วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เวลา 8.30 น.
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังหารือกับนางอันนา ฮัมมาร์เกรน (H.E. Mrs. Anna Hammargren) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรสวีเดนประจำประเทศไทยและคณะผู้แทนภาครัฐและภาคเอกชนของสวีเดน เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (30 เม.ย.) ที่กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน
โดยไทยกับสวีเดนมีความสัมพันธ์ที่ดีมาอย่างยาวนาน 156 ปี มีบริษัทสวีเดนลงทุนในไทยกว่าร้อยราย เช่น SAAB Volvo ElectroluxIKEA Ericsson Purac ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นว่ายังสามารถขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศให้มากยิ่งขึ้น โดยตนได้เชิญชวนให้สวีเดนขยายการลงทุนเพิ่มในไทยในสาขาที่สวีเดนมีศักยภาพและมีความเชี่ยวชาญ ที่เป็นการเปลี่ยนผ่านพลังงานสีเขียว เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า(EV) โซล่าร์เซลล์ พลังงานหมุนเวียน รวมถึงสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมด้านสีเขียวและความยั่งยืน เป็นต้น
นายภูมิธรรมเพิ่มเติมว่า ยังได้หารือถึงประเด็นความร่วมมือสำคัญอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของ ทั้งสองฝ่าย เช่น ด้านคมนาคม การศึกษา วิจัยและนวัตกรรม ความมั่นคงและการป้องกันประเทศ โดยฝ่ายสวีเดนได้แจ้งว่า สวีเดนอยู่ระหว่างการหารือกับกองทัพอากาศไทย เพื่อสานต่อความร่วมมือทางด้านการป้องกันประเทศ ที่สวีเดนมีความเชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (EU) ที่อยู่ระหว่างการเจรจา โดยได้ขอให้สวีเดนในฐานะประเทศสมาชิกของ EU สนับสนุนการเจรจาดังกล่าว เพื่อให้สามารถสรุปผลการเจรจาได้โดยเร็ว เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับประเทศสมาชิก EU 27 ประเทศ รวมถึงสวีเดนด้วย ซึ่งท่านเอกอัครราชทูตสวีเดนได้แจ้งพร้อมให้การสนับสนุนการเจรจา FTA กับไทยเพื่อบรรลุข้อตกลงที่ครอบคลุมและได้ประโยชน์ร่วมกัน
สวีเดนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 39 ของไทย และอันดับที่ 7 จาก EU โดยในปี 2566 ไทยและสวีเดนมีการค้าระหว่างกันรวม 1,137.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (46,405.63 ล้านบาท) ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 0.13 มีสัดส่วนการค้ารวมคิดเป็นร้อยละ 0.23 ของการค้าทั้งหมดของไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปสวีเดน 527.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (18,169.48 ล้านบาท) และไทยนำเข้าจากสวีเดน 810.11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (28,236.15 ล้านบาท) สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับให้สัญญาณเสียงและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์
ที่มา: กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ