้โครงการ ?การเพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรี? ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามนโยบาย ?เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด? ของกระทรวงพาณิชย์

นางสาวบุณิกา กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ กรมได้จัดการสัมมนาและเปิดเวทีวิเคราะห์สินค้า โดยนำทีมวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำเรื่องการใช้ประโยชน์จาก FTA กฎระเบียบทางการค้า การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ BCG และ Zero Waste กลยุทธ์การทำตลาดแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งแนวทางเพิ่มมูลค่าสินค้าจากกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพและมาตรฐาน การขึ้นทะเบียนสินค้า GI การสร้างเรื่องราวของสินค้า และการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีสร้างเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาดและจำหน่ายได้ในราคาสูงขึ้น

นางสาวบุณิกา เพิ่มเติมว่า กรมยังได้พบหารือกับผู้ประกอบการห้างหุ้นส่วนจำกัด น่านดูโอ คอฟฟี่ อำเภอเวียงสา และวิสาหกิจชุมชนกาแฟเดอม้งมณีพฤกษ์ อำเภอทุ่งช้าง ซึ่งเป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟและผลิตภัณฑ์กาแฟแปรรูป โดยจุดเด่นของน่านดูโอคอฟฟี่ คือ รับซื้อเมล็ดกาแฟพันธุ์อะราบิกาและโรบัสตาจากเกษตรกรลูกไร่ 1,400 ครัวเรือน และควบคุมวัตถุดิบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีผลิตภัณฑ์กาแฟคั่ว กาแฟสำเร็จรูป 3 in 1 และร้านกาแฟแฟรนไชส์ โดยวางจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ ทั้งแม็คโคร บิ๊กซี โลตัส และ Tops Supermarket รวมทั้งได้นำกากกาแฟมาพัฒนาเป็นสบู่กาแฟ และเครื่องสำอาง ส่วนกาแฟเดอม้งมณีพฤกษ์เป็นกาแฟพันธุ์อะราบิกา ปลูกในพื้นที่ดินภูเขาไฟมีแร่ธาตุโพแทสเซียมสูง มีคุณสมบัติสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ทุกขั้นตอน รวมถึงได้รับรางวัลจากการประกวดแข่งขันคุณภาพกาแฟ อาทิ รางวัลชนะเลิศการประมูล 10 สุดยอดกาแฟไทย ปี 2565 ประเภทกาแฟอะราบิกาแบบกึ่งแห้ง ได้ราคาประมูลสูงถึงกิโลกรัมละ 23,000 บาท ซึ่งกาแฟของน่านถือเป็นสินค้าที่มีศักยภาพและมีชื่อเสียงอันดับต้นของประเทศ

นอกจากนี้ ยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลการค้ากับเกษตรกรและผู้ประกอบการของวิสาหกิจชุมชนชีววิถีตำบลนาเกี๋ยน อำเภอภูเพียง ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชนที่มีความเข้มแข็ง มีสมาชิก 700 ราย เป็นผู้ผลิตสินค้าสมุนไพรแปรรูปมากกว่า 40 รายการ อาทิ เครื่องสำอาง แชมพู ครีมทาผิวกายและผิวหน้า โดยวางจำหน่ายทั่วประเทศที่ร้านสมุนไพรตำรับไทย 7-11 และ Tops Supermarket ซึ่งวิสาหกิจชุมชนสนใจส่งออกสินค้าไปตลาด CLMV ทั้งนี้ ยังได้พบหารือกับเกษตรกรและผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ปลูกมะม่วงเพื่อการส่งออกป่ากลาง อำเภอปัว ผู้ผลิตมะม่วงและลำไยคุณภาพ โดยจำหน่ายตลาดในประเทศและส่งออกไปตลาดญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

?จังหวัดน่านมีสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับพรีเมียมที่จำหน่ายได้ในราคาสูง สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและคนในพื้นที่ กรมจึงมุ่งผลักดันให้เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ ใช้ประโยชน์จาก FTA ที่ไทยทำไว้ 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศ อาทิ อาเซียน จีน อินเดีย และญี่ปุ่น ซึ่งประเทศคู่ค้าได้ลดและยกเว้นภาษีนำเข้าศุลกากรให้กับสินค้าจากไทยแล้ว เพื่อสร้างแต้มต่อทางการค้าขยายการส่งออกไปตลาดโลก? นางสาวบุณิกาเสริม

ปัจจุบันประเทศคู่ค้า FTA ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าเมล็ดกาแฟจากไทยทุกรายการแล้ว ยกเว้น 4 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน เปรู และอินเดีย สำหรับในช่วงเดือน ม.ค. ? ก.ค. 2565 ไทยส่งออกสินค้าเมล็ดกาแฟไปตลาดโลก มูลค่า 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ อาเซียน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ เยอรมนี และแคนาดา สำหรับสินค้าผลิตภัณฑ์กาแฟ พบว่า 17 ประเทศคู่ค้า FTA ได้ยกเว้นภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์กาแฟจากไทยทุกรายการแล้ว ยกเว้นอินเดียที่ยังคงเก็บภาษีร้อยละ 30 โดยในช่วงเดือน ม.ค. ? ก.ค. 2565 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์กาแฟไปตลาดโลก มูลค่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ อาเซียน ออสเตรเลีย ฮ่องกง จีน และเนเธอร์แลนด์

22 กันยายน 2565

ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ